การโน้มน้าวใจ หมายถึง อะไร มารู้จักความหมาย และตัวอย่างการโน้มน้าวใจกัน !

เคยเจอสถานการณ์ที่ว่า เราคล้อยตามคำพูดของใครบางคน หรือรู้สึกว่าคนๆ นั้นพูดจามีความน่าเชื่อถือ ชวนให้เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งมั้ยคะ ? สิ่งนี้คือวิธีการที่ผู้พูดใช้วิธีพูดโน้มน้าวใจผู้ฟัง ทำให้รู้สึกคล้อยตาม หรือรู้สึกเห็นด้วยกับสิ่งๆ นั้น แท้จริงแล้ว การโน้มน้าวใจ หมายถึง อะไร ? การโน้มน้าวใจมีวัตถุประสงค์เพื่อสิ่งใดบ้าง มารู้จักความหมายของการโน้มน้าวใจ พร้อมตัวอย่างของการพูดโน้มน้าวใจให้มากขึ้นกันเลยค่ะ

การโน้มน้าวใจ หมายถึง อะไร ? ส่งผลยังไงกับเรา

การโน้มน้าวใจ หมายถึง การพูดเชิญชวน เกลี้ยกล่อม หรือชักจูงให้ผู้ฟังเกิดความเชื่อถือ รู้สึกคล้อยตาม หรือมีความศรัทธา และอยากจะปฏิบัติตามการโน้มน้าวใจนั้นๆ เช่น การพูดโฆษณาสินค้า การพูดหาเสียง การพูดเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ การพูดชักจูงให้เปลี่ยนแปลงทัศนคติ รวมถึงการพูดปลุกใจ ซึ่งผู้ฟังหรือผู้รับสารจะรู้สึกคล้อยตามและเห็นด้วยผู้พูด ทังยังมีแนวโน้มที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำหรือสิ่งที่ผู้พูดนำเสนออีกด้วย ตัวอย่างการโน้มน้าวใจก็เช่น  การโน้มน้าวใจจากไลฟ์โค้ช หรือคนดังที่กล่าวสุนทรพจน์สร้างแรงบันดาลใจหลายๆ ท่าน ที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเห็นด้วยและเชื่อมโยงไปกับผู้พูดนั่นเองค่ะ

กลวิธีการโน้มน้าวใจ มีอะไรบ้าง ?

ตอนนี้เราก็พอจะเห็นภาพกันบ้างแล้วว่า การโน้มน้าวใจ หมายถึงอะไร ซึ่งวิธีในการพูดโน้มน้าวใจนั้นก็มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ดังนี้ค่ะ

1. การสร้างศรัทธาหรือความน่าเชื่อถือ :  โดยการแสดงให้เห็นว่ามีความรู้อย่างแท้จริง รวมถึงการแสดงให้เห็นถึงคุณธรรมและความจริงใจ ก็จะสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้เกิดการคล้อยตามได้ 
2. การใช้เหตุผลที่มีน้ำหนักสมเหตุสมผล :  โดยพูดถึงความเป็นเหตุเป็นผล มีความหนักแน่น ก็จะทำให้ผู้ถูกโน้มน้าวใจคล้อยตามได้ง่าย
3. การสร้างอารมณ์ความรู้สึกร่วม : การโน้มน้าวใจ หมายถึง การทำให้รู้สึกคล้อยตาม ดังนั้นการสร้างอารมณ์ความรู้สึกร่วมจึงทำให้เกิดการคล้อยตามได้ง่าย เพื่อทำให้คนฟังรู้สึกว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้พูด รู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน มีความเหมือนกัน 
4. การกล่าวถึงข้อดีข้อเสียทั้งสองแง่มุม : ซึ่งเป็นหลักหารสื่อสารอย่างหนึ่ง และยังเป็นการใช้จิตวิทยาในการโน้มน้าวใจอีกด้วย เพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกว่าตนมีสิทธิได้เลือกนั่นเองค่ะ 
5. การสร้างความสนุกสนาน : ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถโน้มน้าวใจได้ เหมาะสำหรับสถานการณ์เคร่งเครียด การสร้างความสนุกสนานจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดี ทำให้บรรยากาศครุกครุ่นน้อยลง เพื่อทำให้เกิดความรู้สึกกลางๆ และพร้อมที่จะคล้อยตามผู้พูดในที่สุด

30 ตัวอย่างการโน้มน้าวใจ จากคนดังทั่วโลกในวงการต่างๆ

ได้ทราบกันไปแล้วว่า การโน้มน้าวใจ หมายถึงอะไร พร้อมทั้งรู้ถึงวิธีการพูดโน้มน้าวใจกันไปบ้างแล้ว เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูตัวอย่างการพูดโน้มน้าวใจจากคนดังทั่วโลกกันค่ะ

1. ถ้าเราเชื่อมั่นว่าทำได้ ต่อให้ต้องย้ายภูเขาถมทะเล ในที่สุดก็สำเร็จจนได้ แต่ถ้าใจเราคิดว่าทำไม่ได้ แม้จะง่ายแค่พลิกฝ่ามือ ก็ยังไม่มีวันประสบความสำเร็จ – Sun Yat Sen :  คำพูดโน้มน้าวใจจากนักประชาธิปไตยและนักปฏิวัติชาวจีน ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาของชาติในสาธารณรัฐจีน และเป็นผู้บุกเบิกการปฏิวัติประชาธิปไตย กล่าวถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง หากเชื่อว่าเราทำได้เสียอย่าง จะทำสิ่งใดก็สำเร็จ แต่ถ้าขาดความเชื่อมั่น ก็จะสำเร็จได้ยาก
2. ฉันไม่รังเกียจที่จะนั่งที่พื้นของโรงเรียน สิ่งที่ต้องการสำหรับฉันก็คือ การได้เรียนหนังสือ และฉันไม่เกรงกลัวใครที่จะแสดงออกเช่นนี้ – Malaya YousafZai : การพูดโน้มน้าวใจจาก มะลาละห์ ยูซัฟซัย เด็กนักเรียนจากเมืองมินโกราในเขตสวาท แคว้นแคบาร์ปัคตูนควา ประเทศปากีสถาน เป็นที่รู้จักในการศึกษาและการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิสตรีของเธอในหุบเขาสวัด และยังได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2014 ขณะมีอายุเพียง 17 ปี ซึ่งเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลที่อายุน้อยที่สุดในโลก การเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในการเรียนหนังสือของผู้หญิง ที่แม้ว่าจะถูกกีดกันหรือจำกัดแค่ไหน เธอก็จะไม่ยอมแพ้ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กสาวในหลายๆ ประเทศเลยทีเดียว
3. ถึงเด็กสาวที่กำลังชมอยู่ พึงระลึกไว้เถิดว่าพวกเธอนั้นมีค่า และมีพลัง พวกเธอคู่ควรแก่ทุกโอกาสที่มีอยู่บนโลกใบนี้ เพื่อทำตามฝันของตนเองให้สำเร็จ – Hillary Clinton : คำกล่าวของ Hillary Clinton อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งได้กล่าวในสปีชของตัวเองในปี 2016 เป็นการให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กหญิงทุกคน เพื่อให้ตระหนักถึงคุณค่าและศักยภาพของตนเอง และทำตามความฝันให้สำเร็จ

4. คุณมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ได้ ไม่สำคัญว่าใครจะพูดอย่างไร ถ้ามีสิ่งที่อยากทำ อย่ามัวสนใจสายตาของคนอื่น เชื่อมั่นในตัวเองและก้าวเดินต่อไป – Lisa Blackpink : คำพูดจากลิซ่า แบล็คพิงค์ ศิลปินไทยที่สังกัดอยู่ในวง K – Pop ในเกาหลีใต้ แต่ปัจจุบันมีชื่อเสียงในระดับสากล เป็นที่รู้จักของแฟนคลับทั่วโลก บอกให้เราเชื่อมั่นในตัวเอง แม้ว่าจะเป็นฝันที่ยิ่งใหญ่ แต่ทุกคนก็สามารถก้าวไปถึงฝันได้ ตราบใดที่ยังมุ่งมั่นต่อไปค่ะ
5. คนอ่อนแอ ให้อภัยคนอื่นไม่เป็น การให้อภัยเป็นลักษณะของคนเข้มแข็ง – Mahatama Gandhi : การโน้มน้าวใจ ตัวอย่าง สั้นๆ จากมหาตมา คานธี นักกฎหมาย นักชาตินิยมต้านลัทธิอาณานิคม และ นักจริยธรรมการเมืองชาวอินเดีย ผู้นำเอาหลักการต่อต้านโดยสันติวิธีมาใช้นำพาขบวนการต่อสู้เพื่อเอกราชจากเจ้าอาณานิคมอังกฤษสำเร็จ เป็นการพูดโน้มน้าวใจให้อภัยซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและความสามัคคี อันจะนำไปสู่ความปรองดองนั่นเองค่ะ

6. การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือการประสบความสำเร็จให้มากกว่า – Frank Sinatra : อีกหนึ่งการโน้มน้าวใจ ตัวอย่าง สั้นๆ แต่อิมแพคกับเรามาก จาก Frank Sinatra นักแสดง นักร้อง และโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน ซึ่งได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ 20 ด้วยยอดจำหน่ายแผ่นเสียงกว่า 150 ล้านชุดทั่วโลก ทำให้แฟรงค์เป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดจำหน่ายสูงสุดตลอดกาล ฟังจากการพูดโน้มน้าวใจเพื่อปลุกความกระตือรือร้นของเราแล้ว อยากจะลุกขึ้นมาพัฒนาตัวเอง เพื่อประสบความสำเร็จให้มากกว่าคู่แข่งของเราเลยใช่มั้ยละคะ 
7. ฉันอยากให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจ ไม่ว่าพวกเธอจะไซส์อะไร ไม่ว่าจะมีผิวเฉดสีไหน ไม่ว่าจะบุคลิกอย่างไร ไม่ว่าจะเชื้อชาติ วัฒนธรรมแบบไหน ฉันอยากให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจและเซ็กซี่ เพราะนั่นคือสิ่งที่เราเป็น และเราคู่ควรที่จะรู้สึกอย่างนั้นได้ – Rihanna : การพูดโน้มน้าวใจจากนักร้องหญิงชื่อดัง Rihanna ที่บอกให้สาวๆ มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง และรักในรูปลักษณ์ของตัวเองในแบบที่พวกเธอเป็น โดยไม่ต้องสนใจ Beauty Standard ที่สังคมกำหนดเอาไว้ เพราะผู้หญิงทุกคนมีความงามในแบบของตัวเอง และจงภาคภูมิใจกับมันให้มากๆ เข้าไว้ค่ะ 
8. ทฤษฎีของฉันก็คือหากคุณดูมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ คุณก็จะประสบความสำเร็จ แม้คุณจะไม่รู้ว่าคุณกำลังจะทำอะไรอยู่ก็ตาม – Jessica Alba : คำพูดโน้มน้าวใจจากนักแสดงหญิงชื่อดังชาวอเมริกันกล่าวถึงการมีความมั่นใจในตัวเองเอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ถ้าเรามีความมั่นใจในตัวเอง เราก็จะมีความกล้ามากขึ้น เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น และเมื่อจะทำสิ่งใด ก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จตามมา 
9. หากคุณพูดความจริงความจริง คุณไม่จำเป็นต้องจดจำอะไรเลย – Mark Twain : การพูดโน้มน้าวใจ ตัวอย่าง สั้นๆ จากมาร์ค ทเวน นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ นักบรรยาย และนักเขียนเรื่องขบขันชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง กล่าวถึงการพูดความจริงว่า ถ้าเราพูดความจริง เราก็ไม่ต้องจดจำเรื่องโกหกที่ตัวเองเคยพูดเอาไว้ เพราะถ้าพูดผิดไปจากเดิม ก็จะถูกจับได้ว่าพูดโกหกอยู่ดี แต่ถ้าพูดความจริงไปแล้ว ไม่ว่าจะพูดอีกกี่รอบก็จะพูดเหมือนเดิม เพราะมันคือความจริงที่เราไม่ต้องปั้นแต่งเรื่องขึ้นมาเลย

10. อย่าปล่อยให้ใครมาจำกัดความสามารถของคุณได้ ขีดจำกัดเพียงอย่างเดียวคือใจของคุณเท่านั้น – Walt Disney : การโน้มน้าวใจจากผู้เป็นดั่งตำนาน ผู้สร้างค่ายการ์ตูน Walt Disney จนทำให้เราได้รู้จักอาณาจักรดิสนีย์ในทุกวันนี้ บอกกับเราว่าอย่าให้ใครเป็นคนบอกว่าเราทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไม่ได้ สิ่งเดียวที่จะคอยขัดขวางเราก็คือ ตัวเราเองค่ะ ถ้าเราคิดว่าตัวเองทำได้เสียอย่าง ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

11. ฉันมักจะทำในสิ่งที่ฉันไม่สามารถทำได้ เพื่อจะได้เรียนรู้วิธีที่จะทำมัน – Pablo Picasso :  ตัวอย่างการพูดโน้มน้าวใจจากพาโบล ปิกัสโซ่ จิตรกรชื่อดังของโลก ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่มีความแปลกใหม่ในยุคนั้น บอกให้เรากล้าลงมือทำในสิ่งที่เราคิดว่าตัวเองไม่สามารถทำมันได้ เพื่อเรียนรู้วิธีการ และทำสิ่งนั้นให้สำเร็จในที่สุด เหมาะสำหรับคนที่ไม่กล้าลงมือทำอะไรใหม่ๆ หรือติดอยู่ในกรอบของตัวเองมากๆ ค่ะ  
12.  จงเป็นตัวของตัวเอง รักในสิ่งที่คุณเป็น และมีน้ำใจ มอบความรัก ความเมตตาต่อคนรอบข้าง และสิ่งเหล่านั้นมันจะกลับมาหาคุณเสมอ – Lady Gaga : คำพูดจากเลดี้ กาก้า ศิลปินหญิงผู้เรียกว่าเป็น Icon แห่งยุค ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก บอกให้เราจงเป็นตัวเอง และรักตัวเองในแบบที่เป็น ในขณะเดียวกันก็จงใจดีกับคนอื่นๆ ด้วย แล้วสิ่งดีๆ เหล่านั้นจะสะท้อนกลับมาหาเราเองค่ะ  
13. คุณไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุดถึงจะประสบความสำเร็จ คุณแค่จะต้องไม่ยอมแพ้ และทำมันต่อไป คุณแค่ต้องรู้อยู่เสมอว่าคุณมีของอยู่ในตัว – Jennifer Lopez : ทุกๆ คนมีข้อดีและมีความเก่งอยู่ในตัวเอง จงดึงเอาศักยภาพของตัวเองออกมาและมุ่งมั่นต่อไป ขอเพียงแค่อย่ายอมแพ้ แล้ววันหนึ่งเราจะไปถึงเป้าหมายในท้ายที่สุดค่ะ
14. หากคุณต้องการพัฒนาองค์กร คุณต้องพัฒนาตัวเองก่อน เพื่อที่คุณจะได้ดึงองค์กรขึ้นมา – Indra Nooyi : ตัวอย่างการพูดโน้มน้าวใจจากอดีต CEO ของ Pepsico กล่าวถึงผู้นำในองค์กรที่จะต้องพัฒนาตัวเองก่อน เพื่อใช้ทักษะความรู้ความสามารถของตนมาพัฒนาองค์กรต่อไป
15. อย่าให้ใครก็ตามมาปล้นจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์และความสงสัยของคุณ โลกใบนี้เป็นของคุณ นี่คือชีวิตของคุณ ก้าวไปข้างหน้าและทำให้เต็มที่ ใช้ชีวิตในแบบที่คุณอยากให้มันเป็น – Mae C. Jemison : การพูดโน้มน้าวใจจากนักบินอวกาศหญิงแอฟริกัน – อเมริกันคนแรกที่ได้เดินทางไปอวกาศจาก NASA ในปี 1992 ซึ่งในสมัยนั้นมีการยอมรับผู้หญิงผิวสีน้อยมากๆ แต่เธอก็ทำสำเร็จและได้เป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ได้ท่องอวกาศในนามของ NASA คำกล่าวของเธอเป็นการพูดโน้มน้าวใจที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกฮึกเหิมและกระตือรือร้นในการพุ่งชนเป้าหมายขึ้นมาเลยทีเดียว

16. ไม่ใช่เรื่องผิดหากเราเฉลิมฉลองเมื่อประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการเรียนรู้จากความล้มเหลว– Bill Gates : ตัวอย่างการโน้มน้าวใจจากมหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าพ่อ Microsoft อย่าง Bill Gates ที่ช่วยปรับทัศนคติของใครหลายคนที่เคยกลัวความผิดพลาดให้มองเรื่องที่เราเคยทำผิดในมุมใหม่ เรียนรู้จากมัน และพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต เป็นการพูดที่ทำให้เรามองเห็นแนวทางการพัฒนาตัวเองจากความล้มเหลว และไม่กลัวที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ ค่ะ

17. คิดเหมือนราชินี ราชินีไม่กลัวความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวเป็นอีกก้าวหนึ่งสู่ความยิ่งใหญ่ – Oprah Winfrey :  คำพูดของโอปราห์ วินฟรีย์ สตรีคนเก่งผู้มีอิทธิพลต่อการปลุกความกล้าและความเชื่อมั่นในตัวเองของสาวๆ ออกมา เป็นวิธีโน้มน้าวใจให้ผู้หญิงมีความกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆ โดยที่ไม่ต้องกลัวความล้มเหลว และมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
18.  คิดค้นนวัตกรรมเพื่อวันพรุ่งนี้ ดีกว่ามากังวลสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน – Steve Jobs : การโน้มน้าวใจ ตัวอย่าง สั้นๆ จากพ่อมดแห่งวงการสมาร์ทโฟนอย่าง Steve Jobs ที่ช่วยทำให้เรากล้าที่จะเดินต่อไป ไม่มานั่งกังวลถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต และใช้เวลาเพื่อคิดค้นสิ่งที่ดีกว่าเพื่ออนาคต
19. ส่วนใหญ่สิ่งต่างๆ ดำเนินไปอย่างที่คุณต้องการให้มันเป็นไป คุณควบคุมชีวิตของคุณเอง เจตจำนงของคุณมีพลังมหาศาล – J.K.Rowling : เจ เค โรว์ลิง นักเขียนหญิงชื่อดังระดับโลก เป็นผู้กล่าวประโยคนี้ และเป็นเจ้าของผลงานวรรณกรรมเยาวชนชุด “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ไม่มีใครที่ไม่รู้จักหนังสือเรื่องนี้ ซึ่งประโยคนี้เป็นการสร้างกำลังใจและเป็นวิธีโน้มน้าวใจให้เราเดินในเส้นทางที่เราอยากจะไปให้ดี เพราะเรานั่นแหละที่เป็นคนกำหนดชีวิตตัวเอง แม้ในช่วงแรกๆ นั้นเส้นทางการเป็นนักเขียนยังคงขรุขระอยู่บ้าง แต่ก็ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและไม่ยอมแพ้ สุดท้ายเธอก็ทำสำเร็จ 
20. สังคมของเราต้องการฮีโร่ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และวิศวกรมากขึ้น เราจำเป็นต้องยกย่องและให้รางวัลแก่ผู้คนที่ช่วยขยายขอบเขตความเข้าใจของมนุษยชาติและทำงานเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คน – Mark Zuckerberg : ประโยคนี้ของ Mark พ่อก่อตั้ง Facebook เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและโน้มน้าวใจให้ผู้คนเห็นความสำคัญของหลายๆ อาชีพมากขึ้น โดยเฉพาะอาชีพที่มีส่วนในการสร้างนวัตกรรมและความรู้ใหม่ๆ และอาชีพที่ช่วยดูแลคุณภาพชีวิตของคนทั่วไปโดยเฉพาะ

21. การกระทำที่กล้าหาญที่สุดคือ การคิดเพื่อตัวเอง และคิดออกมาดังๆ ด้วย – Coco Chanel : ตัวอย่างการโน้มน้าวใจที่ช่วยปลุกพลังการทำเพื่อตัวเองจากผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นระดับโลก COCO CHANEL เพราะการทำตามความต้องการของตัวเองและทำเพื่อตัวเองอย่างแท้จริงนั้น อาจทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็ได้ 
22. ถ้าคุณไม่ลองพยายาม คุณจะมองเห็นโอกาสได้อย่างไร ? – Jack Ma : ตัวอย่างการโน้มน้าวใจจาก Jack Ma นักธุรกิจชาวจีนที่ประสบความสำเร็จและกลายเป็นคนดังระดับโลก ที่พูดให้เรากล้าที่จะลองทำ เพราะหากไม่ลองก็อาจมองไม่เห็นโอกาสใหม่ๆ ที่รออยู่

23. ถ้าคุณโชคดีพอที่ได้เกิดมาแตกต่าง อย่าได้เปลี่ยนแปลงมัน – Taylor Swift :  การโน้มน้าวใจ ตัวอย่าง สั้นๆ ที่อยากให้ทุกคนยอมรับในความแตกต่างของตัวเองและจงภูมิใจกับมัน จากนักร้องชื่อดัง เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่มีผลงานเพลงอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เธอกวาดรางวัลด้านงานดนตรีมานับไม่ถ้วน และผลงานเพลงก็ยังเป็นที่นิยมในวงกว้าง การที่เรานำเสนอเอกลักษณ์และความแตกต่างของตัวเองออกมาอย่างโดดเด่น อาจทำให้ได้รับความชื่นชมและเป็นที่ชื่นชอบก็ได้นะคะ 
24. ถ้าทำอะไรแล้วหมดสนุกก็ได้เวลาก้าวต่อไปแล้ว ชีวิตสั้นเกินกว่าจะมัวนั่งเศร้าและอยู่อย่างหมดหวัง นั่นไม่ใช่การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง – Richard Branson : ใครกำลังหมดไฟในการเรียนหรือการทำงานต้องลองฟังการพูดดีๆ จาก Richard Branson ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่า 360 บริษัท เขาช่วยทำให้เรามองเห็นว่าการใช้ชีวิตควรมีอะไรมากกว่าการฝืนทำสิ่งที่ไม่ชอบ และมนุษย์เราควรให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่มีความสุข
25. อย่าตัดสินคนจากสิ่งที่เขาเคยเป็นมาก่อน ปล่อยให้เขาได้แสดงตัวตนแล้วมองที่ปัจจุบัน ไม่ใช่อดีต – Tom Hiddleston :  นักแสดงหนุ่มเจ้าบทบาทจากเกาะอังกฤษ กล่าวประโยคนี้เพื่อเป็นการโน้มน้าวใจเราว่า ไม่ควรตัดสินใครจากอดีตของคนๆ นั้น เพราะแต่ละคนก็เคยผิดพลาดหรือเดินในเส้นทางที่ผิดกันมาทั้งสิ้น และตัวตนในปัจจุบันต่างหากที่สำคัญที่สุด ณ ตอนนี้

26. ควมสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำเงินได้มากเท่าไหร่ แต่มันอยู่ที่ว่าคุณสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคนอื่นๆ ได้มากเท่าไหร่ต่างหาก – Michelle Obama :  คำพูดจากอดีตสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะเป็นวิธีโน้มน้าวใจและเป็นการเปิดมุมมองให้กับคนที่กำลังแสวงหาความสำเร็จในชีวิตอยู่ว่า ความจริงแล้วเราต้องการอะไรกันแน่ เงินและความมั่งคั่งจะนำมาซึ่งสุขได้จริงๆ หรือเปล่า หรือแท้จริงแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนคือการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคนอื่นๆ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นมีชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง

27. ถ้าจะซื้ออะไร ก็ควรซื้อสิ่งที่คุณจะถือครองมันอย่างมีความสุข แม้ตลาดหุ้นจะปิดตัวไปอีก 10 ปี – Warren Buffett : พ่อมดแห่งตลาดหุ้นกล่าวประโยคนี้เพื่อเป็นข้อคิดให้นักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นระยะยาว เขาไม่ได้บอกว่าควรซื้อหุ้นตัวไหน แต่โน้มน้าวให้เราปรับความคิดว่าหากต้องการซื้อหุ้นสักตัว ก็ควรซื้อหุ้นที่เรารู้สึกดีที่จะถือครองมันในระยะยาว และยังเป็นตัวอย่างการโน้มน้าวใจที่นำไปปรับใช้ได้กับหลายๆ ด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือทำอะไร ลองคิดดีๆ ว่าเรารับได้ไหมกับการตัดสินใจที่อาจส่งผลไปอีกนาน
28. คนบางคนไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่คุณต้องโอบกอดความเปลี่ยนแปลงนั้นไว้หากการอยู่กับที่หมายถึงความพินาศ – Elon Musk : มหาเศรษฐีอัจฉริยะอย่าง Elon Musk ขึ้นชื่อในเรื่องความฉลาด อารมณ์ขัน และประโยคจิกกัดแสบๆ คันๆ อยู่แล้ว การโน้มน้าวใจจึงออกมาในสไตล์ที่เป็นตัวเขาเอง อย่างประโยคนี้ที่ชี้ให้เห็นว่าคนเราไม่ควรกลัวการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการอยู่กับที่คือหนทางที่ทำให้เราถอยหลังเข้าคลอง
29. มันอาจจะฟังดูน่าเบื่อนะ แต่ก่อนที่คุณจะไปตกหลุมรักใคร หรือพยายามหาคนที่เหมาะสม คุณควรจะรักตัวเองและเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นก่อน – Emma Watson : มาดูกันที่วิธีโน้มน้าวใจในเรื่องมุมมองความรักกันบ้าง จากนักแสดงชื่อดังที่เป็นขวัญใจทั้งหนุ่มๆ และสาวๆ ทั่วโลก เอ็มมา วัตสันบอกกับเราว่า ก่อนที่จะรักใครหรือมีความสัมพันธ์กับใคร เราควรจะรักตัวเองก่อน เพราะการรักตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นของการมีความสัมพันธ์ที่ดี เพราะเราเองจะเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ว่าตัวเองต้องการอะไร ต้องการความรักแบบไหน และเลือกความสัมพันธ์ที่ดีเข้ามาในชีวิตได้
30. ความสำเร็จของผู้หญิงทุกคนควรเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น เราแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราให้กำลังใจซึ่งกันและกัน – Serana Williams :  เจ้าของคำกล่าวนี้คือ Serana นักเทนนิสหญิงตัวเต็งระดับโลก ซึ่งเป็นตัวอย่างการโน้มน้าวใจให้ผู้หญิงแต่ละคนชื่นชมยินดีกับความสำเร็จของกันและกัน เพราะถ้าเราอยากให้มีคนมาให้เกียรติและชื่นชมยินดีในตัวเรานั้น เราก็ต้องชื่นชมกันเองก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้คนอื่นเห็นว่า ผู้หญิงเราแข็งแกร่งและมีความสามารถเพียงใด

บอกต่อเทคนิคการพูดโน้มน้าวใจ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง

เราได้เห็นตัวอย่างวิธีการพูดโน้มน้าวใจจากคนดังระดับโลกกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนดังในแวดวงธุรกิจนวัตกรรม หรือเป็นคนบันเทิง เป็นนักเขียน นักกีฬา หรือสตรีผู้มีอิทธิพลในระดับโลกก็ตาม สังเกตว่าแต่ละประโยคนั้นต่างเป็นประโยคที่สร้างแรงบันดาลใจหรือจุดประกายอะไรบางอย่างให้กับเราได้ ซึ่งนอกจากประโยคที่มีอิทธิพลต่อความคิดความรู้สึกของเราแล้วนั้น มีองค์ประกอบอื่นๆ อะไรอีกบ้างที่เราสามารถพูดโน้มน้าวใจให้คนอื่นรู้สึกคล้อยตามได้ มาดูกันค่ะ

1. บุคลิกต้องน่าเชื่อถือ

ได้รู้จักตัวอย่างการโน้มน้าวใจจากคนดังไปแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมสิ่งที่พวกเขาพูดดูมีพลัง สร้างแรงบันดาลใจ และโน้มน้าวใจเราให้เชื่อถือได้ ปัจจัยแรกเลยก็คือบุคลิกนั่นเองค่ะ ในแต่ละครั้งที่บรรดาคนดังไปออกรายการสัมภาษณ์หรือไลฟ์สตรีมผ่านช่องทางออนไลน์ พวกเขามักปรากฎตัวด้วยบุคลิกภาพที่ภูมิฐาน ดูดี และเป็นกันเอง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม และนั่นก็คือปัจจัยแรกที่ทำให้เรารู้สึกวางใจและมองว่าพวกเขาน่าเชื่อถือ

2. น้ำเสียงและการมีปฏิสัมพันธ์

น้ำเสียงที่น่าฟังคืออีกปัจจัยที่ทำให้การพูดโน้มน้าวใจดูทรงพลังมากขึ้น รวมถึงการเลือกใช้จังหวะ การผ่อนความเบาความดัง และการเน้นเสียงที่ต้องการจะสร้าง impact ให้กับผู้ฟัง ที่สำคัญคือ ต้องไม่ลืมใช้ภาษากายและสบตากับผู้ฟังอย่างทั่วถึงด้วยนะ

3. อย่าลืมประเด็นสำคัญของการพูด

การพูดโน้มน้าวใจ หมายถึง การทำให้ผู้ฟังเกิดการคล้อยตาม ดังนั้นแล้ว การโน้มน้าวใจแต่ละครั้งต้องมีเป้าหมายเสมอ เช่น พูดเพื่อขายของ พูดเพื่อเปลี่ยนทัศนคติ พูดเพื่อสร้างแนวคิดใหม่ๆ เป็นต้น การลืมประเด็นสำคัญจะทำให้การพูดดูไม่มีน้ำหนัก ไม่สามารถจับประเด็นสำคัญได้ ไม่น่าติดตาม และชวนสับสนจนผู้ฟังไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่เราต้องการสื่อสารได้

4. ศึกษากลุ่มเป้าหมายมาเป็นอย่างดี

อย่างที่กล่าวไปว่า การพูดโน้มน้าวใจนั้นมีวัตถุประสงค์เสมอ และควรศึกษาด้วยว่ากลุ่มเป้าหมายหรือผู้ฟังของเราคือใคร เช่น มีอายุเท่าไหร่ เป็นเพศไหน มีความสนใจเรื่องอะไร ทำอาชีพอะไร ฯลฯ การศึกษารายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้เราทราบว่าควรจะพูดอย่างไรและพูดในประเด็นไหนเพื่อให้เกิดความรู้สึกคล้อยตามมากที่สุด เช่น หากเป็นนักวิชาการก็ควรจะอ้างอิงข้อมูลจากผลงานวิจัยที่มีตัวเลขสถิติรองรับ หรือถ้าพูดกับกลุ่มคนศิลปินก็ควรเน้นไปที่อารมณ์ความรู้สึก เป็นต้น

5. ข้อมูลต้องชัดเจน

การเตรียมความพร้อมที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คนดังส่วนใหญ่พูดโน้มน้าวใจผู้ฟังจากประสบการณ์ตรงในชีวิตของตัวเอง เพราะในชีวิตของแต่ละคนนั้นผ่านสิ่งต่างๆ มามากมายจนสามารถเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ และวิธีรับมือกับปัญหาเอาไว้หลากหลายรูปแบบ เมื่อนำเสนอให้เราฟังจึงดูน่าสนใจและมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นหากใครอยากพูดเพื่อโน้มน้าวใจคนฟัง อย่าลืมเตรียมข้อมูลเอาไว้ให้พร้อมที่สุดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและก่อให้เกิดการคล้อยตามได้นั่นเองค่ะ

Inspire Now ! : การโน้มน้าวใจ หมายถึงอะไร ทำได้อย่างไร มีตัวอย่างแบบไหนบ้าง ตอนนี้ก็ได้รู้กันไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากคำพูดที่ใช้สำหรับการโน้มน้าวใจจะต้องมีพลังและสามารถจับใจผู้ฟังได้อยู่หมัดแล้ว วิธีการพูด จังหวะการพูด และภาษากายต่างๆ ก็มีความสำคัญอีกเช่นกัน เพราะจะช่วยส่งเสริมให้ผู้พูดมีพลังและมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น เราสามารถฝึกฝนวิธีการพูดโน้มน้าวใจได้ด้วยการเตรียมความพร้อมทั้งบุคลิกท่าทาง น้ำเสียง เตรียมข้อมูลหรือเรื่องราวที่ต้องการจะสื่อสารมาเป็นอย่างดี รวมถึงหมั่นศึกษาวิธีการพูดจากคนดังบ่อยๆ เพื่อนำเอามาปรับใช้กับตัวเอง ที่สำคัญคือ ต้องมีความมั่นใจในตัวเองและเชื่อมั่นในตัวเองมากๆ เพื่อให้การพูดโน้มน้าวใจเป็นไปอย่างไหลลื่นไม่มีสะดุดค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? ชื่นชอบตัวอย่างวิธีการโน้มน้าวใจจากใคร หรือชอบเทคนิคการพูดโน้มน้าวใจแบบไหนบ้าง มาคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : curadio.chula.ac.th, comm.pitt.edu, theceomagazine.com, indeed.com

Featured Image Credit : freepik.com/wavebreakmedia_