วิธีเลื่อนประจำเดือน, ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียง

ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียงยังไง ? ทำความรู้จักกับวิธีเลื่อนประจำเดือนที่ปลอดภัยกัน

ประจำเดือนกับสาวๆ ในวัยเจริญพันธุ์เป็นของคู่กัน และเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องไปทำกิจกรรมต่างๆ ในวันสำคัญ เช่น ไปออกค่าย ไปดำน้ำ ไปเที่ยวทะเล ไปปีนเขา หรือเดินทางไปต่างประเทศ ก็จะเกิดความกังวล เพราะขณะที่มีประจำเดือน นอกจากจะไม่คล่องตัวแล้วนั้น สำหรับผู้หญิง ปวดท้องประจำเดือนยังเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยกับหลายๆ คนอีกด้วย การเลื่อนประจำเดือนจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่สาวๆ เลือกใช้ และใช้การกินยาเลื่อน ซึ่ง ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียง มีอะไรบ้างนั้น มารู้ไปพร้อมๆ กัน พร้อมวิธีเลื่อนประจำเดือนที่ไม่ต้องพึ่งยากันด้วยค่ะ

ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียง ที่อาจพบได้

วิธีเลื่อนประจำเดือน, ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียง

ยาเลื่อนประจำเดือน คือ ยาที่ใช้สำหรับการช่วยชะลอประจำเดือนให้มาช้ากว่าปกติ โดยจะยืดเวลาออกไปประมาณ 1 สัปดาห์ โดยทั่วไปจะนิยมใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม หรือกินยานอร์เอทีสเตอโรน ซึ่งเมื่อกินเข้าไปแล้ว ยาจะไปมีประสิทธิภาพในการเลื่อนประจำเดือนออกไปได้ เพราะช่วงก่อนการมีประจำเดือนนั้น ระดับฮอร์โมนโปรเจสโตโรนในร่างกายของเราจะลดลง เยื่อบุโพรงมดลูกมีการหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ซึ่งยาเลื่อนประจำเดือนนั้น จึงมีประสิทธิภาพไปทำให้ระดับฮอร์โมนโปรเจสโตโรนในร่างกายไม่ลดลง ประจำเดือนจึงถูกเลื่อนออกไปนั่นเอง แต่ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียงก็มีเช่นกัน หากใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้เลือดออกกะปริบกะปรอยได้ รวมถึงอาจมีประจำเดือนที่แปรปรวนไม่แน่นอน

นอกจากนี้ในบางรายเมื่อกินยาเข้าไปแล้ว อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาจมีเลือดไหลออกจากช่องคลอดเล็กน้อยได้ จึงไม่ควรใช้เกินความจำเป็น และควรใช้แค่เป็นครั้งคราว รวมถึงควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา รู้ถึงวิธีการใช้ยา ผลข้างเคียงจากยา และความเหมาะสมของสภาพร่างกายก่อนใช้ยา นอกจากนี้ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียงยังมีต่อผู้ที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน และผู้ที่มีภาวะเลือดไหลออกจากช่องคลอดอีกด้วย

วิธีการใช้ยาเลื่อนประจำเดือนให้ปลอดภัย

วิธีเลื่อนประจำเดือน, ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียง

Image Credit : mamaexpert.com

ควรกินยาล่วงหน้าก่อนมีประจำเดือนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยกินยาวันละ 2 เม็ด ตอนเช้าและตอนเย็นติดต่อกัน แต่ไม่ควรเกิน 10-14 วัน เพราะการใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอยและรอบเดือนมาผิดปกติได้ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาประเภทลดกรดในกระเพาะอาหารร่วมด้วย เพราะจะมีผลทำให้การดูดซึมยาลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเลื่อนประจำเดือนต่ำลง และหลังจากหยุดยาแล้วนั้น ประจำเดือนจะไม่มาในทันที แต่จะทิ้งช่วงเวลาไปประมาณ 2-3 วัน ถึงจะมาตามปกติ

วิธีเลื่อนประจำเดือนด้วยวิธีธรรมชาติ

วิธีเลื่อนประจำเดือน, ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียง

การเลื่อนประจำเดือนด้วยยานั้น ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียงอาจพบได้อย่างที่กล่าวไป ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย เรายังสามารถใช้วิธีธรรมชาติเพื่อทำให้ประจำเดือนมาช้าลง หรือมาไวขึ้นได้ ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้

  1. ออกกำลังกายมากขึ้น เพราะการออกกำลังกายจะไปช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ประจำเดือนมาช้ากว่าเดิมได้
  2. นวดแผนโบราณ เพราะการนวดจะเป็นการไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ให้เลือดจะไปเลี้ยงบริเวณมดลูกมากขึ้น หากช่วงที่ใกล้มีประจำเดือนแล้วมีการนวดติดต่อกันทุกวัน จะทำให้ประจำเดือนมาเร็วกว่ากำหนดได้
  3. ดื่มน้ำขิง เนื่องจากสมุนไพรที่มีรสร้อนอย่างขิง จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจน
  4. ดื่มหรือกินผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน เช่น ดื่มน้ำทับทิม กินสับปะรด มะละกอ มะม่วง แครอท ส้ม ทับทิม หรือฟักทอง ที่ เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน จะไปช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและทำให้ประจำเดือนมาเร็วกว่าปกติได้นั่นเอง
  5. ดื่มน้ำตาลโตนด เพราะน้ำตาลโตนดมีสรรพคุณในการขับเลือด หากดื่มทุกวันหลังอาหารทุกมื้อ แต่ไม่เกิน 2-3 วัน ก็จะช่วยกระตุ้นประจำเดือนให้มาเร็วกว่าปกติได้

ประโยชน์จากการเลื่อนประจำเดือน

วิธีเลื่อนประจำเดือน, ยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียง

สาวๆ หลายคนมีความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการมีประจำเดือนในบางช่วงเวลาที่ต้องการทำกิจกรรมต่างๆ หรือมีอะไรที่สำคัญ เพราะเมื่อเราอยู่ในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน อาจเอื้อต่อการทำกิจกรรมได้สะดวกและคล่องตัวขึ้น ก็จะส่งผลดีทั้งในด้านของสภาพร่างกายและจิตใจ และยังมีผลดีในเรื่องอื่นๆ อีก เช่น

  1. เมื่อเรามีสภาพร่างกายหรือจิตใจที่ไม่พร้อม เช่น มีอาการป่วยอื่นๆ อยู่ และหากมีประจำเดือนมาในช่วงนั้นอาจส่งผลให้อาการทรุดหนักลง เช่น กำลังป่วยด้วยภาวะโลหิตจาง หอบหืด ไมเกรน เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือโรคลมชัก เป็นต้น
  2. ประจำเดือนมาปริมาณมากเป็นเวลานาน หรือมาบ่อยกว่าปกติ จนทำให้หลายคนมีอาการปวดประจำเดือนอย่างมาก การเลื่อนประจำเดือนอาจทำให้สภาพร่างกายของเราลดความเจ็บปวดลงได้
  3. มีนัดหมายหรือกำหนดการสำคัญ เช่น มีสอบ มีการแต่งงาน ต้องเดินทางไกล ไปเที่ยวพักผ่อน หรือมีกำหนดการอื่นๆ ที่จำเป็นจะต้องเลื่อนประจำเดือนออกไปก่อนเพื่อความสะดวก
Inspire Now ! : สาวๆ ก็ได้รู้วิธีในการกินยาเลื่อนประจำเดือนที่ถูกต้องกันไปแล้ว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ รวมถึงยาเลื่อนประจำเดือนผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ จะได้ระมัดระวังในการใช้ยา ที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเอง นอกจากนี้หากใครต้องการเลื่อนประจำเดือนและคุมกำเนิดไปพร้อมกันนั้น แนะนำให้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงละ 21 เม็ด ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และเลื่อนประจำเดือนได้ไปพร้อมกัน และในผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดอยู่แล้ว เมื่อหยุดกินยาประจำเดือนก็จะมาตามปกติในอีกประมาณ 2-3 วันค่ะ ทั้งนี้ เพื่อความแม่นยำในการคำนวณ สามารถใช้แอพเช็คประจำเดือนช่วยได้ เพื่อจะได้รู้ถึงวันที่ประจำเดือนจะมาตามปกตินั่นเอง

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้คำตอบใช่หรือไม่ ? หากสาวๆ ต้องการเลื่อนประจำเดือน ก็ควรใช้ยาเลื่อนอย่างระมัดระวัง และปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรด้วยนะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : pobpad.com, thaihealth.or.th, tvpoolonline.com

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW