9 เคล็ด (ไม่) ลับ สร้าง “การนอนหลับที่มีคุณภาพ” และฟื้นฟูร่างกายฉบับเร่งด่วน (ผลสำรวจจาก Virgin Active)
ผลสำรวจชี้ คนไทยยกให้ "การนอนหลับที่มีคุณภาพ" สำคัญที่สุด! ชวนดูวิธีฟื้นฟูร่างกายและใจให้หายเหนื่อยด้วยศาสตร์ Wellness จาก Virgin Active ที่นี่
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นโรคที่เราได้ยินกันมานาน และพบได้ในหลายๆ คน น้อยคนนักที่จะเข้าใจว่ามันเกิดจากอะไร รวมถึงรู้ว่ามีอันตรายอย่างไรบ้าง เพื่อการดูแลตนเอง และเป็นแนวทางการดูแลผู้สูงอายุด้วย วันนี้ DIY INSPIRE NOW จึงมีเรื่องราวเกี่ยวกับโรคนี้มาฝากกัน ว่า สาเหตุน้ำในหูไม่เท่ากัน อาการที่พบ วิธีรักษาและป้องกันนั้น มีอะไรบ้างค่ะ

Image Credit : thairath.co.th
เคยไหม ? ที่จู่ๆ ก็มีอาการปวดศีรษะ บ้านหมุน ขึ้นมากะทันหัน ซึ่งอาการดังกล่าวนี้คือหนึ่งในสาเหตุน้ำในหูไม่เท่ากันที่พบได้บ่อยๆ โรคนี้มีอันตรายหรือไม่ เกิดกับใครได้บ้าง เรามาทำความรู้จักให้มากกว่าเดิมกัน
น้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s Disease) หรือเรียกอีกอย่างว่า โรคมีเนีย เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน โดยมีน้ำภายในหูชั้นในที่มากผิดปกติ ที่อาจเกิดจากการดูดซึมของน้ำภายในหูไม่ดี ทำให้ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ประสาท ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัวและการได้ยิน เมื่อเซลล์ดังกล่าวทำงานผิดปกติจึงเกิดอาการเช่น วิงเวียนศีรษะ หูอื้อ สูญเสียการได้ยิน รู้สึกถึงแรงดันภายในหู เป็นต้น โดยอาการจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และเกิดขึ้นในหูข้างใดข้างหนึ่ง
[affegg id=3232]

อาการที่พบ มักเกิดขึ้นที่หูข้างใดข้างหนึ่งแบบกะทันหัน และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในบางคนอาจมีอาการนานเป็นชั่วโมง และจากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ อีก ได้แก่ จะมีอาการวิงเวียนศีรษะแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนนั้นจะเป็นความรู้สึกที่ว่าสิ่งต่างๆ รอบตัวหมุน ที่ไม่ใช่แค่อาการมึนงง แต่จะค่อนข้างรุนแรงกว่า ทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นยืนหรือทรงตัวได้ ต้องนอนนิ่งๆ หลับตา รวมถึงอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก มักเป็นนาน 2-3 ชั่วโมง และเป็นๆ หายๆ ในบางรายจะมีอาการทางหู เช่น หูอื้อ เสียงดังในหู ซึ่งอาการเวียนศีรษะนั้นแม้จะไม่ได้รุนแรง แต่เป็นอาการที่รบกวนผู้ที่เป็นมากที่สุด เพราะไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ต้องนอนพักทันที นอกจากนี้ยังพบว่าอาจสูญเสียการทรงตัวหรือมีอาการเซร่วมด้วย
หลายคนเข้าใจว่าโรคนี้จะพบได้ในผู้สูงอายุเป็นส่วนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วโรคนี้ไม่ได้พบแค่ในคนสูงอายุเท่านั้น เพราะสามารถพบได้ในคนอายุตั้งแต่ 30-60 ปี และพบได้ทั้งชายและหญิง โดยมากแล้วอาการมักจะเริ่มเมื่ออายุ 30 ปี เพราะฉะนั้น หากยังอยู่ในวัยคนหนุ่มสาวก็มีโอกาสที่จะเป็นได้เช่นกัน
[affegg id=3233]

การรักษาโรคนี้นั้น สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยยา การบำบัด การฉีดยา และการผ่าตัด โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ยาที่แพทย์จะจ่ายให้เพื่อทำการรักษานั้น จะเป็นการรักษาตามอาการ เช่น
การบำบัดเป็นการรักษาอีกทางหนึ่ง ที่บางรายอาจมีอาการที่ดีขึ้นได้จากการรักษาด้วยวิธีดังนี้
[affegg id=3234]

การฉีดยาเป็นอีกวิธีในการรักษา โดยยาที่นิยมใช้ในการรักษามี 2 ชนิด คือ
การรักษาด้วยวิธีนี้จะใช้ในการรักษาผู้ที่รักษาด้วยวิธีอื่นๆ ข้างต้นแล้วไม่ตอบสนอง โดยมีหลายวิธี ดังนี้

เนื่องจากอาการของโรคนี้นั้นมักเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากมีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น วิธีการป้องกันจึงสามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ การทำกิจกรรมผาดโผน หรือขับขี่รถยนต์และยานพาหนะอื่นๆ นอกจากนี้การดูแลสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ สามารถป้องกันอาการได้ด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา และกาแฟ รวมถึงงดการสูบบุหรี่ด้วย ก็จะช่วยป้องกันอาการของโรคได้ค่ะ
| Inspire Now ! : ได้รู้ถึง สาเหตุน้ำในหูไม่เท่ากัน ไปแล้วนะคะ ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพของเรากันด้วย โดยนอกจากจะป้องกันตนเองจากวิธีที่เราแนะนำไปแล้ว ยังควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีส่วนผสมของเกลือและผงชูรสอีกด้วย รวมถึงควรดื่มน้ำทุกวันให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือประมาณ 6-8 แก้ว และหากพบว่ามีอาการวิงเวียนศีรษะแบบกะทันหัน ให้รีบนั่งพักทันที และควรมียาแก้วิงเวียนติดบ้านไว้เสมอ การดูแลตัวเองไม่ใช่แค่ให้ปลอดภัยจากโรคนี้เท่านั้น เพราะยังช่วยให้ห่างไกลจากอาการต่อมทอนซิลอักเสบได้อีกด้วย เพราะเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้ทุกเพศและทุกวัย และเป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวเราเช่นเดียวกันค่ะ |
|---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้ไอเดียสุขภาพใช่หรือไม่ ? ใครมีวิธีดูแลและป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคน้ำในหูไม่เท่ากันบ้าง มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : pobpad.com, vichaiyut.com, si.mahidol.ac.th
เลี้ยงชานมเป็นกำลังใจให้นักเขียน หรือ สนับสนุนเว็บ DIYINSPIRENOW ให้เราผลิตคอนเท้นต์ดีๆต่อไปกันน้า
ขอบคุณที่ซัพพอร์ตเป็นกำลังใจให้ทีมเรานะคะ 💚
ผลสำรวจชี้ คนไทยยกให้ "การนอนหลับที่มีคุณภาพ" สำคัญที่สุด! ชวนดูวิธีฟื้นฟูร่างกายและใจให้หายเหนื่อยด้วยศาสตร์ Wellness จาก Virgin Active ที่นี่
ค้นพบความหมายใหม่ของ “การกินเจ” ที่มากกว่าแค่งดเนื้อสัตว์ รู้ครบทั้งข้อดี ข้อเสีย และวิธีกินให้ได้ประโยชน์ ทั้งกาย ใจ และโลกใบนี้
ในยุคที่ทุกอย่างเร่งรีบเกินไป เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ชวนคนไทยตระหนัก เรื่องพักที่ไม่ใช่แค่การหยุด แต่คือการคืนสมดุลให้ร่างกายและใจอย่างแท้จริง
