30 เพลงยุค 90 ผู้หญิง ร้อง ใสๆ ฟังเพลิน ความหมายดี ได้ความสุขทุกครั้งที่ได้ฟัง !
แชร์ลิสต์ เพลงยุค 90 ผู้หญิง ร้อง ใสๆ จัดเต็ม 30 เพลง ความหมายดี ฟังแล้วได้ความสุข ได้พลังดีๆ ได้ย้อนความคิดถึงกลับไปวันวานเมื่อตอนเป็นวัยรุ่น
วัฒนธรรมชงชาในญี่ปุ่นมีมาอย่างยาวนาน เรียกกันว่า ซาโด (茶道) หรือ ชะโนะยุ (茶の湯) นิยมกันในวงสังคมชั้นสูงตั้งแต่ช่วงประมาณศตวรรษที่ 14 ว่ากันว่า พิธีชงชาของญี่ปุ่นนั้นมีความนุ่มลึก ปราณีต สงบ เรียบง่าย และสง่างาม ใครที่ยังไม่คุ้นชินกับพิธีชงชาของญี่ปุ่นมาก่อน หนังสือเรื่อง “ทุกวันเป็นวันที่ดี ความสุข 15 ประการที่การชงชาสอนฉัน” จะช่วยเปิดโลกและเปิดประสาทสัมผัสของการชงชาได้เป็นอย่างดี พิธีชงชามีอะไรที่มากกว่าชามัทฉะสีเขียวเข้มรสชาติลุ่มลึก มีอะไรซ่อนอยู่ภายในถ้วยชาเซรามิกหอมกรุ่น หนังสือเล่มนี้จะบอกกับเราเอง
ถ้าใครหลงใหลในวัฒนธรรมอันรุ่มรวยและลุ่มลึกของญี่ปุ่น หนังสือเล่มนี้น่าจะเข้าตาได้ไม่ยาก อย่างน้อยก็ดึงดูดให้หยิบขึ้นมาอ่านหลังปก “ทุกวันเป็นวันที่ดี” เป็นหนังสือน่าอ่าน ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิต รวบรวมแง่คิดชีวิตที่โมริชิตะ โนริโกะ (ผู้เขียน) ได้เรียนรู้จากการเรียนชงชามานานกว่า 25 ปี จุดเริ่มต้นการเรียนชงชามาจากการที่โนริโกะอยู่ในช่วงสับสนและกำลังค้นหาตัวเองในระหว่างที่ยังเป็นนักศึกษา คาบเกี่ยวในช่วงที่เธอกำลังมองหาสิ่งที่อยากทำจริงๆ หลังเรียนจบ โนริโกะได้ไปลองเรียนชงชาตามคำแนะนำของแม่ แม้ว่าตอนแรกเธอเองจะไม่ได้สนใจนักก็ตาม
แน่นอนว่าการชงชาเต็มไปด้วยพิธีรีตรองสุดเคร่งครัด คุณป้าทาเคดะ อาจารย์ผู้สอนชงชาบอกแค่ว่าให้ทำตามทุกขั้นตอนอย่างละเอียด บางอย่างโนริโกะคิดว่าไม่มีเหตุผลเลยที่จะทำแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้คำตอบในสิ่งที่ตนเองสงสัยในทันที นั่นทำให้เธอต่อต้านการชงชาอยู่ลึกๆ แต่เมื่อเรียนชงชาไปเรื่อยๆ เธอกลับพบว่า คำตอบของปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต กลับซ่อนอยู่ในพิธีชงชานั่นเอง
“ถ้าอยากพบใคร ต้องไปพบให้ได้
ถ้ามีคนที่ชอบอยู่ ต้องบอกให้รู้ว่าชอบ
เมื่อดอกไม้บาน จงเฉลิมฉลอง
เมื่อรู้สึกรัก จงรักให้หมดใจ และเมื่อสุขใจ ให้แบ่งปัน
ในเวลาที่มีความสุข จงโอบกอดความสุขนั้นไว้
และดื่มด่ำกับมันให้เต็มร้อย บางทีนี่อาจเป็นเพียงหนทางเดียวที่คนเราจะทำได้”
เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบ เราจึงรู้ได้ว่า “ทุกวันเป็นวันที่ดี” เป็นหนังสือที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ละมุน ซาบซึ้ง และงดงาม ในขณะเดียวกันก็ลุ่มลึกเช่นเดียวกับรสชาติของชาเขียวหอมกรุ่นที่มีความขมปร่าอยู่ในที คล้ายกับสะท้อนชีวิตของมนุษย์เราทุกคนว่ามีรสชาติหวานขมปะปนกันไป แต่โดยรวมแล้วกลมกล่อมและยังคงมีความหอมอบอวล มีเสน่ห์ มีความงดงาม และมีคุณค่าเช่นเดียวกับชาเขียวมัทฉะที่ผ่านการชงอย่างพิถีพิถัน เป็นหนังสือน่าอ่าน ให้ข้อคิดที่อ่านง่าย เข้าใจได้ไม่ยาก สอดแทรกข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเรียนชงชาตลอดทั้งเล่ม ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดความน่าเบื่อแต่อย่างใด กลับกัน ยังช่วยให้เราเข้าใจขีวิตมากขึ้นผ่านประสบการณ์การเรียนชงชาของโนริโกะ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ คล้ายกับว่าเราอยู่ในห้องเรียนชงชากับเธออย่างไรอย่างนั้น ในหนังสือมีอยู่ทั้งหมด 15 บท 15 ข้อคิดที่ได้จากการเรียนชงชา แต่เราคงหยิบยกมาเล่าได้ไม่หมด เลยขอพูดถึงข้อคิดที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจเรา ตามนี้
Organic Ceremonial grade Matcha USDA ออร์แกนิค ขนาด 50 กรัม – จากเมืองนิชิโอะ ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อโนริโกะเรียนชงชาผ่านไปได้ 6 เดือน เธอก็พบว่า รูปแบบและวิธีการชงชาที่ฝึกอย่างหนักมาตลอด 6 เดือนนั้น เป็น “การชงชาของฤดูร้อน” และเมื่อเข้าสู่การเปลี่ยนฤดูกาลใหม่ จะใช้ “วิธีการชงชาของฤดูหนาว” ซึ่งมีระเบียบแบบแผนการชงชาและการใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมสิ้นเชิง ในตอนแรกเธอไม่เข้าใจและนึกค่อนขอดอยู่ในใจว่า ทำไมไม่ให้ทำแบบเดิมไปตลอด การเรียนชงชาของฤดูหนาวนั่นผ่านไปอย่างทุลักทุเลเพราะเธอสับสนงุนงงกับวิธีการที่ไม่เหมือนเดิม ยังไม่ทันจะชำนาญดี ฤดูร้อนก็มาเยือนอีกครั้ง ซึ่งโนริโกะต้องกลับไปเรียนชงชาของฤดูร้อนอีกครั้งโดยที่เธอรู้สึกว่า สิ่งที่เรียนมานั้นสูญเปล่าโดยทั้งหมด แต่อาจารย์ผู้สอนชงชาไม่ยอมให้เธออยู่กับที่ และไม่อนุญาตให้เธอยึดติดกับอดีตที่ล่วงเลยไปแล้ว “เอาล่ะ ปรับอารมณ์ซะนะ จงทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตัวเองตอนนี้ รวบรวมความรู้สึกอยู่กับ ปัจจุบัน” อาจารย์บอกกับโนริโกะแบบนั้น
สิ่งที่จะมาคู่กับชาหอมกรุ่นก็คือ ขนมญี่ปุ่น ที่มักจะใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ตามฤดูกาลนั้นๆ เอามาทำเป็นขนมกินกับชา นอกจากจะใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ตามฤดูกาลแล้ว ขนมบางชนิดก็ทำเป็นรูปร่างต่างๆ ตามสิ่งที่โดดเด่นในช่วงฤดูกาลนั้นๆ ด้วย เช่น ขนมถั่วกวนที่ทำเป็นรูปดอกซากุระและจะเสิร์ฟในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งตรงกับเทศกาลดอกซากุระบานพอดิบพอดี หรือจะเป็นขนมระคุกังที่มีรูปทรงคล้ายกับหิมะขาวบางเบา เสิร์ฟในเดือนมกราคมที่มีอากาศหนาวเย็นและเป็นช่วงหิมะตกพอดี แม้กระทั่งดอกไม้ญี่ปุ่นและภาพแขวนที่ตกแต่งห้องเรียนชงชาก็อิงกับฤดูกาลในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งทำให้เรามองเห็นและชื่นชมในคุณค่าของสิ่งที่มีและสิ่งที่เป็นอยู่ ณ ช่วงเวลานั้นมากขึ้น แล้วเราจะรู้ว่า ในทุกๆ ช่วงเวลา มีความงดงามซ่อนอยู่ แม้ในวันที่หนาวเหน็บหรือวันที่ฝนตกหนักก็ตาม เพราะ “ทุกวันเป็นวันที่ดี” เสมอ
หนังสือ “เพราะทุกวันเป็นวันที่ดี” บอกกับเราว่า บางครั้งชีวิตของคนเราก็คล้ายกับการเปลี่ยนผันของฤดูกาล วันดีคืนดีก็เจอกับพายุฝนโหมกระหน่ำ เปียกปอนสะบักสะบอม บางครั้งก็คล้ายกับการติดอยู่ในวังวนของพายุหิมะ เปลี่ยวเหงา เศร้าและหนาวเหน็บ และอาจเป็นฤดูหนาวที่ทุกข์ทรมานที่สุดในชีวิต ซึ่งเราก็ได้แต่หวังเอาไว้ลึกๆ ว่า เมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิ อากาศก็จะอุ่นขึ้น แสงแดดก็คงสว่างแจ่มใส และเมื่อถึงคราวฤดูร้อน เราก็อาจจะกลับมาสดใสและสดชื่นได้ดังเดิม ในบางครั้งบางที ชีวิตของคนเราก็คล้ายกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า แม้ฤดูหนาวจะหนาวเหน็บจนทรมานสักแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็จะถึงวันที่ฤดูหนาวสิ้นสุดลง และฤดูใบไม้ผลิอันสดชื่นแจ่มใสก็จะมาเยือนอีกครั้ง
ห้องเรียนชงชานั้น มักจะเลือกของตกแต่งและองค์ประกอบต่างๆ ให้เข้ากับฤดูกาลและช่วงเวลานั้นๆ อยู่เสมอ อย่างในช่วงฤดูฝน ก็มีภาพแขวนที่เขียนเอาไว้ว่า “ฟังเสียงฝน” ในวันนั้น มีฝนตกหนักมากจนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงฝนตกซ่าดังกระหึ่ม แต่โนริโกะหลับรู้สึกว่าตนเองเป็นอิสระ เพียงแค่ตั้งใจฟังเสียงฝนพรำและเปิดประสาทการได้ยินอย่างเต็มที่ ไม่มีความเครียดเกิดขึ้น ไม่มีความกังวลอยู่ในใจ ไม่มีสิ่งใดอยู่ในความคิดของเธอเลย นอกจากเสียงของฝนพรำ “ในวันที่ฝนตก ให้ฟังเสียงฝน จงอยู่ที่นี่ทั้งกายและใจ ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอดื่มด่ำกับปัจจุบันขณะให้เต็มที่ หากทำเช่นนั้นแล้วย่อมรู้ได้ว่า หนทางที่จะเป็นอิสระนั้นอยู่ที่นี่ เวลานี้ เสมอมา” ไม่ว่าจะต้องเจอกับวันแบบไหน เราก็มีความสุขได้ เพราะทุกวันเป็นวันที่ดีนั่นเองค่ะ
นี่เป็นเพียงบางส่วนของหนังสือที่เราชอบและอยากจะพูดถึงเท่านั้น ยังมีเรื่องราวอื่นๆ ในหลายๆ บทที่เชื่อว่าจะให้แง่คิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือ ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการชงชาของญี่ปุ่นไปตลอดทั้งเล่ม ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งว่า เพราะเหตุใดกัน วัฒนธรรมและพิธีการชงชาจึงอยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมานานแสนนาน และอาจเรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของรากปรัชญาญี่ปุ่นที่ว่าด้วยความสุนทรีย์ในความเรียบง่าย เป็นการรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติด้วยจิตใจที่นิ่งสงบและบริสุทธิ์ นอกจากนี้ ยังเกี่ยวข้องกับปรัชญาญี่ปุ่นอื่นๆ อย่างคินสิงิ อีกด้วย เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้ จะสร้างความสนุกเพลิดเพลิน และสร้างความประทับใจ ให้ความอิ่มใจกับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยค่ะ
Inspire Now ! : หนังสือเรื่อง “เพราะทุกวันเป็นวันที่ดี” เหมาะกับทั้งการเอามาอ่านเอง หรือมอบให้เป็นของขวัญกับคนที่เรารักก็ได้เช่นกัน อย่างน้อยถ้าเรามีความหลงใหลและชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างพิธีชงชา หรือชื่นชมในความงดงามตามวิถีญี่ปุ่น เชื่อว่าจะต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ได้สนุกอย่างแน่นอน เป็นหนึ่งในหนังสือน่าอ่าน ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้เรามองเห็นความงดงามเล็กๆ น้อยๆ ที่มีอยู่ในชีวิตของตัวเองได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ดื่มด่ำกับความสุขในชีวิตได้ง่ายขึ้น และตระหนักได้ว่าชีวิตของเรานั้น มีความหมายและมีคุณค่ามากมายเพียงใด |
---|
DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือดีๆ อีกเล่มหนึ่งที่เราอยากแนะนำมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชอบพิธีชงชาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น รับรองว่าอ่านสนุกแน่นอน ใครอ่านแล้วชอบบทไหน มาคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ ♡
แชร์ลิสต์ เพลงยุค 90 ผู้หญิง ร้อง ใสๆ จัดเต็ม 30 เพลง ความหมายดี ฟังแล้วได้ความสุข ได้พลังดีๆ ได้ย้อนความคิดถึงกลับไปวันวานเมื่อตอนเป็นวัยรุ่น
ดูดวง ธันวาคม 2567 ก่อนสิ้นปีนี้จะมีอะไรเข้ามาบ้าง มา ดูดวงรายเดือน กับ Soul Tarot แม่นๆ มีพลังงานดีๆอะไรให้เราก่อนสิ้นปีกันนะ
รวมไอเดีย คำคมวันลอยกระทง จัดเต็ม 30 แคปชั่นให้เลือกใช้กันหลากหลาสไตล์ ทั้งกวนๆ ฮาๆ สนุก เศร้า เหงา โสด เอาไปใช้โพสต์ให้สนุกสนานในช่วงเทศกาลกัน