ซ่อมทีวี LG และยี่ห้ออื่นๆ แบบง่ายๆ อาการยอดฮิต เจอบ่อย ซ่อมเองได้ แค่ทำตามนี้ !

ทีวีเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แทบทุกบ้านต้องมี ไม่ว่าจะใช้ดูข่าว ดูละคร ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งดูคอนเทนต์ออนไลน์ แต่เมื่อถึงวันที่ทีวีเริ่มมีอาการผิดปกติขึ้นมา หลายคนก็มักจะคิดทันทีว่าเป็นเพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร หรือเสาอากาศก้างปลาเสีย จนรีบหาซื้ออุปกรณ์ใหม่มาลองเปลี่ยน ทั้งที่จริงแล้วปัญหาส่วนใหญ่มักเกิดจากตัวเครื่องทีวีเอง ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า จอภาพ บอร์ดควบคุม หรือหลอดไฟ LED ที่เสื่อมสภาพ และหลายอาการเหล่านี้สามารถตรวจสอบและแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายในการยกไปซ่อมถึงร้านทุกครั้ง สำหรับใครกำลังเจอปัญหาแบบนี้อยู่ ตาม DIYINSPIRENOW มาดูวิธีซ่อมด้วยตัวเองกันในบทความนี้ค่ะ

ทีวีเปิดไม่ติด ทำยังไง ? แชร์วิธีซ่อมทีวีLG /Samsung /Sony หรือยี่ห้ออื่นๆ เบื้องต้น อยู่บ้านคนเดียวก็ซ่อมได้ !

เวลาเจอทีวีเสีย หลายคนมักจะกังวลว่าจะซ่อมเองยาก กลัวทำผิดแล้วพังหนักกว่าเดิม หรือไม่มั่นใจว่าเข้าใจอาการจริงๆ ดีพอ แถมยังกลัวเรื่องความปลอดภัยจนไม่กล้าแตะต้องเครื่องเลยด้วย โดยเฉพาะทีวีรุ่นใหม่ๆ อย่าง ทีวีเล่นเน็ตได้ยี่ห้อต่างๆ ที่หลายบ้านใช้งานอยู่ทุกวัน แต่ความจริงแล้วอาการทีวีหลายแบบ เช่น จอดำ ไม่มีภาพ หรือเสียงหาย มักไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด และสามารถแก้ไขเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ลองมาดูวิธีเช็กและซ่อมเบื้องต้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจยกเครื่องไปหาช่างกันก่อนดีมั้ยคะ

9 อาการยอดฮิต พร้อมวิธีซ่อมเบื้องต้น ทำตามได้เลย !

1. หน้าจอไม่ชัด จอเบลอ

หนึ่งในปัญหาที่คนดูทีวีเจอบ่อยก็คือภาพบนหน้าจอไม่ชัด หรือจอเบลอ เวลาดูแล้วรู้สึกรำคาญตา ซึ่งจริง ๆ แล้วอาการนี้แก้ได้ง่ายกว่าที่คิด ลองดูกันค่ะ
สาเหตุ : ความผิดพลาดของระบบไฟหรือการประมวลผลภาพของ (กรณีไม่เกี่ยวกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต เสาสัญญาณต่างๆหรือกล่องรับสัญญาณ)
วิธีซ่อม/ วิธีเช็ค : ปิดเครื่องทีวีถอดปลั๊กออกจากนั้นรอประมาณ 2 นาที แล้วทำการเสียบปลั๊กทีวีเข้าไปใหม่ โดยส่วนใหญ่หลังรีสตาร์ททีวีแล้วภาพจอจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้งแล้วค่ะ
คำแนะนำเพิ่มเติม ใช้ปลั๊กพ่วงอย่างดี เพื่อป้องกันไฟฟ้ากระตุก ลัดวงจร เพื่อเป็นการถนอมอายุการใช้งานของทีวี

2. หน้าจอไม่มีภาพ

อีกหนึ่งปัญหาที่เจอบ่อยๆ ก็คือ หน้าจอทีวีไม่มีภาพ แต่มีเสียงออกมาชัดเจนอยู่ ดูสาเหตุ และวิธีแก้กันค่ะ
สาเหตุ : บอร์ดควบคุมจอหรือหลอดไฟ LED ในจอเสีย (กรณีไม่เกี่ยวกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต เสาสัญญาณต่างๆ หรือกล่องรับสัญญาณ)
วิธีซ่อม/ วิธีเช็ค :

1. เริ่มจากลองใช้รีโมทเปลี่ยนช่องอื่นๆ ก่อน หรือปรับเสียงขึ้นลง หากฟังก์ชั่นต่างๆ ยังคงทำงาน หรือตัวรับสัญญาณบนทีวีกระพริบไฟอยู่แสดงว่าอาการที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากจอภาพเสีย ซึ่งจะเป็นไปได้ว่าตัวควบคุมการกระจายไฟไปยังบอร์ดหน้าจอขาด
2. ต่อมาเราจะต้องแกะหน้าจอออกอย่างระมัดระวังมากๆ เพราะหากเกิดการผิดพลาดขึ้นมาจะทำให้ระบบต่างๆ ของหน้าจอทีวีได้รับความเสียหายได้ จากนั้นตรวจสอบดูตัวบอร์ดของหน้าจอ หากเจอส่วนประกอบไหนเสียหายให้นำออกมาซ่อมหรือทิ้งไป และใส่อันใหม่เข้าไปแทน เมื่อซ่อมเสร็จให้ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ กลับเข้าเหมือนเดิม และพักเครื่องทีวีประมาณ 15-20 นาที แล้วลองเปิดเครื่องอีกครั้งหากหน้าจอทีวีกลับมามีภาพแสดงว่าโอเคแล้วค่ะ

3.เสียง และภาพหายชั่วคราว

สาเหตุ : หากทีวีถูกใช้งานหนักเกินไปอาจจะทำให้สัญญาณภาพและเสียงหายไปชั่วคราว โดยเฉพาะทีวีแอนดรอยด์ แต่ทุกคนไม่ต้องกังวลไปนะคะเพราะอาการเหล่านี้แก้ไขได้ค่ะ ลองมาดูวิธีแก้เบื้องต้นกันนะคะ
วิธีซ่อม/ วิธีเช็ค :

1. วิธีแก้ไขได้ด้วยตัวเองง่ายๆ โดยการรีเซ็ตทีวีใหม่ อันดับแรกหยิบรีโมทคอนโทรลแล้วกดปุ่ม power จากนั้นเล็งไปที่ไฟ LED ค้างไว้ประมาณ 5 นาที จนกระทั่งมีข้อความ power off แสดงบนหน้าจอ 
2. จากนั้นพักเครื่องทีวีไปสักพัก และถอดปลั๊กออก เพื่อให้ทีวีเย็นลง ต่อมาให้ทำการเปิดเครื่องใหม่อีกรอบ ถ้าหน้าจอและภาพกลับมาใช้งานได้แสดงว่าระบบสัญญาณต่างๆ ของทีวีสามารถทำงานได้เป็นปกติอีกครั้งแล้วค่ะ

4.หลอด LED Blacklight เสีย

ปัญหาอีกหนึ่งอย่างที่มักพบเจอกันบ่อย นั่นก็คือ หลอด LED Blacklight เสีย ทำให้หน้าจอทีวีไม่มีภาพแสดงออกมา
สาเหตุ : อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เปิดทีวีติดต่อกันเป็นเวลานาน, ความร้อนสะสมในตัวเครื่อง หรือ อายุการใช้งานของหลอด LED เอง
วิธีซ่อม/ วิธีเช็ค :

1. หาซื้อหลอด LED Blacklight มาเปลี่ยน ซึ่งราคาหลอด LED ไม่แพงมากสามารถซื้อได้ที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือร้านอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป 
2. จากนั้นนำหลอด LED อันเก่าออกมา แล้วใส่หลอด LED อันใหม่เข้าไปแทน ต่อมาลองเปิดเครื่องทีวีดูและเช็คภาพบนหน้าจอทีวี หากหน้าจอกลับมาใช้งานได้อีกครั้งแสดงว่าหลอด LED Blacklight เสียจริงๆ นั่นเอง แต่ถ้าเปิดเครื่องแล้วพบว่า หน้าจอทีวีไม่มีภาพเหมือนเดิมให้นำทีวีไปที่ร้านช่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีช่างชำนาญการซ่อมให้อีกทีค่ะ

5.กดปุ่มตั้งค่าผิด

วิธีซ่อม/ วิธีเช็ค :
1. ใช้รีโมททีวีแล้วกดปุ่ม Setting เพื่อตั้งค่าใหม่
2. เลือกหาเมนูเกี่ยวกับ “ภาพ”
3. เลือก “เปิด” หรือ “Enable” เพื่อให้หน้าจอกลับมาแสดงผล
4. หากหน้าจอกลับมาแสดงปกติ แสดงว่าปัญหาเกิดจากการตั้งค่า ไม่ใช่เครื่องทีวีเสีย แต่หากพบไม่กลับมาเป็นปกติ ให้สันนิษฐานเลยว่าทีวีน่าจะมีปัญหา ควรส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ หรือติดต่อศูนย์บริการทีวีค่ะ

6.ทีวีเปิดไม่ติด

วิธีซ่อม/ วิธีเช็ค :
1. ตรวจเช็คปลั๊กไฟเสียบแน่นดีหรือไม่ และลองเปลี่ยนไปเสียบช่องอื่น หรือทดสอบกับปลั๊กพ่วงอันใหม่ที่ใช้งานได้แน่นอน
2. ตรวจเช็คปุ่มเปิดทีวีที่อยู่บนตัวเครื่องโดยตรง เพื่อดูว่าเครื่องตอบสนองหรือไม่
3. ถอดปลั๊กออก รอประมาณ 2–3 นาที แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นลองเปิดเครื่องอีกครั้ง

Inspire Tips : เมื่อเช็กทุกอย่างแล้วทีวียังไม่สามารถใช้งานได้ แสดงว่าปัญหาอาจเกิดจาก ระบบจ่ายไฟ (Power Supply) ภายในเครื่องเสียก็เป็นไปได้นะคะ ซึ่งกรณีนี้ควรนำไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบจะปลอดภัยกว่าค่ะ

7.กรณีทีวีเปิดติดเอง หรือปิดเอง ทั้งๆ ที่เราไม่ได้บังคับด้วยรีโมท

วิธีซ่อม/ วิธีเช็ค :
ตรวจสอบการตั้งค่า Sleep Timer : หยิบรีโมทกดปุ่ม Setting (ตั้งค่า) แล้วเข้าไปที่เมนูการตั้งค่า ตรวจสอบว่ามีการเปิดฟังก์ชัน Sleep Timer อยู่รึเปล่า หากเปิดอยู่ให้ปิดการใช้งานออก
Inspire Tips : ลองสังเกตอาการหลังปิดการตั้งค่า เมื่อปิด Sleep Timer แล้ว ให้ลองใช้งานทีวีตามปกติ ถ้าเครื่องไม่ปิดหรือเปิดเองอีก แสดงว่าเกิดจากการตั้งค่า Sleep Timer แน่ๆ แล้วหล่ะค่ะ

กรณียังมีอาการอยู่ : ถ้าไม่ได้ตั้งค่า Sleep Timer ทีวียังปิดเปิดเองอยู่ อาจเป็นเพราะระบบไฟฟ้าในบ้านไม่เสถียร ลองแก้ปัญหาด้วยการใช้ปลั๊กพ่วงที่มีระบบกันไฟกระชาก อาจจะช่วยป้องกันความเสียหายของวงจรทีวีค่ะ

8.หน้าจอทีวีมีเส้นขีดขี้นมา

วิธีซ่อม/ วิธีเช็ค :
1. ตรวจสอบเบื้องต้นก่อนให้แน่ใจว่าอาการหน้าจอมีเส้น ไม่ได้เกี่ยวกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือกล่องรับสัญญาณ หรือสายเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น เช่น HDMI หรือสาย AV หลวม
2. หากยังไม่หายให้สังเกตลักษณะของเส้น

• ถ้าเป็นเส้นแนวตั้งยาวตลอดจอ มักเกิดจากสายแพรจอหลวม
• ถ้าเป็นเส้นแนวนอนหรือเป็นแถบ อาจเกิดจากบอร์ดจอมีปัญหา

กรณีมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์ :
สามารถปิดเครื่อง ถอดปลั๊ก และลองเปิดฝาหลังออก เพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อของสายแพรจอ ว่าหลวม หลุด หรือมีร่องรอยเสียหายหรือไม่

กรณีไม่มีความชำนาญ :
หากไม่มั่นใจในการแกะเครื่อง ควรนำไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบต่อ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเสียหายมากกว่าเดิมค่ะ

9.กรณีทีวีเสียงเบา เสียงแตก หรือเสียงหายเป็นบางครั้ง

วิธีซ่อม/ วิธีเช็ค : ให้ลองทดสอบด้วยการต่อหูฟังหรืออุปกรณ์ลำโพงเสริม ลองเสียบหูฟังหรือต่อเข้ากับลำโพงภายนอก แล้วลองเปิดเสียงทีวีตามปกติ แล้วลองดูผลหลังทดสอบ

• ถ้าเสียงจากหูฟังหรือจากลำโพงเสริมปกติเลย แสดงว่าปัญหาอยู่ที่ ลำโพงในตัวทีวี
• ถ้าเสียงยังเบา แตก หรือขาดหายเหมือนเดิม แสดงว่าปัญหามาจาก บอร์ดเสียงของทีวี

วิธีแก้ไข

• ถ้าเป็นที่ลำโพงในตัวเครื่อง อาจเลือกใช้ลำโพงเสริมแทน หรือให้นำไปให้ช่างเปลี่ยนลำโพงใหม่
• ถ้าเป็นที่บอร์ดเสียง แนะนำให้นำไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ-ซ่อมแซม เนื่องจากต้องใช้ความชำนาญและอุปกรณ์เฉพาะ

อาการที่ไม่ควรซ่อมเอง มีอะไรบ้าง ?

แม้ว่าการซ่อมทีวีหลายอาการสามารถทำเองได้ แต่ก็มีบางอาการที่ ไม่ควรเสี่ยงซ่อมเองเด็ดขาด เพราะเกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าแรงดันสูงและวงจรซับซ้อน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อผู้ใช้และตัวเครื่อง มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

• จอแตก / จอร้าว : อันนี้ไม่สามารถซ่อมเองได้ ต้องเปลี่ยนจอใหม่ทั้งแผง ราคาสูง ควรส่งศูนย์บริการ
• มีกลิ่นไหม้ / ควันออกมา : อาจเกิดจากการช็อตหรือวงจรไฟฟ้าเสีย ถ้าฝืนใช้อาจเสี่ยงไฟไหม้
• ทีวีช็อต ไฟดูด : เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟภายในจึงควรหยุดใช้งานทันที
• เสียงดังแปลกๆ (เช่น เสียงป๊อก แป๊ะ หรือจี่ต่อเนื่อง) : มักเกี่ยวข้องกับคาปาซิเตอร์หรือบอร์ดจ่ายไฟ ซับซ้อนเกินกว่าที่คนทั่วไปจะซ่อมได้

เลือกช่างซ่อมทีวียังไงดี ?

แม้ว่าบทความนี้จะเน้นเรื่องการซ่อมเอง แต่ก็ต้องเผื่อไว้สำหรับผู้อ่านที่เลือก “ส่งช่าง” หรือเช็กเบื้องต้นแล้วไม่ไหวจริงๆ เลยส่งต่อช่างเมื่อไม่มั่นใจหรืออาการเกินมือ ลองมาดูคำแนะนำในการเลือกช่างซ่อมที่ไว้ใจได้กันค่ะ

• ตรวจสอบรีวิว / คำแนะนำจากลูกค้าเก่า โดยดูจาก Google Review หรือ Facebook Page
• เลือกศูนย์บริการของยี่ห้อโดยตรง (เช่น ศูนย์ Samsung, LG, Sony) แม้ว่าอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่มั่นใจได้เรื่องอะไหล่แท้
• สอบถามค่าใช้จ่ายเบื้องต้นก่อน โดยส่วนใหญ่อาการเบาๆ ราคามักอยู่หลักร้อย–พันต้นๆ (ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของอาการ ควรถามหลายๆ ร้านเพื่อเปรียบเทียบกัน)
• ขอใบรับประกันหลังการซ่อม เพื่อป้องกันปัญหากลับมาเป็นซ้ำ

ซ่อมเอง VS ส่งช่าง

วิธีการ	ข้อดี ✅	ข้อเสีย ❌
ซ่อมเอง	– ประหยัดค่าใช้จ่าย – ทำได้ทันทีที่บ้าน – ได้เรียนรู้วิธีดูแลทีวี	– มีความเสี่ยงหากทำผิด – ใช้เวลาหาข้อมูลและลองผิดลองถูก – แก้ได้เฉพาะอาการเล็กๆ
ส่งช่าง	– ได้ช่างผู้เชี่ยวชาญดูแล – ซ่อมได้ครบทุกอาการ – มักมีการรับประกันหลังซ่อม	– ค่าใช้จ่ายสูงกว่า – ต้องใช้เวลาเดินทางหรือรอคิว – บางครั้งอะไหล่มีราคาสูง

วิธีการดูแลรักษาตัวเครื่องทีวีด้วยตัวเอง

1. ทำความสะอาดหน้าจอทีวีด้วยผ้านุ่มๆ เช่น ผ้าทำความสะอาดแว่นตา นำมาเช็ดเบาๆ เพื่อให้ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกหลุดออกมา
2. ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดบริเวณช่องระบายอากาศของทีวีประมาณเดือนละหนึ่งครั้ง
3. ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดที่เจือจางด้วยน้ำสะอาดแล้วบิดหมาดๆ เช็ดสิ่งสกปรกบนตัวรีโมทเบาๆ และใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกรอบ
4. วางทีวีไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนจนเกินไป
5. หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนช่องบ่อยหรือกดรีโมทเร็วเกินไป

Inspire Tips : หากเครื่องทีวีของคุณยังอยู่ในประกัน สามารถติดต่อขอรับบริการได้ตามยี่ห้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Samsung, ซ่อมทีวี LG, Sony หรือแบรนด์อื่นๆ เราลองลิสต์ช่องทางติดต่อแบรนด์ชั้นนำมาให้ประมาณนี้นะคะ

• Samsung ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 1282 (โทรฟรี) หรือ ช่องทางออนไลน์
• ฝ่ายบริการ LG โทร. 02-057-5757 หรือ ช่องทางออนไลน์
• ฝ่ายบริการ SONY โทร. 02-715-6100 หรือ ช่องทางออนไลน์
• ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์พานาโซนิค โทร. 02-729-9000
• SHARP Cares โทร. 02-855-8888
• ติดต่อขอรับบริการซ่อมจาก TCL
• Hisense Service Call Center โทร. 02-017-0077

แนะนำอุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับการซ่อมทีวีอาการต่างๆ

1. หลอด LED black light TV

เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำหรับใช้ซ่อมทีวีเมื่อมีอาการต่างๆ เช่น หน้าจอทีวีไม่มีภาพสามารถใช้หลอด LED black light TV อันใหม่แทนอันเก่าที่ขาดได้ โดยมีให้เลือกทั้งแบบเลนส์ 3 โวลต์ และ 6 โวลต์ แถมราคาไม่แพงอีกด้วย

หรือกดซื้อตามยี่ห้อที่นี่เลย : Samsung | Sony | LG | Toshiba | Aconatic

2. ไขควงหัวแฉก

หากต้องการซ่อมทีวีมีสิ่งหนึ่งที่จะใช้คือ ไขควงหัวแฉก จากแบรนด์ deli โดยลักษณะของไขควงจะเป็นหัวแฉกที่มีด้ามจับหุ้มฉนวนอย่างดีจับกระชับมือ อีกทั้งยังใช้งานได้ทนทาน เหมาะสำหรับงานที่ต้องขันหรือคลายน็อต สกรู ที่เป็นเครื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ

3. หัวแร้งบัดกรี

หัวแร้งบัดกรี เป็นอุปกรณ์สำหรับการซ่อมทีวีเมื่อมีอาการต่างๆ เช่น แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ขาด หรือได้รับความเสียหาย ซึ่งจุดเด่นของเครื่องนี้คือ มีโครงสร้างโลหะที่แข็งแรงมีท่อปั้มเป็นแบบสูญญากาศแรงดันสูง ที่มาพร้อมกับโครงสร้างอลูมิเนียมซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ง่าย และทนทานมากขึ้น

Inspire Now ! : วิธีซ่อมทีวีไม่มีภาพสิ่งสำคัญคือ เรื่องความปลอดภัย ดังนั้นอย่าลืมถอดปลั๊กไฟก่อนซ่อมทีวีทุกครั้ง ส่วนเรื่องการดูแลรักษาทีวีให้สามารถใช้งานได้นาน ไม่ควรเปลี่ยนช่องบ่อยๆ หรือเร็วเกินไป เพราะจะทำให้หลอด LED จอภาพขาดได้ และควรวางทีวีในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพียงแค่นี้หน้าจอทีวีของเราก็สามารถดูซีรี่ย์น่าดูต่างๆ หรือหนังดิสนีย์น่าดูเรื่องใหม่ๆ แบบคมชัดเหมือนเดิม โดยไม่ต้องกังวลกับเครื่องทีวีมีปัญหาอีกต่อไป

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันได้คำตอบใช่มั้ย ? เครื่องใช้ไฟฟ้าใครว่าซ่อมเองไม่ได้ บ้านไหนมีปัญหาเรื่องทีวีมีปัญหา ลองนำวิธีซ่อมทีวี LG และยี่ห้ออื่นๆ ที่เราแนะนำไปปรับใช้กันดูนะคะ ได้ผลยังไงมาคอมเมนต์คุยกันค่ะ ♡