ชวนทุกคนมา อ่านธรรมะสอนใจ ของการใช้ชีวิตเรียบที่ง่ายให้มีความสุข

ธรรมะ ธรรมโมวันนี้จะมาชวนทุกคนหาเป้าหมายของชีวิตกันค่ะ ก่อนอื่นคุณลองนึกดูว่า ชีวิตของเรานั้นมีอะไรที่เกินความจำเป็นหรือไม่ ลองนึกดูว่าใจของเราได้นำอะไรอะไรเข้ามารบกวนจิตใจหรือเปล่า ถ้านำสิ่งเหล่านั้นมาเข้ามาแล้วเราไม่มีความสุข ก็เอามันออกจากใจเราไม่ดีกว่าหรือคะ ดังนั้นแล้วถ้าเราอยากมีชีวิตที่เรียบง่าย มีความสุขในทุกๆ วัน จะต้องคิดแบบไหน วันนี้ DIY INSPIRE NOW อยากจะชวนทุกคนมา อ่านธรรมะสอนใจ ที่รวบรวมข้อคิดและกลอนดีๆ มาฝากให้กับทุกคนค่ะ 

มองหาชีวิตที่เรียบง่ายใช่ไหม? ลอง อ่านธรรมะสอนใจ ที่ให้ข้อคิดดีๆ

“ความสุขเกิดจากนิสัยคือต้องฝึกใจให้มองอะไรๆ ในเชิงสร้างสรรค์เสมอ”

ข้อคิดนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงไปเลยค่ะ การมองอะไรๆ ในเชิงสร้างสรรค์ที่ว่านั้นคือการคิดบวกนั่นเอง การคิดบวกก็คือการที่เราไม่อคติกับสิ่งๆ นั้น หรือตัดสินว่าคนนั้นผิด คนนี้ไม่ดี โดยที่เราไม่เปิดใจฟังสิ่งรอบตัวเลย มันจะส่งผลเสียต่อเรา จะทำให้เราติดนิสัยมองโลกในแง่ลบ ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีสำหรับตัวเองหรือคนรอบข้างเลยนะคะ ลองเปลี่ยนความคิดของตัวเองใหม่ อาจจะทำยาก แต่มันก็ไม่ได้เกินความสามารถใช่ไหมหล่ะคะ

“เวลาทำงาน จงเริ่มจาก จินตนาการ ไม่ใช่ข้อจำกัด เพราะถ้าหากท่านเริ่มจากคำว่า ไม่ได้ ไม่รู้ ไม่เคย ไม่เป็น ไม่กล้า ไม่มีงบ ท่านจะจบตั้งแต่ยังไม่ได้ทำงาน”

ตามข้อคิดที่ได้จากการอ่านธรรมะ สอนใจเราว่าเราควรทำงานจากความคิดในด้านที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ข้อจำกัด นั่นหมายถึงว่า เราไม่ควรตัดสินในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ว่าเราทำไม่ได้หรอก ทำไปก็ไม่ถูก หากเราเริ่มตั้งแง่กับงานด้วยข้อจำกัดต่างๆ นาๆ เราก็ไม่มีทางที่จะประสบผลสำเร็จได้หรอกค่ะ ลองเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หากเราเปลี่ยนคำว่าไม่รู้เป็นอยากรู้ อยากเรียนรู้ มันก็จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นแน่นอนค่ะ

“อย่าฝากชีวิตไว้กับโชคชะตา แต่จงฝากไว้กับปัญญาของเธอเอง”

กลอนธรรมะสอนใจข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงความคิดของคนที่หวังพึ่งน้ำบ่อหน้าว่า ชีวิตจะเป็นอย่างไรฉันไม่รู้หรอก คิดแค่ว่าเดี๋ยวโชคชะตาจะนำพาฉันไปเอง แล้วทำไมเราถึงจะต้องให้โชคชะตากำหนดหล่ะคะ ในเมื่อเราก็มีความรู้ มีปัญญา เป็นสิ่งที่เบิกทางอนาคตเราให้สดใสได้ หากเรามีปัญญาชีวิตจะนำสิ่งดีๆ มาให้เราแน่นอนค่ะ

“ชีวิตก็มีฤดูกาลของมันแต่ไม่ว่าฤดูใดจะผ่านเข้ามา ก็โปรดจงรับรู้ว่า มันจะไม่อยู่กับเราตลอดไป”

ข้อคิดนี้ใช้ได้ทุกช่วงเวลาของชีวิตเลยหล่ะค่ะ ตามความเป็นจริงแล้วชีวิตของเราไม่มีอะไรที่แน่นอนหรอก วันนี้เรามีความสุข พรุ่งนี้เรามีความทุกข์ผสมปนเปกันไป ขอเพียงเแค่คิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ลองปล่อยวางความรู้สึกเหล่านี้ดูนะคะ ลองนั่งสมาธิ ฟังธรรมะ หรืออ่านธรรมะ สอนใจตัวเองให้อยู่กับปัจจุบัน เพียงแค่เราคิดว่าวันนี้เรามีความสุขก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิต วันไหนเรามีความทุกข์ก็คิดซะว่าเดี๋ยวมันผ่านไปค่ะ

“ก่อนเข้านอนให้ถามตัวเองว่า วันนี้มีเรื่องใดบ้างที่เราบกพร่อง ค้นพบแล้วจงบอกกับตัวเองว่า เช้าวันพรุ่งนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีก หากทำอย่างนี้เสมอ ไม่ช้านานท่านจะเปลี่ยนตนเป็นคนใหม่ที่น่ารัก น่านับถือ และมีแต่ความสุข”

จากข้อคิดข้างต้นจากการอ่านธรรมะ สอนใจเราว่าหากเราทำอะไรผิดพลาดอะไรให้เก็บความผิดพลาดนั้นเป็นบทเรียน เตือนใจตัวเองว่าเราจะไม่กลับไปทำซ้ำอีก หากเราอยากเป็นคนใหม่เราก็ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เมื่อเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ก็จะมีคนมองเราในด้านที่ดี และชีวิตเราก็จะมีแต่ความสุข เป็นสุขง่ายๆ ที่เปลี่ยนได้ด้วยตัวเราเองค่ะ

“เราเกิดมาเพื่อเรียนรู้ เรามีชีวิตอยู่เพื่อฝึกฝน ชีวิตจะดีงามตามใจตน ก็เพราะคนฝึกเรียนรู้อยู่ทุกวัน”

กลอนธรรมะสอนใจบทนี้กล่าวถึงการเรียนรู้ที่ไม่ได้หมายถึงแค่การเรียนรู้ในตำราเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการเรียนรู้ในการใช้ชีวิตด้วย บางทีเราคิดว่าเรารู้สิ่งนั้นแล้ว รู้มากพอแล้ว แต่ในความจริงนั้นอาจจะมีบางอย่างเรายังไม่รู้ในโลกนี้อีกก็ได้ ดังนั้นเราไม่ควรทำตัวเหมือนน้ำเต็มแก้ว ลองเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะมันอาจจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นก็ได้ เมื่อชีวิตดีเราก็มีความสุข 

“ดูแลกันและกันให้ดี เพราะไม่มีวันนี้สองครั้ง”

ข้อคิดที่ได้จากการอ่านธรรมะสอนใจนี้ ทำให้เรานึกถึงครอบครัว คนรัก รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงของเราด้วย เมื่อพูดถึงการดูแลเราไม่สามารถไปบังคับใครให้มาดูแลเรา หรือบังคับตัวเองไปดูแลอื่นได้ นอกจากตัวเราอยากทำ ลองย้อนถามตัวเองว่า ถ้าเราไม่ทำจะเสียดายโอกาสไหม โลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกค่ะ วันสุดท้ายอาจจะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ จะย้อนกลับไปทำก็คงไม่ทันแล้ว อยากให้ลองหันไปใส่ใจคนที่เรารัก เก็บช่วงเวลาแห่งความสุขไว้ ดูและกันดีๆ เพราะจะไม่มีวันนี้ซ้ำสอง 

“ไม้ใหญ่ ย่อมเจอขวานคม

คนเด่น ต้องมีคนด่า

คนมีปัญญา จึงมีคนลองดี

คนทำงานดี จึงมีคนริษยา

ปรากฏการณ์เช่นนี้ว่า จึงเป็นเรื่องธรรมดา”

ข้อคิดที่ได้จากการอ่านธรรมะสอนใจข้อนี้คือ ไม่ว่าเราจะรวย จะดี จะจน จะมีปัญญา หรือสูงใหญ่ค้ำฟ้ามาจากไหน ทุกคนล้วนต้องเจอคนนินทา ไม่มีใครในโลกหรอกที่ไม่ถูกนินทา เพียงแต่เราแค่ต้องเมินเฉยกับคำพูดพวกนั้นคิดเสียว่าเป็นลมสายหนึ่งที่พัดมาและพัดผ่านไป เราแค่ต้องเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปเท่านั้นเอง อย่าไปจมปลักกับคำพูดเหล่านั้นเลย ไม่มีใครรู้ตัวเราดี เท่าเราเอง ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราทำมันดี มันถูกต้อง ก็ช่างคนนินทาเขาไปค่ะ 

“ทุกข์มา เอาปัญญาออกรับ 

ปัญหามา เอาปัญญาวินิจฉัย 

คำวิจารณ์มา พัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมต่อไป 

ชีวิตที่ใช้อย่างมีปัญญา จึงเป็นชีวิตที่คุ้มค่าที่สุด”

กลอนธรรมะสอนใจบทนี้ สื่อถึงการใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิตไม่ว่าเราจะเจออะไรมา เช่น คำวิจารณ์ ปัญหา หรือความทุกข์ เราก็ควรมีสติ และใช้ปัญญาพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้น มีคำๆ หนึ่งที่กล่าวว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า นั่นแสดงถึงอาการของคนไม่มีสติไม่ได้ใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหา โมโหไปก็เท่านั้นค่ะ ไม่เกิดประโยชน์อะไร สู้ระงับความโกรธและใช้ชีวิตให้คุ้มค่าอย่างมีความสุขดีกว่า

เมื่อทุกคนได้อ่านธรรมะสอนใจไปแล้ว เราอยากให้ทุกคนลองเปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิตใหม่ เปิดใจมองสิ่งรอบข้างในแง่บวก สุดท้ายปล่อยวางทิฐิ และอคติดูนะคะ ถ้าหากทำได้ความสุขที่เรียบง่ายก็ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ 

Inspire Now ! : อยากใช้ชีวิตให้มีความสุข เป็นเรื่องที่ทุกคนก็สามารถทำได้ เพียงเปิดใจมองโลกในแง่บวก ไม่ยึดติดกับคำพูดของคน เพียงเท่านี้คุณจะมีความสุข

DIY INSPIRE NOW ชีวิตที่เรียบง่ายทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่า คุณได้แนวคิดที่ดีขึ้นจากบทความนี้ใช่ไหมคะ? ถ้าชอบบทความไหนก็สามารถคอมเมนต์มาบอกเราได้นะคะ

อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมจาก: หนังสือธรรมะ ยิ่งเรียบง่าย ยิ่งใกล้ความสุข โดย พระว.วชิรเมธี, today.line.me, th.hellomagazine.com

Featured Image Credit : freepik.com