วันผู้บริจาคโลหิตโลก (World Blood Donor Day) เป็นวันสำคัญที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิต และเพื่อแสดงความขอบคุณต่อผู้บริจาคโลหิตทั่วโลก DIYINSPIRENOW ได้เคยนำเสนอเรื่องการบริจาคสิ่งของเหลือใช้กันไปแล้ว ในบทความนี้จะชวนทุกคนมารู้จักกับวันนี้ และไปบริจาคเลือดเพื่อสังคมกันค่ะ
ชวนรู้จัก วันผู้บริจาคโลหิตโลก ตระหนักถึงการบริจาคเลือด และไปบริจาคเลือดกัน !
14 มิถุนายน เป็นวันผู้บริจาคโลหิตโลก วัตถุประสงค์ของวันนี้ก็คือการ สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิต ส่งเสริมการบริจาคโลหิตโดยสมัครใจ และไม่หวังผลตอบแทน เพื่อขอบคุณผู้บริจาคโลหิตทั่วโลก และกระตุ้นให้มีการบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอ เดี๋ยวเล่าค่อยๆ มาดูกันค่ะว่า เค้าทำอะไรกันบ้างในวันนี้
Image Credit : freepik.com 
ประวัติความเป็นมาของวันผู้บริจาคโลหิตโลก
จุดเริ่มต้นของวันผู้บริจาคโลหิตโลกเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2004 ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มขององค์การอนามัยโลก (WHO) ร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ เช่น สหพันธ์สภากาชาด และสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) สมาพันธ์ผู้บริจาคโลหิตระหว่างประเทศ (FIODS) สมาคมบริการโลหิตระหว่างประเทศ (ISBT) เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตทั่วโลก ส่งเสริมการบริจาคโลหิตโดยสมัครใจและไม่หวังผลตอบแทน โดยวันที่ 14 มิถุนายนนี้ตรงกับวันเกิดของ Karl Landsteiner นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรียที่ค้นพบระบบหมู่เลือด ABO ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาการถ่ายเลือดให้ปลอดภัย ซึ่งตั้งแต่ปี 2004 การเติบโตของวันผู้บริจาคโลหิตโลกก็ได้รับการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี มีการกำหนดธีม หรือหัวข้อเฉพาะสำหรับแต่ละปี เพื่อเน้นย้ำประเด็นสำคัญต่างๆ ซึ่งกิจกรรมและการรณรงค์ได้ขยายวงกว้างขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก การจัดงานนี้ช่วยเพิ่มความตระหนักเรื่องการบริจาคโลหิตในระดับโลก โดยในหลายๆ ประเทศได้พัฒนาระบบการบริจาคโลหิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้จำนวนผู้บริจาคโลหิตโดยสมัครใจเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ วันผู้บริจาคโลหิตโลกจึงกลายเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการบริจาคโลหิตและสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตในระดับสากล
FULI หมอนนวดคอไฟฟ้า รุ่น Cool Tech | FULI Cool Tech Massage Neck Pillow
 
  
 
Image Credit : freepik.com 
ประวัติของ Karl Landsteiner
Karl Landsteiner เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรีย – อเมริกัน ผู้ค้นพบระบบหมู่เลือด ABO Landsteiner เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1868 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจบการศึกษาแพทยศาสตร์ เขาได้ทำงานวิจัยด้านชีวเคมีและภูมิคุ้มกันวิทยาในสถาบันต่างๆ ทั้งในเวียนนาและต่างประเทศ
ผลงานสำคัญของเขาคือการค้นพบหมู่เลือด ABO ในปี 1901 ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาการให้เลือดที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เขายังมีส่วนร่วมในการวิจัยเกี่ยวกับโรคโปลิโอ และการใช้หมู่เลือดในการพิสูจน์ความเป็นบิดา
ในปี 1919 เขาย้ายไปทำงานที่เนเธอร์แลนด์ และต่อมาในปี 1922 ได้ย้ายไปทำงานที่สถาบันร็อคกี้เฟลเลอร์ในนิวยอร์ก ที่นี่เขาได้ทำการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมู่เลือด และค้นพบปัจจัย Rh ในเลือด
Landsteiner ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ในปี 1930 จากผลงานการค้นพบหมู่เลือด เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทุ่มเทและขยันขันแข็ง ทำงานวิจัยอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเสียชีวิตในห้องปฏิบัติการเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 1943 ขณะอายุ 75 ปี
Image Credit : freepik.com 
ความสำคัญของวันผู้บริจาคโลหิตโลก คืออะไร ?
วันผู้บริจาคโลหิตโลกมีความสำคัญทั้งในแง่ของการสร้างความตระหนัก การพัฒนาระบบสาธารณสุข และการส่งเสริมค่านิยมของการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสังคม ซึ่งมีความสำคัญหลายประการ ดังนี้
- สร้างความตระหนักรู้ : กระตุ้นให้สังคมเห็นความสำคัญของการบริจาคโลหิต ให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์และความจำเป็นของการบริจาคโลหิต
 
- เพิ่มจำนวนผู้บริจาคโลหิต : ส่งเสริมให้มีผู้บริจาคโลหิตรายใหม่ และกระตุ้นให้ผู้บริจาคเดิมบริจาคอย่างสม่ำเสมอ
 
- ส่งเสริมการบริจาคโดยสมัครใจ : เน้นย้ำความสำคัญของการบริจาคโลหิตโดยไม่หวังผลตอบแทน สร้างวัฒนธรรมการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
 
- ให้มีโลหิตใช้ในระยะยาว : ช่วยให้มีปริมาณโลหิตเพียงพอสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการ ลดปัญหาการขาดแคลนโลหิตในภาวะฉุกเฉิน
 
- แสดงความขอบคุณผู้บริจาค : เป็นโอกาสในการยกย่องและขอบคุณผู้บริจาคโลหิต อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นร่วมบริจาคโลหิตอีกด้วย
 
- พัฒนาระบบการบริจาคโลหิต : กระตุ้นให้มีการปรับปรุงกระบวนการ และเทคโนโลยีการบริจาคโลหิต พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
 
- สร้างความเข้าใจเรื่องความปลอดภัย : ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการบริจาคและการรับโลหิต และลดความกังวล ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการบริจาคโลหิต
 
- ส่งเสริมสุขภาพชุมชน : สร้างความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขในชุมชน พร้อมกระตุ้นให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพซึ่งกันและกัน
 
- สร้างความร่วมมือระดับนานาชาติ : เป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างประเทศ และส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาระบบบริจาคโลหิตระดับโลก
 
- เชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน : สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของ SDGs และส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ
 
Image Credit : freepik.com 
กิจกรรมวันผู้บริจาคโลหิตโลก
กิจกรรมวันผู้บริจาคโลหิตโลกมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจัดขึ้นทั่วโลกเพื่อส่งเสริมการบริจาคโลหิตและสร้างความตระหนักรู้ และนี่คือตัวอย่างกิจกรรมที่มักจัดขึ้นในวันนี้ค่ะ 
- การรณรงค์บริจาคโลหิต : จัดหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ในสถานที่ต่างๆ เปิดศูนย์รับบริจาคโลหิตพิเศษ
 
- การให้ความรู้สาธารณะ : จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริจาคโลหิต จัดเสวนาหรือบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญ
 
- กิจกรรมในสื่อสังคมออนไลน์ : รณรงค์ผ่านแฮชแท็กเฉพาะ หรือจัดแคมเปญแชร์ประสบการณ์การบริจาคโลหิต
 
- การยกย่องผู้บริจาคโลหิต :  มอบเกียรติบัตรหรือของที่ระลึกแก่ผู้บริจาคประจำ จัดพิธีขอบคุณผู้บริจาคโลหิต
 
- กิจกรรมในสถานศึกษา : จัดการแข่งขันเรียงความหรือวาดภาพเกี่ยวกับการบริจาคโลหิต จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่นักเรียนนักศึกษา
 
- การจัดแสดงนิทรรศการ : แสดงประวัติความเป็นมาของการบริจาคโลหิต นำเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโลหิต
 
- การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ : ผลิตโปสเตอร์ แผ่นพับ หรือวิดีโอรณรงค์ เผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อมวลชน
 
- กิจกรรมกีฬาและนันทนาการ : จัดการเดิน-วิ่งเพื่อส่งเสริมการบริจาคโลหิต จัดคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อระดมทุน
 
- การประชุมวิชาการ : จัดสัมมนาเกี่ยวกับนวัตกรรมในการบริจาค และการใช้โลหิต แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ
 
- การร่วมมือกับภาคเอกชน : จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตในบริษัทและองค์กรต่างๆ สร้างพันธมิตรกับธุรกิจเพื่อสนับสนุนการบริจาคโลหิต
 
- การประกวดออกแบบ : จัดประกวดออกแบบโลโก้หรือสัญลักษณ์ประจำปี ประกวดสร้างสรรค์สื่อรณรงค์
 
- กิจกรรม challenge : จัด challenge ให้บริจาคโลหิต และแชร์ประสบการณ์ในสื่อโซเชีลง สร้างแคมเปญให้กับองค์กร หรือชุมชนให้ร่วมบริจาค
 
ชาเขียวแท้ Itoen Oi Ocha Greentea ชาเขียวผงแท้ 100% ขนาด 80g
 
  
 
Image Credit : freepik.com 
ความสำคัญของการบริจาคโลหิต
การบริจาคโลหิตมีความสำคัญทั้งในแง่การช่วยชีวิต การพัฒนาระบบสาธารณสุข และการสร้างสังคมที่เอื้ออาทรต่อกัน ความสำคัญของการบริจาคโลหิตมีอะไรบ้าง มาดูกันต่อค่ะ
- ช่วยชีวิต และรักษาผู้ป่วย : ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ การผ่าตัดใหญ่ จำเป็นสำหรับการรักษาโรคเลือด มะเร็งเม็ดเลือดขาว และโรคเรื้อรังต่างๆ อีกทั้งยังช่วยเรื่องการคลอดบุตร และการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง
 
- สร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุข : เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติหรือโรคระบาด ลดการพึ่งพาการนำเข้าเลือดจากต่างประเทศ ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศ
 
- ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ : ใช้ในการวิจัยเพื่อพัฒนายาและวิธีการรักษาใหม่ๆ กระตุ้นการพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บรักษาและขนส่งโลหิต
 
- ส่งเสริมสุขภาพและสร้างความภาคภูมิใจแก่ผู้บริจาค : กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดใหม่ในร่างกายผู้บริจาค และผู้บริจาคได้รับการตรวจสุขภาพฟรีและรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น
 
- สร้างความสามัคคีและจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม : ส่งเสริมวัฒนธรรมการแบ่งปันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เชื่อมโยงผู้คนต่างวัย ต่างอาชีพ ผ่านการบริจาคโลหิต เสริมสร้างจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมในวงกว้าง
 
Image Credit : freepik.com 
ประโยชน์ของการบริจาคโลหิต
การบริจาคโลหิตมีประโยชน์มากมาย ทั้งต่อผู้บริจาค และผู้รับ มีประโยชน์หลักๆ ดังนี้
- ช่วยชีวิตผู้ป่วย : โลหิตที่บริจาคสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ การผ่าตัด หรือโรคที่ต้องการการถ่ายเลือด
 
- ช่วยเรื่องสุขภาพผู้บริจาค : การบริจาคโลหิตกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดใหม่ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
 
- ตรวจสุขภาพฟรี : ผู้บริจาคจะได้รับการตรวจสุขภาพเบื้องต้น และการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเลือดฟรี
 
- สร้างความภาคภูมิใจ : การบริจาคโลหิตเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ สร้างความรู้สึกดีและภาคภูมิใจให้กับผู้บริจาค
 
- เสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง : การบริจาคโลหิตส่งเสริมความเอื้ออาทร และความสามัคคีในชุมชน
 
- พัฒนาการแพทย์: โลหิตที่บริจาคยังสามารถนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ได้
 
- ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข : การมีธนาคารเลือดที่เพียงพอช่วยลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าโลหิตจากต่างประเทศได้
 
เตรียมตัวยังไง ? ในการบริจาคเลือด
การเตรียมตัวบริจาคเลือดที่ดีจะช่วยให้กระบวนการบริจาคเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ทำยังไง มาดูกันค่ะ
- พักผ่อนให้เพียงพอ : นอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงในคืนก่อนวันบริจาค
 
- รับประทานอาหารให้ครบมื้อ : กินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อแดง ผักใบเขียว ถั่ว (อ่านเรื่องอาหารตามกรุ๊ปเลือดเพิ่มเติมได้อีกนะคะ)
 
- ดื่มน้ำมากๆ : ดื่มน้ำอย่างน้อย 2-3 ลิตรในวันก่อน และวันที่บริจาค เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกาย
 
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง : งดอาหารที่มีไขมันสูงก่อนบริจาค 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เลือดขุ่น
 
- งดแอลกอฮอล์ : หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนบริจาค
 
- งดสูบบุหรี่ : ไม่ควรสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อน และหลังการบริจาค
 
- สวมเสื้อผ้าสบายๆ : เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย และเสื้อแขนสั้นหรือแขนยาวที่พับขึ้นได้ง่าย
 
- พกบัตรประชาชน : นำบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารแสดงตนไปด้วย
 
- แจ้งประวัติการเจ็บป่วยและยาที่ใช้ : เตรียมข้อมูลประวัติสุขภาพและยาที่ใช้ประจำให้พร้อม
 
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก : ไม่ควรออกกำลังกายหนักในวันบริจาคและหลังบริจาค
 
- ตรวจสอบคุณสมบัติ : ศึกษาเงื่อนไขการบริจาคเลือด เช่น อายุ น้ำหนัก และสุขภาพโดยรวม
 
- การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการบริจาคเลือด และช่วยให้กระบวนการบริจาคเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพค่ะ สำหรับใครที่สงสัยว่าการบริจาคเกร็ดเลือดผู้หญิง ทำได้มั้ย มีขั้นตอนยังไง ลองอ่านเพิ่มเติมได้อีกนะคะ
 
PANPURI HERBAL REPOSE SOOTHING NECK & SHOULDER PILLOW
 
  
 
| Inspire Now ! : วันผู้บริจาคโลหิตโลก เป็นโอกาสให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิต ซึ่งเป็นการให้ที่ไม่มีค่าใดจะมาเทียบได้ โลหิตทุกหยดที่คุณบริจาคสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยจากความสิ้นหวังเป็นโอกาสในการมีชีวิตใหม่ได้ DIYINSPIRENOW จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่มีสุขภาพแข็งแรงร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้ที่ยิ่งใหญ่นี้ ด้วยการบริจาคโลหิต เพียงแค่สละเวลาเล็กน้อย คุณก็สามารถเป็นฮีโร่ที่ช่วยชีวิตผู้อื่นได้แล้วหล่ะค่ะ | 
|---|
 
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมหรือเปล่า ? มาร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันผ่านการบริจาคโลหิตกันนะคะ ส่วนใครที่เคยบริจาคแล้วมีประสบการณ์แบบไหน มาคอมเมนต์แบ่งปันกันนะคะ ♡
Featured Image Credit : freepik.com