เมตตากรุณา คืออะไร ? รู้จักไว้ใช้พัฒนาจิตใจตนเอง
4K
เมตตากรุณา คืออะไร ? รู้จักไว้ใช้พัฒนาจิตใจตนเอง
การที่คนเราอยู่ร่วมกันในสังคมนั้น ควรจะต้องมีจิตเมตตาต่อกัน เพื่อให้เกิดความสุขต่อมนุษย์โลกด้วยกัน ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาจิตใจของเราให้มีความรู้สึกปรารถนาดีต่อผู้อื่น นึกถึงผู้อื่น และเข้าใจผู้อื่น สิ่งเหล่านี้จะทำให้สังคมน่าอยู่ ซึ่งความเมตตากรุณาเป็นหนึ่งในหลักธรรมที่เรียกว่า พรหมวิหาร 4 และเพื่อการนำไปปรับใช้ในชีวิต เพื่ออยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข นอกจากบาปบุญคุณโทษ หมายถึงอะไรแล้วนั้น เรามารู้จักกันค่ะว่า เมตตากรุณา นั้นคืออะไร ? และช่วยพัฒนาจิตใจเราได้อย่างไรบ้างค่ะ
เมตตากรุณา คืออะไร ? มารู้จักให้เข้าใจเพื่อพัฒนาจิตใจตนเองกัน
เมตตากรุณาคือ หนึ่งในหลักธรรมของพระพุทธศาสนาที่เรียกว่า พรหมวิหาร 4 หรือพรหมวิหารธรรม ที่เป็นหลักธรรมประจำใจ สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตเพื่อการดำรงตนได้อย่างประเสริฐ และทำให้เราอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งหลักพรหมวิหาร 4 เป็นหลักธรรมที่ทุกๆ คนควรยึดถือปฏิบัติ และประกอบด้วยหลักธรรม 4 ข้อ อันได้แก่
1. เมตตา
ความเมตตา มีความหมายถึง ความปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข มีความรักใคร่และอยากให้เขามีความสุข มีความปรารถนาต่อผู้อื่น มีจิตใจเป็นมิตรไมตรี รวมถึงมีเมตตาต่อสัตว์
2. กรุณา
ความกรุณา มีความหมายถึง ความปรารถนาที่จะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มีความสงสารและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นที่กำลังมีความทุกข์กายทุกข์ใจ อยากช่วยบำบัดทุกข์และความเดือดร้อนต่างๆ ของทั้งมนุษย์และสัตว์
3. มุทิตา
ความมุทิตา มีความหมายถึง ความปีติยินดีต่อผู้อื่น เมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีหรืออยู่ดีมีสุข ไม่เกิดความอิจฉาริษยา มีจิตใจผ่องใสและแช่มชื่น รู้สึกชื่นชมยินดีต่อความสำเร็จและความสุขของผู้อื่น
4. อุเบกขา
ความอุเบกขา มีความหมายถึง ความวางใจเป็นกลาง และไม่ซ้ำเติมต่อผู้อื่นที่กำลังเป็นทุกข์ หรือกำลังประสบกับปัญหาต่างๆ
และจากหลักธรรมพรหมวิหาร 4 ประการนี้นั้น สรุปได้ว่าเมตตากรุณาก็คือ ความปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุขและปรารถนาที่จะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ การปฏิบัติเพื่อต้องการช่วยให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญ และพ้นจากทุกข์ต่างๆ ด้วยการแสดงความมีน้ำใจอย่างเต็มใจ รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูล และไม่เอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น เป็นการให้ตามความสามารถของตนโดยไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งหากเราดำรงตนอยู่ในหลักธรรมพรหมวิหาร 4 เราก็จะกลายเป็นคนที่มีความเมตตากรุณาทั้งต่อตนเองและผู้อื่น การยึดถือหลักธรรมดังกล่าวนี้ จะทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขนั่นเองค่ะ
ฝึกความมี เมตตากรุณา เพื่อช่วยพัฒนาจิตใจได้อย่างไร ?
1. มองว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ
ในการเป็นคนมีเมตตากรุณานั้น เราต้องคิดว่ามันเป็นอารมณ์ปกติของมนุษย์ทุกคน และเราควรเลือกสันติสุขเหนือความขัดแย้ง เลือกความเมตตาแทนความโหดร้าย มีไมตรีจิตแทนความเกลียดชัง และมีคุณธรรมสำคัญอื่นๆ เหนือความคิดและการกระทำอันชั่วร้าย
2. ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน
เราสามารถทำสิ่งเหล่านี้ทุกวันได้ เมื่อเราทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ความรู้สึกก็จะเพิ่มขึ้นและกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราในที่สุด การจะเป็นคนมีเมตตาได้สมบูรณ์นั้นก็ต้องฝึกให้มีเมตตา
3. ทักทายผู้อื่นอย่างอบอุ่น
ความเมตตาหมายถึงมีความสุขเมื่อเห็นคนอื่นสุข ความรู้สึกนี้รวมถึงการทักทายอย่างอบอุ่นในเวลาที่เหมาะสม ควรมองตาเขาอย่างกรุณาและมองพวกเขาอย่างจริงใจ ถามถึงสวัสดิภาพทั่วไปด้วยความจริงใจและปรารถนาดีในสิ่งที่ทำ
4. ฟังคนอื่นอย่างจริงใจ
เมื่อคุณฟังคนอื่นอย่างจริงใจ แสดงว่าคุณมีเมตตากรุณา การฟังอย่างลึกซึ้งหมายถึงการเอาใจใส่ต่อสภาพการณ์และความต้องการของพวกเขา การเป็นคนมีใจกรุณาหมายถึงการเป็นคู่หูที่ปลอดภัยให้คนอื่นพูดคุยและเปิดใจเกี่ยวกับปัญหาของพวกเขา และแสดงความเห็นอกเห็นใจพวกเขา
5. แสดงความเมตตาต่อผู้คนตลอดเวลา
วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเป็นคนมีเมตตากรุณา คือการพยายามแสดงกิริยาที่ใจดีทุกวัน อย่างที่มหาตมะ คานธี ได้แนะนำไว้ว่า
“กิริยาที่เมตตาที่ง่ายที่สุดนั้นได้ผลมากกว่าผู้คนนับพันที่มาชุมนุมกันอธิษฐาน” การแสดงน้ำใจต่อผู้คนนี้สามารถเป็นอะไรก็ได้ อาจเป็นการทักทายหรือยิ้มให้กับคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่ริมถนน ก็เป็นการแสดงความเมตตาต่อผู้อื่นแล้ว
Inspire Now ! : การมีเมตตากรุณาหมายความว่าคุณต้องตระหนักถึงทัศนคติของคุณที่มีต่อผู้คนตลอดเวลา การจะพัฒนาตนเองในเรื่องนี้ได้ คุณต้องฝึกนิสัยที่มีสติด้วยการทำสมาธิ หรือใช้การออกกำลังกายเช่นโยคะ เป็นกิจกรรมที่ช่วยขจัดความเครียดและส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี รวมถึงใช้การวิปัสสนาภาวนา คืออีกหนึ่งวิธีที่จะเพิ่มสติและสมาธิด้วยค่ะ โดยสรุปแล้ว ความเมตตากรุณานั้นมันแสดงถึงการกระทำโดยทั่วไปของการมีเมตตาและมีน้ำใจต่อผู้อื่นที่เราสามารถฝึกเพื่อพัฒนาจิตใจของเราได้ค่ะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าใช่ไหม ? นอกจากความมีเมตตาและกรุณาต่อคนอื่นแล้วนั้น เรายังสามารถสวดแผ่เมตตาก่อนนอนให้กับทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ได้อีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับใครสักคนและทำให้พวกเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : freestudy.com, thairath.co.th
Featured Image Credit : vecteezy.com/Bigc Studio
Facebook Comments