แชร์วิธีการดูแลตัวเองและการรักษาความดันโลหิตสูง !

ความดันโลหิตสูง หรือความดันเลือดสูงนั้นเรียกว่าเป็นฆาตกรเงียบ ด้วยเพราะเป็นโรคที่มักไม่มีอาการ แต่มีความเสี่ยงสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในประเทศไทยและอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งความดันโลหิตของเรานั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณเลือดที่หัวใจสูบฉีด และความต้านทานต่อการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดแดงว่ามีมากน้อยเพียงใด ยิ่งหลอดเลือดแดงของเราแคบลงความดันโลหิตก็จะยิ่งสูงขึ้น หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ทำการรักษาหรือดูแลตัวเองให้ดีขึ้น ก็เสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ตามมารวมถึงอาจเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นแนวทางการดูแลผู้สูงอายุและในวัยอื่นๆ ที่มีความเสี่ยง เรามีแนวทาง การรักษาความดันโลหิตสูง รวมถึงการดูแลตัวเองมาแนะนำกันค่ะ

แนะนำวิธี การรักษาความดันโลหิตสูง และการดูแลตัวเองง่ายๆ

ความดันโลหิตจะมีการวัดค่าเป็นมิลลิเมตรปรอทซึ่งย่อว่า mm Hg หรือ มม. ปรอท และมีตัวเลขสองตัวที่เกี่ยวข้องในการวัด คือ

• ความดันโลหิตซิสโตลิก ตัวเลขด้านบนแสดงถึงความดันในหลอดเลือดเมื่อหัวใจเต้น
• ความดันโลหิตไดแอสโตลิก ตัวเลขด้านล่างแสดงถึงความดันในหลอดเลือดระหว่างเต้นเมื่อหัวใจของเรากำลังพักผ่อน

หากมีความดันโลหิตปกติ ค่าความดันจะอยู่ที่ประมาณ 120/80 มม. ปรอท แต่หากมีความดันโลหิตสูง จะอ่านค่าได้ตามระยะ ดังนี้

• ความดันโลหิตสูงระยะที่ 1 คือ ความดันซิสโตลิกตั้งแต่ 130-139 มม. ปรอท หรือความดันไดแอสโตลิกตั้งแต่ 80-89 มม. ปรอท
• ความดันโลหิตสูงระยะที่ 2 คือ ความดันโลหิตสูงที่รุนแรงมากขึ้น โดยค่าความดันซิสโตลิก 140 มม. ปรอทขึ้นไป หรือความดันไดแอสโตลิก 90 มม. ปรอทขึ้นไป
• วิกฤตความดันโลหิตสูง โดยจะวัดค่าความดันโลหิตได้สูงกว่า 180/120 มม. ปรอท จัดว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน หากทำการตรวจวัดความดันโลหิตที่บ้านให้รอห้านาทีแล้วตรวจอีกครั้ง หากความดันโลหิตยังสูงอยู่ให้รีบไปยังโรงพยาบาลทันที รวมถึงหากคุณมีอาการเจ็บหน้าอก มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ชาหรืออ่อนแรง หายใจลำบาก หรือมีอาการแสดงอื่นๆ ของโรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจวาย ให้รีบติดต่อหน่วยฉุกเฉินในทันที โดยโทร. 1669 เพราะโรคความดันโลหิตสูง การรักษาได้ทันท่วงทีมีความสำคัญอย่างมากต่อชีวิต

แนวทางการรักษาความดันโลหิตสูง

 การรักษาความดันโลหิตสูงนั้น จะใช้ยาในการรักษาเป็นหลัก ซึ่งประเภทของยาที่แพทย์กำหนดสำหรับรักษาความดันโลหิตสูงขึ้นอยู่กับการวัดความดันโลหิตและสุขภาพโดยรวมของคุณด้วย และยาลดความดันโลหิตสองตัวขึ้นไปมักจะได้ผลดีกว่ายาชนิดเดียว รวมถึงอาจมีการใช้ยาเพิ่มเติมตามที่แพทย์กำหนด เช่น

• ยาช่วยลดสัญญาณประสาทไปยังหลอดเลือด เพื่อลดผลกระทบของสารเคมีธรรมชาติที่ทำให้หลอดเลือดแคบลง แต่โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้เป็นยาชนิดเดียว เพราะอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อใช้ร่วมกับยารักษาความดันโลหิตอื่นๆ
• ยาขับปัสสาวะ เพื่อไปขัดขวางผลกระทบของสารเคมีธรรมชาติที่สามารถนำไปสู่การสะสมของเกลือและของเหลว ซึ่งอาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูงได้ อาจใช้เพื่อรักษาความดันโลหิตสูงที่ดื้อยา
• ยาขยายหลอดเลือด จะทำงานโดยตรงกับกล้ามเนื้อในผนังหลอดเลือดเพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อกระชับและหลอดเลือดแดงของคุณแคบลง

การรักษาความดันโลหิตสูงที่ดื้อยา

หากความดันโลหิตของคุณยังคงสูงอยู่แม้จะกินยาความดันโลหิตสูงอย่างน้อย 3 ชนิดแล้วนั้น คุณอาจมีภาวะความดันโลหิตสูงที่ดื้อยาได้ ซึ่งการมีความดันโลหิตสูงที่ดื้อยาไม่ได้หมายความว่าความดันโลหิตของคุณจะไม่ลดลง โดยแพทย์จะใช้แผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่

1. การเปลี่ยนยารักษาความดันโลหิตสูงเพื่อพิจารณาว่ายาตัวไหนและปริมาณใดได้ผลดีที่สุด
2. ควรกินยาลดความดันโลหิตตามแพทย์สั่งเสมอ อย่าข้ามปริมาณหรือหยุดใช้ยาลดความดันโลหิตของคุณทันที เพราะการหยุดยาลดความดันโลหิตบางชนิดอย่างกะทันหันอาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ และอย่าเปลี่ยนการรักษาโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคความดันโลหิตสูง

นอกไปจากแนวทางการรักษาความดันโลหิตสูงทางการแพทย์แล้วนั้น การเปลี่ยนวิถีชีวิตสามารถช่วยควบคุมและจัดการความดันโลหิตสูงได้ สิ่งที่สามารถทำได้มีดังนี้

1. กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ลองใช้วิธีการควบคุมอาหารเพื่อหยุดความดันโลหิตสูง หรือที่เรียกว่า DASH Diet ซึ่งจะเน้นผลไม้ ผัก ธัญพืช สัตว์ปีก ปลา และอาหารที่มีไขมันต่ำ รวมถึงควรกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงซึ่งสามารถช่วยป้องกันและควบคุมความดันโลหิตสูงได้ กินไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ให้น้อยลง

2. เลือกกินอาหารที่มีโซเดียมน้อย

โดยลดเกลือในอาหาร ลดการกินอาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง เลือกการปรุงอาหารสดๆ แทน โดยตั้งเป้าหมายที่จะจำกัดโซเดียมให้น้อยกว่า 2,300 มิลลิกรัมต่อวันหรือน้อยกว่า อย่างไรก็ตามการบริโภคโซเดียมต่ำกว่า 1,500 มก. ต่อวันหรือน้อยกว่านั้น จะเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่

3. ออกกำลังกายเป็นประจำ

เพิ่มการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ หากคุณมีความดันโลหิตสูงการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นปานกลางถึงสูงอย่างสม่ำเสมอสามารถลดความดันโลหิตตัวบนได้ประมาณ 11 มิลลิเมตรปรอท และตัวเลขล่างประมาณ 5 มิลลิเมตรปรอท นอกจากนี้การออกกำลังกายเป็นประจำร่วมกับการกินอาหารเสริมภูมิแพ้ จะช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้ด้วยนะคะ

4. รักษาน้ำหนักให้แข็งแรง

โรคความดันโลหิตสูง การรักษาน้ำหนักให้ไม่อ้วนจนเกินไปนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ควรรักษาน้ำหนักให้แข็งแรงหรือลดน้ำหนักหากคุณมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน เพราะจะสามารถช่วยควบคุมความดันโลหิตสูงและลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องได้

5. จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่

แม้ว่าคุณจะร่างกายแข็งแรง แต่แอลกอฮอล์สามารถเพิ่มความดันโลหิตของคุณได้ ให้ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ สำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี ผู้หญิงจะดื่มได้ 1 แก้วต่อวัน และสำหรับผู้ชาย 2 แก้วต่อวัน และควรงดสูบบุหรี่ด้วย เพราะบุหรี่สามารถทำร้ายผนังหลอดเลือดและเร่งกระบวนการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในหลอดเลือดแดง

6. จัดการความเครียด

พยายามลดความเครียดให้ได้มากที่สุด โดยฝึกเทคนิคการรับมือที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การหายใจลึกๆ หรือการนั่งสมาธิเจริญสติ รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำและการนอนหลับให้เพียงพอก็ช่วยได้เช่นกัน

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันดูแลสุขภาพได้ดีขึ้นใช่หรือไม่ ? สาวๆ สามารถนำแนวทางเหล่านี้ไปใช้เพื่อป้องกันตนเองจากโรคความดันโลหิตสูงได้นะคะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : mayoclinic.org, healthline.com, nhs.uk