กินเจกันมั้ย ? ข้อดีของการกินเจคืออะไร ชวนรู้จักและลองกินเจกัน !
605
เข้าสู่เทศกาลกินเจ 2563 แล้ว ตลอดวันที่ 17 – 25 ตุลาคมนี้ สาวๆ คงจะได้เห็นร้านอาหารหลายร้านเสิร์ฟเมนูเจ นอกจากนี้ร้านที่ขายอาหารเจอยู่แล้วก็คงคึกคักไม่น้อย โดยเฉพาะในย่านชาวไทยเชื้อสายจีนอย่างเยาวราชไปจนถึงชุมชนชาวจีนในอีกหลายๆ จังหวัด เช่น จันทบุรี ตรัง สงขลา หรือภูเก็ต ก็คึกคักมากขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ แต่สาวๆ เคยรู้ไหมคะว่าการกินเจคืออะไร มีที่มาอย่างไร ข้อดีของการกินเจ และข้อควรระวังมีอะไรบ้าง DIY INSPIRE NOW ขอชวนมาทำความเข้าใจเรื่องการกินเจให้มากขึ้นกันค่ะ
การกินเจ คืออะไร? เรากินเจเพื่ออะไร ลองมาดูกัน
Image Credit : thairath.co.th
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า “เจ” กันก่อนดีกว่า คำว่า เจ ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนานิกายมหายานว่า อุโบสถ ซึ่งชาวไทยนำมาใช้เพื่อเสื่อถึงการกินอาหารก่อนเที่ยงวันตามความเชื่อเรื่องอุโบสถศีล นอกจากนี้เนื่องจากชาวพุทธนิกายมหายานจะไม่กินเนื้อสัตว์ระหว่างถืออุโบสถศีลหรือศีล 8 ด้วยเหตุนี้จึงกลายมาเป็นการกินเจ หรือไม่กินเนื้อสัตว์ในที่สุด นอกจากการไม่กินเนื้อสัตว์แล้ว ในระหว่างกินเจหรือตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ – 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนยังต้องรักษากาย วาจา และใจให้บริสุทธิ์ เป็นการถือศีลและประพฤติตนให้อยู่ในศีลธรรมไปพร้อมกัน เทศกาลนี้จึงกลายมาเป็นการถือศีลกินเจอย่างที่เราคุ่นเคยกันในที่สุด ส่วนการกินเจ 2563 นี้ตรงกับวันที่ 17 – 25 ตุลาคม แต่ในหลายจังหวัดอาจเริ่มกินเจล้างท้องตั้งแต่วันที่ 16 ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ที่มาของ “เทศกาลถือศีลกินเจ”
Image Credit : mgronline.com
ก่อนจะไปเริ่มกินเจ 2563 เราลองมาย้อนดูตำนานของการกินเจกันก่อนดีกว่า ความจริงแล้วมีที่มาและตำนานหลายเรื่อง โดยเรื่องที่เราได้ยินบ่อยที่สุดเกี่ยวกับเทศกาลกินเจก็คือ เป้นเทศกาลที่มีที่มายาวนานกว่า 400 ปี ในสมัยที่ชนชาติจีนถูกแมนจูรุกรานและบังคับให้รับเอาวัฒนธรรมต่างๆ ทั้งการไว้ทรงผมหรือการแต่งกายมาปฏิบัติ แต่ก็มีชาวจีนกลุ่มหนึ่งต่อต้านโดยการนุ่งขาวห่มขาวและไม่กินเนื้อสัตว์ ตามความเชื่อที่ว่าการปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยสร้างความเข็มแข็งให้กลุ่มผู้ต่อต้าน และได้เรียกตัวเองว่ากลุ่ม “หงี่หั่วท้วง” แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานชาวแมนจูได้ ด้วยเหตุนี้ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ชาวจีนจึงถือศีลกินเจเพื่อรำลึกถึงกลุ่มหงี่หั่วท้วงที่ได้ต่อสู้พลีชีพเพื่อต่อต้านแมนจู
ส่วนในประเทศไทยของเราการกินเจจะมุ่งเน้นไปที่การละเว้นการเอาชีวิตสัตว์เพื่อเป็นการสักการะบูชาพระพุทธเจ้าและเจ้าแม่กวนอิม โดยนอกจากข้อดีของการกินเจหลายๆ อย่างแล้วยังมีจุดประสงค์หลักในการกินเจ คือ
- กินเจเพื่อสุขภาพ : อาหารเจเป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ รสไม่จัด ไม่มีผักกลิ่นฉุน จึงดีต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย ช่วยปรับสมดุล ทำให้สุขภาพดี ถือเป็นหนึ่งในข้อดีของการกินเจ
- กินเจด้วยความมีเมตตา : การกินเจเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ละเว้นจากการเอาชีวิตสัตว์ การกินเนื้อ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ ถือเป็นช่วงเวลาดีที่เราจะได้กินอาหารด้วยจิตที่มีเมตตา
- กินเจเพื่อเว้นกรรม : คนไทยเราเชื่อว่าการฆ่าเป็นการสร้างกรรม แม้จะมีความจำเป็นอย่างกินกินเป็นอาหารหรือไม่ได้ลงมือฆ่าเองก็เป็นการสร้างกรรม ดังนั้นการกินเจจึงเป็นการเว้นกรรม ไม่เห็นแก่ความอร่อยในช่วงสั้นๆ เพื่อลด ละ เลิก การเอาชีวิตของสัตว์อื่น
ข้อดีของการกินเจ
- สุขภาพดีขึ้น : เราเชื่อว่าเมื่อพูดถึงข้อดีของการกินเจหลายคนต้องนึกถึงเรื่องสุขภาพเป็นอันดับแรก เพราะอาหารเจเป็นอาหารรสอ่อน มีผักเยอะ ไม่ปรุงด้วยเครื่องปรุงรสจัดเกินไปทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม จึงดีต่อระบบต่างๆ ของร่างกายมากกว่า
- ระบบขับถ่ายดีขึ้น : เนื่องจากอาหารเจส่วนใหญ่เป็นผัก การกินอาหารเจจึงช่วยปรับการทำงานของระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น
- ได้สัมผัสความอร่อยตามธรรมชาติ : ใครที่ชอบรสชาติอาหารแบบปรุงแต่งน้อยหรือคนที่กินคลีนอยู่แล้วน่าจะถูกใจ เพราะข้อดีของการกินเจการได้สัมผัสความอร่อยจากรสชาติวัตถุดิบ เพราะการปรุงอาหารเจจะเน้นปรุงให้รสอ่อนที่สุด บางคนอาจใช้วิธีการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์และทำอาหารเอง ก็ยิ่งมั่นใจในความสดสะอาดของวัตถุดิบมากขึ้นด้วย
- อิ่มบุญ อิ่มใจ : ตลอดช่วงเทศกาลเราจะได้กินอาหารอย่างอิ่มบุญ อิ่มใจ สบายใจ เพราะได้ละเว้นเนื้อสัตว์ ละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อม
ข้อควรระวังในการกินเจที่เราควรรู้
การกินเจนั้นเป็นการกินอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบคล้ายกับการกินมังสวิรัติ แต่อาหารเจมีข้อควรระวังคือ ต้องละเว้นผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ประเภทด้วย นั่นคือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน) กุยช่าย และใบยาสูบ นอกจากนี้ยังต้องละเว้นสิ่งเสพติดทุกชนิดและประพฤติตนให้บรสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจหรือการถือศีลร่วมด้วยจึงจะเป็นการถือศีลกินเจที่ถูกต้อง อาจเริ่มจากการฟังเพลงบรรเลงนั่งสมาธิและสงบใจของเราเป็นประจำร่วมด้วยก็ได้
Inspire Now ! : ถึงแม้จะมี ข้อดีของการกินเจ หลายอย่าง แต่ก็อย่าลืมเลือกกินอาหารเจที่สด สะอาด ปรุงสุกใหม่ และกินโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละมื้อด้วยนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นร่างกายของเราอาจขาดสารอาหารที่จำเป็นอย่างกรดอะมิโนและโปรตีนมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ ส่วนใครที่กลัวว่าจะได้รับสารอาหารไม่ครบ ลองวางแผนเมนูในแต่ละวันผ่าน แอพ planner น่ารักๆ ก็ช่วยเตือนความจำได้ดีแถมยังไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอกินของมันหรือกินแป้งมากไปช่วงเทศกาลเจด้วย |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าใช่ไหม ? ใครมีประสบการณ์กินเจในแต่ละปีอยากมาแชร์กับเรา ทั้งร้านอร่อย เมนูแนะนำ หรือแนวทางปฏิบัติตัว คอมเมนต์พูดคุยกันได้เลยนะคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : th.wikipedia.org, thairath.co.th
Facebook Comments