ปี 2567 ลอยกระทงวันที่เท่าไร ? มารู้จักประวัติวันลอยกระทงให้มากขึ้นกัน !
ลอยกระทงวันที่เท่าไหร่ ชวนลอยกระทงให้สนุก และเข้าถึงประเพณีไทยมากขึ้นด้วยการเข้าใจประวัติความเป็นมา มาเรียนรู้ เข้าใจ และสนุกกับเทศกาลนี้กัน
ส้ม เป็นผลไม้มากประโยชน์ อุดมไปด้วยวิตามินซีและไฟเบอร์ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก ใครสงสัยว่าคนเป็นเบาหวานกินผลไม้อะไรได้บ้าง ส้มก็คือหนึ่งในนั้น นอกจากนี้กลิ่นของผิวส้มยังช่วยคลายเครียดอีกด้วย หลายคนจึงนิยมกินส้มสดๆ และนำมาแปรรูปเป็นอาหารหรือขนมหลากหลาย หนึ่งในนั้นก็คือแยมผิวส้มซึ่งเป็นแยมผลไม้รสชาติโปรดของใครหลายคน วันนี้ DIY INSPIRE NOW จึงมีสูตร วิธีทำแยมส้ม ง่ายๆ แต่อร่อยและแปลกใหม่มาฝากค่ะ
Image Credit : giverecipe.com
วิธีทำแยมส้ม สูตรแรกขอเริ่มที่แยมส้มสูตรคลาสสิกที่ทำง่าย อร่อย คุมความหวานได้เองตามใจชอบ แต่ถ้าใครอยากปรับสูตรให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้นก็เปลี่ยนจากการใส่น้ำตาลมาเป็นน้ำผึ้งครึ่งถ้วยแทนได้นะคะ แยมส้มสูตรนี้ทำง่ายที่สุด ใช้ส่วนผสมไม่เยอะ แถมยังใช้เวลาทำไม่นาน ใครชอบกินแยมส้มต้องฝึกทำติดครัวเอาไว้เลย
เทน้ำสะอาดใส่หม้อตามด้วยน้ำตาลจากนั้นต้มจนเดือด ใส่ส้มที่เราหั่นเป็นชิ้นพอคำลงไป ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที จนกระทั่งส่วนผสมทั้งหมดข้นเหนียว ปิดไฟแล้วรอให้เย็น ตักใส่ขวดโหลดที่ต้มฆ่าเชื้อแล้ว เท่านี้ก็ได้แยมส้มสูตรคลาสสิกทำง่ายเก็บไว้กินได้นานแล้วค่ะ
Image Credit : practicalselfreliance.com
ผสมผสานความหวานอมเปรี้ยวและสดชื่นของส้มเข้ากับรสชาติเผ็ดร้อนเล็กๆ ของเครื่องเทศ แถมยังมีกลิ่นอบอุ่นแบบเฉพาะตัว กินกับขนมปังหรือแครกเกอร์ก็อร่อย! ความสนุกของ วิธีทำแยมส้มสูตร นี้ก็คือเราสามารถเลือกสมุนไพรหรือเครื่องเทศที่ชอบมาผสมลงไปได้ตามใจเลย (แต่ก็อย่าลืมคำนึงถึงความเข้ากันของรสชาติและกลิ่นด้วยนะ)
นำส้มที่เราปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นใส่ลงในเครื่องปั้น ปั่นจนได้เนื้อส้มละเอียด จากนั้นนำไปใส่หม้อ เติมน้ำตาลและเครื่องเทศลงไป เคี่ยวด้วยไฟปานกลางประมาณ 20-30 นาที จากนั้นปิดเตา รอจนส่วนผสมเย็นตัวลงแล้วค่อยนำใส่ขวดโหลดค่ะ เคล็ดลับของแยมส้มขวดนี้ก็คือควรเก็บไว้ที่ตู้เย็นเพื่อรสชาติที่ดีและเพื่อรักษากลิ่นของเครื่องเทศด้วยนะคะ
Image Credit : homespunseasonalliving.com
เปลี่ยนจากวิธีทำแยมส้มธรรมดา มาเป็นแยมผิวส้มที่เติมความหอมจากผิวส้มลงไป ได้รสอร่อยของสัมผัสผิวส้ม และยังมีกลิ่นหอมกับรสเข้มข้นของรัม แต่แน่นอนว่าไม่มีแอลกอฮอล์นะคะเพราะแอลกอฮอล์จะระเหยไปกับกระบวนการเคี่ยวแยมของเราแล้ว ถือเป็นแยมสำหรับสาวๆ ที่ต้องการรสชาติหรูหราเล็กน้อย เหมาะสำหรับวันพักผ่อนสบายๆ หรือเสิร์ฟระหว่างดินเนอร์ก็ได้ค่ะ
นำเนื้อส้มไปปั่นให้พอละเอียด จากนั้นนำใส่หม้อ เติมน้ำร้อน ผิวส้มขูดฝอย น้ำตาลลงไป เคี่ยวด้วยไฟปานกลางประมาณ 20 นาที จากนั้นลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เติมน้ำมะนาวและเหล้ารัมลงไป เคี่ยวต่ออีก 15 นาที แอลกอฮอล์จะระเหยออกหมดแต่ยังคงมีกลิ่นหอมและรสชาติของรัม รอจนส่วนผสมเย็นแล้วค่อยตักใส่ขวดโหลค่ะ
Image Credit : minimalistbaker.com
วิธีทำแยมส้มโฮมเมดสูตรสุดท้ายที่เรานำมาฝากเป็นแยมส้มคลาสสิก แต่ปรับสูตรให้ดีต่อสุขภาพด้วยการใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล มีเกลือทะเลมาตัดรสชาติให้เด่นและเข้มข้นขึ้น นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมจากสมุนไพรอย่างใบไทม์ ชวนให้นึกถึงบรรยากาศของวันหยุดสบายๆ และน้ำชายามบ่ายที่สุดเลยหล่ะ
นำเนื้อส้ม น้ำส้ม น้ำมะนาว และน้ำผึ้งใส่หม้อ เคี่ยวด้วยไฟกลางหรือไฟแรงก็ได้จนกระทั่งส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นปรับลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เติมเกลือทะเลลงไป เคี่ยวต่อไปประมาณ 30 นาทีแล้วจึงใส่ใบไทม์สดและผิวส้มขูดฝอย เคี่ยวต่อประมาณ 20 นาทีจนส่วนผสมเหนียวข้น ปิดเตาและรอจนอุณหภูมิลดลง จากนั้นตักแยมส้มของเราใส่ขวดโหลได้เลยค่ะ
Inspire Now ! : เป็นยังไงบ้างคะกับวิธีทำแยมส้มง่ายๆ แต่อร่อย สะอาด และยังดีกับสุขภาพของเรา ใครชอบสูตรไหนลองเลือกทำได้เลย แต่อย่าลืมนะว่าขวดโหลที่นำมาบรรจุแยมของเราต้องผ่านการล้างทำความสะอาดอย่างดีและต้องนำไปต้มฆ่าเชื้อด้วย เพื่อให้สามารถเก็บรักษาแยมเอาไว้ได้นานๆ ค่ะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ช่วยเรื่องไอเดียอาหารสุขภาพได้เยอะเลยใช่ไหม ? ใครลองทำแยมส้มโฮมเมดตามสูตรที่เรานำมาฝากแล้ว อย่าลืมมาแชร์สูตรที่ชอบกับเราผ่านช่องคอมเมนต์ได้เลย ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : giverecipe.com, practicalselfreliance.com, homespunseasonalliving.com, minimalistbaker.com
ลอยกระทงวันที่เท่าไหร่ ชวนลอยกระทงให้สนุก และเข้าถึงประเพณีไทยมากขึ้นด้วยการเข้าใจประวัติความเป็นมา มาเรียนรู้ เข้าใจ และสนุกกับเทศกาลนี้กัน
รวมทั้งผัก และ ผลไม้บำรุงสายตา อยากบำรุงให้สายตาของเราใช้ได้ไปนานๆ ต้องทำกินอะไรบ้าง มีผักหรือผลไม้อะไรบ้างที่เรากินอยู่แล้วเป็นประจำแล้วดีกับตาบ้าง มาดูกัน
ผลไม้น้ำตาลสูงมีอะไรบ้าง ชวนรู้จักน้ำตาลในผลไม้เทียบกับน้ำตาลเติมแต่ง พร้อมแนะนำผลไม้ 10 อย่างที่ควรกินให้น้อยเพื่อสุขภาพที่ดี และคนเป็นเบาหวานควรเลี่ยง