การกลับมาของ nokia 8210 และประวัติความเป็นมาของแบรนด์ดังในอดีต !

ไม่กี่วันมานี้ มีข่าวออกมาว่าโนเกียเปิดตัวโทรศัพท์ 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ nokia 8210 4G Nokia 2660 Flip และ Nokia 5710 XpressAudio ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ถ้าคุณเป็นเด็กยุค 90 หรืออยู่ในช่วงเจนฯ วาย เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้จักโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ NOKIA (โนเกีย) ซึ่งเปรียบเสมือนไอคอนของยุคนั้นเลยก็ได้ โดยเฉพาะ Nokia 3310 โทรศัพท์มือถือจอขาวดำที่ใครก็ต้องเคยครอบครอง หรือเคยหยิบจับ สัมผัสลองเล่นกันมาบ้าง ขึ้นชื่อในเรื่องของความอึดถึกทนทาน ในยุคนั้นถ้าใครเคยใช้ต้องสนุกกับการเปลี่ยนหน้ากากหลากหลายลวดลาย เปลี่ยนสีปุ่มกดเป็นสีสันต่างๆ มาพร้อมกับเกมเจ้างูน้อยสุดคลาสสิค ซึ่งถือว่าเป็นที่สุดในยุคนั้นแล้ว นอกจาก Nokia 3310 ก็มีรุ่นอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ซึ่งท็อปฮิตในยุคนั้นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Nokia รุ่นใบไม้ 7610 Nokia N70 Nokia N72 Nokia แบบสไลด์ 5300 และ Nokia NGage ที่มีรูปร่างคล้ายเกมจอย จนกระทั่งการมาของ Blackberry และสมาร์ทโฟน ทำให้ความนิยมของโนเกียลดลงไปเรื่อยๆ จนช่วงหนึ่งถึงขั้นวิกฤตเลยทีเดียว

าในวันนี้ โนเกียกลับมาอีกครั้งกับการออกสินค้าใหม่ถึง 3 รุ่น 3 แบบด้วยกัน นำทีมด้วย Nokia 8210 4G ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่า “เป็นความคลาสสิครูปแบบใหม่” Inspire by yesterday, built for tomorrow. แค่ได้เห็นสโลแกนก็ตื่นเต้นอยากรู้แล้วว่าจะปังขนาดไหน แต่ก่อนที่จะไปดูว่ารุ่นที่ออกใหม่มีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง เรามาทำความรู้จักกับ Nokia แบรนด์โทรศัพท์มือถือสุดไอคอนิกแห่งยุค 90 มาดูประวัติความเป็นมาของแบรนด์กันก่อน และพาไปค้นพบเหตุผลที่โนเกียโด่งดังและเคยเป็นค่ายโทรศัพท์มือถือที่ขายดีที่สุดแห่งยุค วันนี้เราจะชวนคุณมาย้อนประวัติกันสักหน่อย ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลย !

เปิดประวัติ Nokia แบรนด์มือถือดังแห่งยุค ! ย้อนรอยความเป็นมา 155 ปีของ Nokia

หลายๆ คนคงเคยเห็นโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่นของโนเกียผ่านๆ ตากันบ้าง โดยเฉพาะรุ่นดังท็อปฮิต หรือรุ่นคลาสสิค 3310 จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ที่โนเกียกลับมาออกสินค้าโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง นำทีมโดย Nokia 8210 4G โทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกดซึ่งสวนกระแสของ Smartphone หรือโทรศัพท์แบบสัมผัสเป็นอย่างมาก

บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า บริษัทโนเกียนั้น ไม่ได้ก่อตั้งจากการเป็นบริษัทเทคโนโลยีมาตั้งแต่แรก แต่เริ่มต้นจากการเป็นโรงงานผลิต “เยื่อกระดาษ” ในปี 1865 ริมฝั่ง “แม่น้ำโนเกีย (Nokia)” แม่น้ำสายใหญ่ในประเทศฟินแลนด์ โรงงานผลิตกระดาษแห่งหนึ่งได้ถูกตั้งขึ้นริมแม่น้ำแห่งนี้ โดยวิศวกรที่ชื่อว่า Fredrik Idestam และโรงงานผลิตเยื่อกระดาษแห่งนี้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

[affegg id=4268]

• โรงงาน Nokia เริ่มมีชื่อเสียงจากการที่ Idestam คิดค้นนวัตกรรมอย่างหนึ่งขึ้นมาและนำไปประกวดในงาน Paris Wood Exposition ในปี 1867 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้รางวัลเหรียญทองแดงติดมือกลับบ้านมา ซึ่งการได้รับรางวัลในครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับสากล และโนเกียเริ่มขยายการผลิตจากเยื่อกระดาษ พัฒนาไปเป็นกระดาษห่อสีน้ำตาล รวมถึงวอลเปเปอร์สี ซึ่งสองอย่างนี้มีการผลิตมากถึง 80% ของสินค้าทั้งหมด 

• ในปี 1902 โนเกียได้ขยายธุรกิจโรงงานกระดาษมาสู่ธุรกิจโรงงานไฟฟ้า เนื่องจากมองว่าธุรกิจโรงงานกระดาษที่ทำอยู่ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมาก จึงตัดสินใจที่จะสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขึ้นมาเอง จากนั้นก็เผชิญกับวิกฤตสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งทำให้ธุรกิจส่งออกกระดาษได้รับผลกระทบอย่างหนัก และขาดทุนอย่างรุนแรง แต่ในทางกลับกัน ธุรกิจโรงไฟฟ้ากลับเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจาก ณ ตอนนั้นประเทศฟินแลนด์มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจำนวนมาก 

• ในปี 1918 บริษัท Finnish Rubber Works (FRW) บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ในประเทศฟินแลนด์ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของโรงไฟฟ้าโนเกียได้เข้ามาร่วมหุ้นด้วย

• ในปี 1922 บริษัท Cable Works ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับสายเคเบิลและสายโทรศัพท์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Nokia group ในตอนนั้น โนเกียยังคงผลิตสินค้าออกมา 3 ประเภทคือ กระดาษ ผลิตภัณฑ์ยาง  อาทิ รองเท้ายาง ยางรถยนต์ และ สายเคเบิล โดยจำหน่ายสินค้าออกมาในนามของโนเกียทั้งหมด

จุดเริ่มต้นของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ

• ในปี 1977 ประทานบริษัทนาม Kari Kairamo ได้เสนอไอเดียให้บริษัทโนเกียมุ่งเน้นผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเข้ากับยุคแห่งพลังงาน ณ ขณะนั้น เป็นจุดกำเนิดของธุรกิจหลักของโนเกียเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ในตอนนั้น โนเกียเปิดตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการวางขายโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเพราะติดอันดับผู้ผลิตโทรทัศน์รายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของยุโรป

• เมื่อโลกเริ่มก้าวสู่ยุคแห่งการสื่อสารไร้สาย ภายใต้การบริหารงานของ Jorma Ollila CEO ของบริษัทในตอนนั้น โนเกียได้มีการผลิตโทรศัพท์ไร้สายเป็นครั้งแรกในปี 1987 โดยใช้ชื่อรุ่นว่า NMT Mobile Phone Standard (Nordic Mobile Telephony) โดยมีสโลแกนว่า “Connecting People” ซึ่งมาจากแนวคิดที่ว่า ต้องการเปิดอิสระและความต่อเนื่องในการติดต่อสื่อสาร

• โนเกียได้พัฒนาเครือข่าย GSM ขึ้นเป็นครั้งแรกให้กับบริษัท Radiolinja ในปี 1989 พร้อมกับพัฒนาการผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ จนกระทั่งในปี 1992 โทรศัพท์มือถือรุ่น Nokia 1011 ก็ได้ออกสู่สายตาประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นต้นตระกูลหรือเป็นต้นแบบของโทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบัน และหลังจากนั้น โนเกียได้ยึดการผลิตโทรศัพท์มือถือเป็นธุรกิจหลักเรื่อยมา 

• ปี 1994 โนเกียเปิดตัวโทรศัพท์มือถือซีรีส์ 2100 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่มีเสียงริงโทน Nokia Tune ซึ่งโนเกียได้ตั้งเป้ายอดขายของโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ไว้ที่ 4 แสนเครื่องทั่วโลก แต่สามารถขายได้ถึง 20 ล้านเครื่องทั่วโลก !!

ก้าวสู่ยุคทองของโนเกีย

• ปี 2000 โนเกียเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Nokia 3310 รุ่นที่ถือได้เป็นว่าเป็นตำนานของโนเกียเลยก็ว่าได้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดโทรศัพท์มือถือด้วยการสร้างยอดขาย 126 ล้านเครื่อง ซึ่งถือว่าเป็นโทรศัพท์มือถือของโนเกียที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรุ่นหนึ่ง

• ปี 2001 โนเกียเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับกล้องถ่ายรูป ภายใต้ชื่อ Nokia 7650 ซึ่งมีระบบปฏิบัติการ Symbian OS โดยรุ่นนี้ได้ถูกนำไปโปรโมทในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Minority Report (นำแสดงโดย ทอมครูซ)

• ปี 2003 โนเกียเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่น Nokia NGAGE สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Symbian 6.1 ซึ่งรองรับการเล่นเกมอย่างเต็มรูปแบบ มาในดีไซน์คล้ายจอยเกม และสร้างความฮือฮาในเรื่องของดีไซน์เป็นอย่างมาก 

• ปี 2005 โนเกียสร้างยอดขายโทรศัพท์มือถือรุ่น Nokia 1100 ได้มากถึง 250 ล้านเครื่อง !! นับว่าเป็นปรากฏการณ์สร้างยอดขายอย่างถล่มทลาย

มรสุมและจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของโนเกีย

• ปี 2008 ยอดขายของโนเกียลดลงถึง 30% เนื่องจาก Apple เข้ามาเป็นคู่แข็งของตลาดโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับการวางจำหน่าย Iphone ซึ่ง Apple มีอัตราการเติบโตของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 327.5%

• ปี 2009 – 2011 โนเกียมีแผนปลดพนักงานไปมากกว่า 7,500 คน เนื่องจากยอดขายที่ตกลงอย่างมาก แม้ในปี 2011 โนเกียจะมีการร่วมมือกับ Microsoft เพื่อต่อสู้แย่งชิงตลาดกับ Apple และ Google Android ประกอบกับตลาดของโทรศัพท์มือถือ android ถูกครอบครองโดย Samsung และ Apple ในส่วนของ IOS  ทำให้ยอดขายของโนเกียลดลงเป็นอย่างมาก  

• ปี 2012 โนเกียได้ปลดพนักงานอีกราวๆ 4,000 คน และย้ายโรงงานผลิตไปยังเอเชีย พร้อมประกาศปิดโรงงานผลิตในประเทศฟินแลนด์ในที่สุด 

• ปี 2013 โนเกียกลับมาสร้างกำไรได้อีกครั้ง พร้อมกันกับที่ Microsoft ประกาศเข้าซื้อธุรกิจโทรศัพท์มือถือของโนเกียด้วยมูลค่ามากถึง 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และได้มีการพัฒนาโทรศัพ์มือถือสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแบบ Windows Phone ออกมาวางขายในชื่อ Lumia ซึ่งก็ได้รับความนิยมและมีผู้ใช้กันอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม Windows Phone Lumia หยุดผลิตและหยุดจำหน่ายในปี 2017

กลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

ในปี 2016 กลุ่มผู้บริการ และพนักงานเก่าจากโนเกียได้รวมตัวกันก่อตั้งบริษัทในรูปแบบ Startup ภายใต้ชื่อ HMD Global ซื้อธุรกิจโทรศัพท์มือถือคืนจาก Microsoft และคืนสู่ตลาดอีกครั้งภายใต้การบริหารของ HMD Global ร่วมกับการสนับสนุนของ Nokia Coporation และมีมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง วางจำหน่ายทั้งสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟน นอกจากยอดขายในกลุ่มธุรกิจ Mobile Device ที่เติบโตเรื่อยๆ กลุ่มธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม (Telco) ของโนเกียก็มีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นอีกเช่นกัน

[affegg id=4269]

พาเหล่าสาวกย้อนวัย เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่สไตล์ Retro

หลังจากที่ได้รู้ประวัติ Nokia กันไปแล้ว ในปี 2022 นี้ โนเกียกลับมาอีกครั้งด้วยการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกดสุดคลาสสิคทั้ง 3 รุ่น ได้แก่  Nokia 8210 4G Nokia 2660 Flip และ Nokia 5710 XpressAudio เรียกได้ว่าย้อนวันวานสมัยวัยละอ่อนใช้มือถือแบบปุ่มกดกันเลยทีเดียว และแม้ว่าจะคงดีไซน์ที่คลาสสิคก็ตาม ฟีเจอร์ที่ให้มานั้นรองรับกับระบบ 4G แต่ละรุ่นจะมีความน่าสนใจอย่างไรนั้น ไปดูกันเลย

1. Nokia 8210 4G

รายละเอียด

• หน้าจอ 2.8 นิ้ว QVGA
• ระบบปฏิบัติการ Unisoc T107
• กล้องหลัง VGA 
• Bluetooth 5.0
• ที่เก็บข้อมูลภายใน 125 MB / SD CARD 32 MB 
• แรม 48 MB 
• ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm
• วิทยุ FM / เครื่องเล่น MP3
• เชื่อมต่อแบบ 4G พร้อมรองรับ VoLTE
• 2 นาโนซิม
• น้ำหนัก 107 กรัม
• จำหน่าย 2 สี คือสีแดง และสีน้ำเงิน 
• ราคา 2,290 บาท

2. Nokia 2660 Flip

รายละเอียด

• หน้าจอ 2.8 นิ้ว QVGA + 1.77 QQVGA
• ระบบปฏิบัติการ Unisoc T107
• กล้องหลัง VGA 
• Bluetooth 4.2
• ที่เก็บข้อมูลภายใน 125MB / SD CARD 32 MB 
• แรม 48 MB 
• ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm
• วิทยุ FM / เครื่องเล่น MP3
• เชื่อมต่อแบบ 4G พร้อมรองรับ VoLTE
• 2 นาโนซิม
• น้ำหนัก 123 กรัม
• จำหน่ายเฉพาะสีดำ
• ราคา 2,490 บาท

3. Nokia 5710 Xpress Audio

รายละเอียด

• หน้าจอ 2.4 นิ้ว QVGA
• ระบบปฏิบัติการ Unisoc T107
• กล้องหลัง VGA พร้อมแฟลช
• Bluetooth 5.0
• ที่เก็บข้อมูลภายใน 125 MB / SD CARD 32 MB 
• แรม 48 MB 
• หูฟังไร้สาย พร้อมที่เก็บ
• โหมดปรับแต่งเสียง
• วิทยุ FM / เครื่องเล่น MP3
• เชื่อมต่อแบบ 4G พร้อมรองรับ VoLTE
• 2 นาโนซิม
• น้ำหนัก 129.1 กรัม
• จำหน่าย สีดำ – แดง 
• ราคา 2,690 บาท

[affegg id=4270]

และเราก็ได้รู้ประวัติ Nokia แบรนด์มือถือระดับตำนานกันไปแล้ว พร้อมทั้งรู้รายละเอียดของโทรศัพท์มือถือออกใหม่ทั้งสามรุ่น โดยเฉพาะรุ่น Nokia 8210 ที่ออกแบบมาคล้ายกับรุ่นเดิมในปี 1999 เรียกได้ว่าถูกใจวัยรุ่น 90 สุดๆ ถ้าใครถูกใจรุ่นไหน ก็ไปลองเลือกดูกันได้ จะวางจำหน่ายวันที่ 1 กันยายนนี้ ซึ่งเดาว่าต้องมีคนสนใจและอยากได้มาลองใช้ดูแน่นอน เพราะแม้เวลาจะผ่านไปนานขนาดไหน จะมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ท็อปฮิตแบรนด์ชั้นนำยังไง ความคลาสสิคของโนเกียก็ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำเสมอ ใช่หรือเปล่าคะ ? และถ้าใครอินกับประวัติขององค์กรธุรกิจหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งธุรกิจละก็ เราแนะนำ หนังเกี่ยวกับธุรกิจ ให้คุณได้ตามไปดูเพื่อจุดประกายไอเดียหรือสร้างแรงบันดาลใจได้เลยค่ะ

Inspire Now ! : จากประวัติจะเห็นว่าแรกเริ่มนั้น โนเกียเกิดขึ้นจากการเป็นโรงการผลิตเยื่อกระดาษ และเติบโต ประสบความสำเร็จมาเรื่อยๆ จนได้มีโอกาสจับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และพัฒนามาเป็นการผลิตโทรศัพท์มือถือซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เรียกได้ว่าถึงขั้นเป็นตำนาน ถึงแม้จะมีจุดหักเหและต้องเจอกับมรสุมการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งด้วยยุคสมัยและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป แต่บริษัทก็กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง นอกจากธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแล้ว ปัจจุบันโนเกียประกอบธุรกิจบริการแผนที่ GPS ธุรกิจโครงข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสิทธิบัตร AI กล่าวได้ว่า กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันมีความสุขใช่ไหม ? รู้ว่าโนเกียออกมือถือใหม่ ชวนย้อนวัยแบบนี้ คิดถึงสมัยเล่นเกมเจ้างูน้อย กับตอนที่ช่วยเพื่อนเลือกลายหน้ากากโทรศัพท์กันใช่ไหมล่ะคะ ถ้าใครสนใจ ก็ลองไปเดินดูกัน แล้วมาคอมเมนต์ให้เราฟังด้วยนะคะว่าถูกใจหรือเปล่า ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : facebook.com/NokiamobileTH, referenceforbusiness.com, nokia.com

Featured Image Credit : facebook.com/nokia