แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย อย่าเพิ่งเครียด ! ตามมาดูสาเหตุ คำแนะนำ เพื่อสุขภาพดีแบบแพคคู่กัน !

สำหรับแม่ตั้งครรภ์ การดูแลตนเองมีความสำคัญมาก เพื่อให้ทั้งแม่และลูกมีสุขภาพที่ดี ดังนั้นการดูแลตนเองอย่างพอเพียงและเหมาะสมจะทำให้แม่มีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง พร้อมผ่านพ้นระยะตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย คลอดลูกน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งระหว่างการตั้งครรภ์หาก คุณแม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย ขึ้นมาจะทำยังไงดี ในบทความนี้ DIYINSPIRNOW จะมาแนะนำการรับมือ และดูแลตัวเองให้ปลอดภัยทั้งคุณแม่ และคุณลูกกันค่ะ

แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย ทำยังไงดี ? มารู้จักวิธีรับมือและดูแลตัวเองกัน !

โดยปกติแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ควรบำรุงลูกในครรภ์ด้วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ โปรตีน ผัก ผลไม้ อาหารที่มีโฟเลต เหล็ก ธาตุแคลเซียม ออกกำลังกายแบบเบาๆ และสม่ำเสมอ ระวังหกล้ม นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด และไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจตามนัด แต่ถ้าหากว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสียขึ้นมา ก็ไม่ต้องตกใจไป ลองมาดูสาเหตุ และวิธีการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์กันให้มากกว่าเดิมกันค่ะ

ทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสียระหว่างตั้งครรภ์ ?

อาการท้องเสียในระหว่างตั้งครรภ์อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และเอสโตรเจน ส่งผลให้กระบวนการย่อยอาหารและการเคลื่อนไหวของลำไส้เปลี่ยนแปลงไป
2. เมื่อมดลูกขนาดใหญ่ขึ้น กดทับลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิดอาการท้องผูกหรือท้องเสียได้
3. การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร อาจมาจากการปนเปื้อนของเชื้อโรคในอาหารหรือน้ำดื่ม
4. ความไวต่ออาหารบางชนิด เนื่องจากร่างกายมีการตอบสนองต่ออาหารแปลกปลอมมากขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์
5. ภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ โรคนิ่วในถุงน้ำดี เป็นต้น
6. ความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร

จะรู้ได้ยังไงว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย แค่ไหน ถึงต้องไปพบแพทย์ ?

หากอาการท้องเสียมีความรุนแรง คงอยู่นาน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งครรภ์ เพื่อหาสาเหตุและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งสำหรับแม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย ควรพิจารณาปรึกษาแพทย์ในกรณีดังต่อไปนี้

1. ท้องเสียมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลานานเกิน 24 ชั่วโมง แสดงว่ามีการขาดน้ำและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
2. มีไข้ร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
3. มีเลือดปนออกมากับอุจจาระ อาจเป็นอาการของริดสีดวงทวารหนัก
4. ปวดท้องรุนแรงผิดปกติ อาจเป็นอาการแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น นิ่วในถุงน้ำดี
5. มีอาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ทำให้รับประทานอาหารและน้ำได้น้อย เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารและน้ำ
6. มีประวัติเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกรดไหลย้อน โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
7. มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานขณะตั้งครรภ์

ในกรณีที่อาการรุนแรงหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เพื่อได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่อแม่และทารกในครรภ์ได้

คำแนะนำเมื่อแม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย มีอะไรบ้าง ?

1. ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ หรือน้ำเปล่าบ่อยๆ เพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป
2. รับประทานอาหารอ่อนๆ ง่ายต่อการย่อย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก โอวัลติน
3. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าออกแรงมากนัก
4. หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชม. หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้สูง ปวดท้องรุนแรง ควรพบแพทย์ทันที
5. สำหรับการรักษาโดยทั่วไป อาจได้รับยาระงับอาการท้องเสีย หรือยาดูดซึมน้ำจากแพทย์
6. ถ้าท้องเสียรุนแรงต้องสังเกตอาการขาดน้ำ กระหายน้ำ ปัสสาวะน้อยลง เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ

อาการท้องเสียนั้นเป็นเรื่องปกติในระหว่างตั้งครรภ์ แต่ต้องเฝ้าระวังดูแลให้ดี หากอาการรุนแรงผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีที่สุด

แม่ตั้งครรภ์ควรระวังเป็นพิเศษในเรื่องอะไรบ้าง ?

1. อาหารการกิน

• หลีกเลี่ยงอาหารดิบ เนื้อสัตว์สุกไม่สนิท ไข่ดิบ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
• งดอาหารหมักดอง อาหารรสจัด เครื่องดื่มกระตุ้นประสาท เช่น กาแฟ เพราะอาจทำให้ท้องเสียได้
• ดื่มนมเปรี้ยวและกินอาหารที่มีใยอาหารสูงๆ เพื่อช่วยการขับถ่าย

2. การออกกำลังกาย

• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก มีแรงกระแทกหรือเสี่ยงต่อการหกล้ม
• เลือกออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น เดิน ว่ายน้ำ โยคะ

3. การใช้ยา

• ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาใดๆ เพราะบางตัวอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์

4. การดูแลร่างกาย

• พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด
• สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดไม่แน่น ระวังท้องถูกกดทับ
• ดูแลสุขอนามัยส่วนตัวเป็นพิเศษ

5. งานอดิเรก/กิจกรรม

• หลีกเลี่ยงงานที่ต้องนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน
• ระวังฝุ่นควัน สารเคมี เสียงดังรบกวน

การดูแลตนเองอย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยให้ตั้งครรภ์เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

สามี ควรดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย ยังไงบ้าง ?

สามีมีบทบาทสำคัญในการดูแลและสนับสนุนภรรยาที่ตั้งครรภ์และหากแม่ตั้งครรภ์มีอาการท้องเสีย คุณสามีก็สามารถช่วยได้ ดังนี้ค่ะ

1. ร่วมมือกับภรรยาในการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การรับประทานยาตามที่สั่ง และปรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิตตามที่แพทย์แนะนำ
2. ช่วยส่งเสริมสุขภาพภรรยาด้วยการจัดหาอาหารและอาหารเสริมที่มีประโยชน์ รวมถึงการดูแลสุขภาพอนามัยของภรรยาให้ดีอยู่เสมอ
3. ช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้านและกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้ภรรยาได้พักผ่อนและลดความเครียด
4. เป็นกำลังใจและให้การสนับสนุนทางจิตใจ เข้าใจอารมณ์คนท้อง ด้วยการฟังปัญหาของภรรยาอย่างใจเย็น และให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
5. สังเกตอาการของภรรยาอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะพาไปพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ

การที่สามีให้การดูแลและสนับสนุนภรรยาอย่างเต็มที่ จะช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสียฟื้นตัว และมีสุขภาพที่ดีในระหว่างการตั้งครรภ์ได้

Inspire Now ! : คุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย อ่านแล้วสบายใจขึ้นมั้ยคะ การดูแลตัวเองในช่วงตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็อย่าลืมว่าต้องไม่เครียดกับการดูแลตัวเองตามคำแนะนำจนมากเกินไป เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของแม่ตั้งครรภ์คือภาวะอารมณ์ที่เบิกบาน แจ่มใส เพื่อลูกน้อยภายในที่แข็งแรงนั่นเองค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันพร้อมที่จะเป็นคุณแม่ใช่ไหม ? คุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ดังนั้นมาดูแลตัวเองให้ร่างกายแข็งแรง และพบแพทย์เมื่อเกิดความผิดปกติกันนะคะ ♡

Featured Image Credit : freepik.com/valeria_aksakova