ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก

รู้จัก 10 ผู้บริหารหญิง เก่ง ดีกรีผู้บริหารบริษัทระดับโลก

ถ้าพูดถึงตำแหน่งหน้าที่การงานในระดับสูงๆ แล้ว ในสมัยก่อนนั้น เป็นเรื่องยากมากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้หญิงจะมีโอกาสได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ ด้วยเพราะบริบททางสังคมสมัยก่อนที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้หญิง ในสมัยอดีตนั้น ผู้หญิงไม่อนุญาตให้ได้เรียนหนังสือด้วยซ้ำ แต่ยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าเพศหญิง ชาย หรือเพศใดๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงศักยภาพของตัวเอง และสมควรมีโอกาสได้ใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองเพื่อพัฒนาสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในองค์กร ชุมชน สังคม หรือแม้กระทั่งในระดับประเทศ ไปจนถึงระดับโลก เราเลยอยากจะยกตัวอย่าง ผู้บริหารหญิง ที่ทั้งเก่งและแกร่ง ทั้ง 10 คน เพื่อเป็นการยืนยันว่า ผู้หญิงก็มีศักยภาพและมีความสามารถไม่แพ้ใคร สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งในระดับสูงๆ และนำพาองค์กรให้ก้าวหน้าได้เช่นกัน จะมีหญิงเก่งและเกร่งคนไหนบ้างนั้น ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ

แนะนำ 10 ผู้บริหารหญิง บริหารองค์กรบริษัทระดับโลก มาทำความรู้จักพวกเธอให้มากขึ้นกัน

ผู้หญิงเก่งระดับโลกมีมากมาย ด้วยยุคสมัยปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ชายหญิงมีความเท่าเทียมกันมากขึ้นทั้งในด้านสิทธิ เสรีภาพ และโอกาสต่างๆ มีการเปิดโอกาสให้กับผู้หญิงได้แสดงความสามารถมากขึ้น และมีผู้หญิงหลายๆ คนที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารองค์กร หรือแม้กระทั่งผู้บริหารประเทศ หมดยุคสมัยการกีดกันความสามารถและตีกรอบศักยภาพของผู้หญิงอีกต่อไป ทำให้ผู้หญิงเก่งได้เฉิดฉายและแสดงความสามารถในเวทีระดับโลกกันมากขึ้น เราอยากจะแนะนำ 10 ผู้บริหารหญิงเก่งที่มีชื่อเสียงระดับโลก เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาวๆ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และลุกขึ้นมาแสดงศักยภาพของตัวเองให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ เพราะผู้หญิงอย่างเราๆ ก็เก่งไม่แพ้ใครเลยค่ะ

1. Sophia Amoruso

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Credit : fortune.com

ถ้าใครเคยเห็นหนังสือที่ชื่อว่า “เพราะเป็นผู้หญิงไม่แคร์ใคร ฉันถึงได้เป็นนายคน” หรือ girlboss ขอบอกเลยว่า คนเขียนหนังสือเล่มนี้คือ Sophia Amoruso ผู้ก่อตั้งและ CEO บริษัท Nastygal บริษัทขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่เคยเติบโตเร็วที่สุดในอเมริกา และ Sophia Amoruso ยังเคยติดอันดับผู้หญิงที่รวยได้ด้วยตัวเอง (Richest  Self- Made Women) ของนิตยสาร Forbes อีกด้วย เรื่องราวประวัติคนดังของผู้บริหารหญิงคนนี้ ถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์คอมเมดี้ฉายทาง Netflix อีกด้วยนะคะ โซเฟียเริ่มธุรกิจตัวเองด้วยการขายเสื้อผ้าวินเทจผ่านเว็บไซต์ ebay ซึ่งเธอเป็นคนไปหาซื้อเสื้อผ้ามาด้วยตัวเอง จากนั้นก็นำมาจัดเข้ากับชุดให้ดูดี ถ่ายรูป เขียนแคปชั่นขายของ แล้วก็โพสต์ขายเอง ส่งของเอง เรียกว่าทำด้วยตัวเองทั้งหมดเลยก็ได้ ซึ่งปรากฏว่าขายได้เป็นอย่างดี จึงได้เปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเองและใช้ชื่อว่า Nastygal.com ในปี 2008 และในปี 2009 เธอก็มีคลังสินค้าแห่งแรกในแคลิฟอร์เนีย จากนั้นธุรกิจก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และเคยทำรายได้สูงถึง 23 ล้านดอลลาร์ในปี 2011

ปัจจุบันแม้เธอไม่ได้เป็นเจ้าของ Nastygal อีกต่อไป แต่โซเฟียก็ได้เริ่มทำธุรกิจใหม่ที่ชื่อว่า Girlboss Media ซึ่งเป็นสื่อที่เกี่ยวกับผู้หญิงโดยเฉพาะ ทั้งข่าวสาร บทความ รายการวิทยุ และพอตแคสต์ เพื่อสร้างพลังและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงด้วยกัน สิ่งที่ทำให้โซเฟียประสบความสำเร็จนั้น ก็เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ และพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ใหม่อยู่เสมอ ต่อให้ล้มอีกกี่ครั้งก็ตาม เธอกล่าวว่า “ในความล้มเหลวก็อาจจะมีโอกาสดีๆ ซ่อนอยู่” ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้และลุกขึ้นสู้ เราก็อาจจะมองเห็นโอกาสดีๆ ในชีวิตก็ได้นะคะ

[affegg id=4221]

2. Mary Barra

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Credit : time.com

ผู้บริหารหญิงคนต่อมาคือ Mary Barra CEO บริษัท General Motors ซึ่ง Barra เป็นผู้หญิงคนแรกที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศอเมริกา และยังเป็นบริษัทระดับโลกอีกด้วย ทั้งนี้  Mary Barra ถูกนับว่าเป็น CEO หญิงคนแรกในประวัติศาตร์ของบริษัท General Motors บริษัติผลิตรถยนต์แบรนด์ต่างๆ ถ้าเป็นคนไทยก็คงคุ้นเคยกันดีในยี่ห้อ เชฟโรเลต ทั้งนี้ บริษัทเองก็ถือหุ้นอีซูซุและซูซูกิของประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

Berra เข้ารับตำแหน่งนี้ในปี 2014 โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างโลกที่ไม่มีอุบัติเหตุ ไม่สร้างมลภาวะ และไม่มีการจราจรที่แออัด เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่ General Motors Institute (Kettering University) และศึกษาต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจที่ Stanford University แค่ประวัติการศึกษานั้นก็การันตีถึงความสามารถและความเก่งได้แล้ว สำหรับการทำงานที่บริษัท GM นั้น เธอเริ่มต้นจากเด็กฝึกงาน ทำงานในฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ฝ่ายวิศวกรรมและฝ่ายปฏิบัติการ ไปจนถึงฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ จัดซื้อ จัดชิ้นส่วนการผลิต บริหารทั้งคน งบประมาณ ไปจนถึงการออกแบบรถยนต์ และการขึ้นเป็น CEO ของ Berra ก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบริษัท ทั้งช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น หุ้นเติบโตมากขึ้น ศาสตราจารย์ Mohammed torfeh ผู้ที่เคยสอน Berra ในระดับปริญญาตรีกล่าวว่า เธอเป็นคนฉลาดและมีความเป็นผู้นำสูง มีความรู้ ความสามารถ และมีการสื่อสารที่เป็นเลิศ แม้วงการอุตสาหกรรมรถยนต์จะมีผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยความตั้งใจและความสามารถอย่างไม่มีข้อกังขาของ Mary Barra ทำให้เธอก้าวมายืนในจุดนี้ได้นั่นเองค่ะ

3. Jane Fraser

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Credit : nbcnews.com

Jane Fraser เป็น CEO หญิงคนแรกของสถาบันการเงินเครือ Citigroup บริษัท Citigroup เป็นสถาบันการเงินระดับโกลบอลที่มีธุรกิจอยู่ใน 160 ประเทศทั่วโลก โดย Jane Fraser ได้เข้ารับตำแหน่ง CEO ขึ้นแท่นผู้บริหารหญิงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ที่ผ่านมา ด้วยวัย 53 ปี และยังเป็นผู้หญิงคนเดียวในบรรดา CEO ของกลุ่มสถาบันการเงินในวอลล์สตรีทด้วย การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของเจน ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของวอลล์สตรีท ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่ของผู้ชายเท่านั้น ทั้งนี้ จำนวน CEO หญิงในกลุ่มบริษัทตลาดหุ้น S&P 500 ของสหรัฐฯ ปัจจุบันมีไม่ถึง 10% แต่แนวโน้มที่ผู้หญิงจะขึ้นแท่นผู้บริหารในสถาบันการเงินก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือว่าเป็นเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีในวงการสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ที่ว่ากันว่า ตำแหน่งผู้บริหารสุงสุดจะตกเป็นของผู้ชายเสมอ แต่สิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนไป และเปิดโอกาสให้กับผู้หญิงมากขึ้น

Jane Fraser ทำงานร่วมกับ Citigroup มา 16 ปี เริ่มเป็นที่จับตามองจากการเป็นแกนนำฝ่าวิกฤตการเงินในปี 2007 – 2009 และในปี 2015 ก็ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารแถบอเมริกาใต้ทั้ง 24 ประเทศ ซึ่งบทบาทนี้ ทำให้เจนติด 1 ใน 50 สตรีผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงธุรกิจของเว็บไซต์ Fortune ส่วนเว็บไซต์ American Banker ก็ยกให้เจนเป็นสุดยอดผู้บริหารหญิงในวงการธนาคารสหรัฐฯ ถึงสองปีซ้อน ก่อนจะเข้ามารับตำแหน่ง CEO เจนเป็นผู้บริหารฝ่าย Consumer and Commercial Banking ในเครือ Citigroup ทั่วโลก ทั้งนี้ John Dugan ประธานบอร์ดบริหารของ Citigroup เล็งเห็นว่า Jane Fraser คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีความรู้ความเข้าใจในแวดวงการเงินเป็นอย่างดี และอยู่กับ Citigroup มานาน จึงเชื่อมั่นว่าเจนจะพาบริษัทเติบโตและก้าวหน้าไปอีกขึ้น

4. Adena Friedman

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Credit : nasdaq.com

Adena Friedman เป็น CEO ของ Nasdaq ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งที่สองของอเมริกา และเป็นตลาดหลักทรัย์แห่งแรกที่ซื้อขายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันเป็นตลาดที่มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนมากที่สุด และได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบริษัท โดยทำให้ Nasdaq กลายเป็นบริษัทตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำระดับโลกที่มีการดำเนินงานใน 6 ทวีป ก่อนจะมาเข้ารับตำแหน่ง CEO เธอดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ป่ายปฏิบัติการ โดยรับผิดชอบดูแลกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของบริษัท มุ่งเน้นการผลักดันประสิทธิภาพและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้บริษัทมีการขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านั้น เธอดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ประธานเจ้าที่ฝ่ายการเงิน และเริ่มต้นทำงานที่ Nasdaq ด้วยตำแหน่งนักศึกษาฝึกงานในปี 1993 จากนั้นจึงพัฒนาความรู้ความสามารถ และก้าวเข้าสู่ตำแหน่งที่มีความสำคัญเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ดำรงตำแหน่ง CEO ในปี 2017

Adena Friedman สำเร็จการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์จาก Williams College และศึกษาต่อในระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจาก Owen Graduate School of Management จากมหาวิทยาลัย Vanderbilt นอกจากนี้ คำพูดของเธอในเวทีต่างๆ ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “รับฟังลูกค้า พนักงาน และเพื่อนร่วมงาน และเปิดใจรับฟังความคิดเห็น ข้อคิดเห็น และคำตอบของพวกเขา การทำเช่นนี้มีความสำคัญต่อความสำเร็จของผู้นำทุกคน” หรือ “จุดแข็งประการหนึ่งที่ฉันมักจะเห็นในสตรีที่ประสบความสำเร็จใน Wall Street คือความสมดุลที่รับผิดชอบระหว่างการรับความเสี่ยงและการลดความเสี่ยง รวมถึงการประเมินสถานการณ์อย่างชาญฉลาดและตัดสินใจอย่างถูกต้อง” ความรู้ความารถและทัศคติที่เยี่ยมยอดในการทำงานของเธอ ทำให้ Adena Friedman ได้ดำรงตำแหน่ง CEO ของตลาดหลักทรัพย์ระดับโลกได้ในที่สุด

[affegg id=4222]

5. Sarah Gilbert

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Credit : bbc.com

Sarah Gilbert เป็นศาสตราจารย์ด้านวัคซีนที่ University of Oxford เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Vaccitech ของสหราชอาณาจักร และเป็นผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัสที่ช่วยให้ผู้คนมีภูมิคุ้มกันโรคจากการระบาดของ COVID – 19 ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี สำหรับการวิจัยในห้องแลปเพื่อพัฒนาวัคซีนสำหรับไข้หวัดใหญ่ อีโบลา และโรคระบบทางเดินหายใจ MERS ทำให้ Sarah มีความสามารถในการพัฒนาวัคซีนสำหรับต้านเชื้อไวรัสโคโรนาได้ ทั้งนี้ ก่อนที่จะมาทำงานด้านสาธารณสุขนั้น ตอนจบปริญญาเอกใหม่ๆ เธอได้ไปทำงานที่ศูนย์วิจัยของโรงงานผลิตเบียร์มาก่อน ต่อมาได้เป็นนักวิชาการที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เริ่มจากการวิจัยเรื่องเชื้อมาลาเรีย และวิจัยวัคซีนชนิดอื่นๆ มาอย่างต่อเนื่อง

จากนั้น Sarah Gilbert ก็มีตำแหน่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนได้มาเป็นศาสตร์ตราจารย์ประจำสถาบันเจนเนอร์ ศูนย์วิจัยด้านวัคซีน และได้ก่อตั้งกลุ่มวิจัยของตัวเองขึ้นมาเพื่อสร้างวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในช่วงการระบาดของ COVID – 19 เธอก็ไม่รอช้า เร่งพัฒนาวัคซีนที่จะสามารถต้านเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ทันที แล้วก็ทำสำเร็จ ซึ่งเพื่อนร่วมงานของเธอบอกว่า ศ.กิลเบิร์ต พยายามอย่างหนักในการพัฒนาวัคซีนเพื่อช่วยคนทั่วโลกให้ได้เร็วที่สุด โดยทำงานตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงดึกดื่น บางวันเริ่มงานตั้งแต่ตีสี่เลยทีเดียว เพื่อนที่มหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานของเธอบอกว่า ศ.กิลเบิร์ต เป็นคนเงียบๆ มุ่งมั่น และแข็งแกร่ง ทั้งยังมีความตั้งใจสูงที่จะทำให้งานสำเร็จได้ในที่สุด ด้วยเหตุนี้ ทำให้สามารถพัฒนาวัคซีนได้สำเร็จ แม้จะไม่ใช่ผู้นำได้บริษัท แต่ก็ถือได้ว่าเป็นผู้ริเริ่มนำโครงการผลิตวัคซีนเพื่อช่วยเหลือคนทั่วโลก อาจกล่าวได้ว่า Sarah Gilbert เป็นฮีโร่ของคนทั้งโลกเลยก็ว่าได้

6. Melanie Perkins

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Credit : entrepreneur.com

ในปัจจุบัน คนทำงานสายออกแบบหรือแม้แต่คนทำงานทั่วไปที่อยากจะสร้างสไลด์นำเสนองาน ก็ต้องใช้โปรแกรม Canva แทบจะทั้งนั้น รู้หรือไม่ว่า ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของโปรแกรม Canva เป็นหญิงสาวอายุเพียง 35 ปีเท่านั้น เรากำลังพูดถึงหนึ่งใน ผู้บริหารหญิง ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก Melanie Perkins เป็น CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Canva ที่เริ่มนำเสนอไอเดียการสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นเมื่ออายุเพียง 19 ปีเท่านั้น ! ขณะที่ Perkins เป็นติวเตอร์ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เธอพบว่านักเรียนหลายคนประสบปัญหาในการใช้โปรแกรมออกแบบอย่าง Photoshop และใช้เวลาเรียนรู้นานเนื่องจากโปรแกรมมีความซับซ้อนในการใช้งาน เธอจึงต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง และได้เสนอแนวคิดสำหรับการสร้าง Canva แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยให้งานออกแบบเป็นเรื่องง่าย ทั้งยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย และเธอก็ได้ขยายบริษัทให้มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 6 ปี

ปัจจุบัน Canva มีพนักงานมากกว่า 800 คนทั่วโลก ด้วยเพราะต้องการที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและอยากให้การออกแบบเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น จึงก่อเกิดเป็นแพลตฟอร์ม Canva ที่มีผู้ใช้งานมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไปหรือบริษัทต่างๆ ก็ตาม บางครั้งการอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงและทำอะไรเพื่อคนอื่น ก็สามารถนำความสำเร็จมาให้กับเราได้เหมือนกันนะคะ ถ้าใครยังไม่เคยลองใช้แพลตฟอร์มนี้ ขอบอกว่า วิธีใช้ Canva ฟรีนั่นง่ายมาก จะทำให้การออกแบบของคุณเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนเลยค่ะ

7. Jacinda Ardern

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Credit : theguardian.com

ถ้าพูดถึง ผู้บริหารหญิง ที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้วละก็ จะขาดนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ไปไม่ได้  Ardern เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์นิวซีแลนด์ ในขณะที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ. 2560 เธอมีอายุได้ 37 ปีเท่านั้น เธอเริ่มสนใจการเมืองผ่านทางผู้เป็นป้า ที่เป็นสมาชิกพรรคแรงงาน ประกอบกับมีนิสัยความเป็นผู้นำอยู่ในตัวสูง เมื่อครั้งอยู่โรงเรียน เธอเคยเป็นแกนนำเรียกร้องให้ครูใหญ่อนุญาตให้นักเรียนหญิงใส่กางเกงได้อีกด้วย และเมื่อปี 2008 ก็ได้เข้าไปอยู่ในฐานะ ส.ส. สังกัดพรรคแรงงาน ซึ่งเป็น ส.ส. มีอายุน้อยที่สุดเมื่อเข้ารัฐสภา ด้วยวัยเพียง 28 ปีเท่านั้น ในปี 2017 ก็ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของประเทศด้วยวัยเพียง 37 ปี

ในปี 2019 ในนิวซีแลนด์ได้เกิดเหตุกราดยิงในมัสยิดกลางกรุง Christchurch นายกหญิงเร่งเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย ไม่ให้ความสำคัญกับผู้ก่อเหตุ และออกกฎหมายสั่งแบนอาวุธปืนไม่นานหลังเกิดเหตุ และในปี 2020 นิวซีแลนด์ก็ได้เผชิญกับวิกฤตการระบาดของ COVID – 19 เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ แต่ทั้งนี้ Jacinda Ardern ก็มีมาตรการสกัดการระบาดได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ทั้งการปิดพรมแดน สั่งล็อคดาวน์ พร้อมเร่งกระจายวัคซีนให้เร็วที่สุด ทำให้นิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อน้อยมาก และมีผู้เสียชีวิตไม่ถึง 30 คน ความสำเร็จจากการบริหารประเทศ ทำให้เธอชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ทั้งยังสร้างประวัติศาตร์ แต่งตั้ง Nanaia Mahuta นักการเมืองหญิงชาวเมารีที่มีรอยสักชนเผ่าเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศอีกด้วย ด้วยความที่มองการไกล จัดการทุกอย่างได้อย่างเด็ดขาด และไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง เปิดรับสิ่งใหม่อยู่เสมอ ทำให้ Jacinda Ardern เป็นหนึ่งในผู้นำหญิงที่ถูกยกย่องและถูกกล่าวถึงมากที่สุดอีกคนหนึ่งเลยล่ะค่ะ

8. Sanna Marin

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Credit : henley.fi

มาต่อกันที่ผู้นำหญิงด้านการเมืองอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ Sanna Marin นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยวัยเพียง 34 ปี ถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก ประเทศฟินแลนด์ เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่ามีความสุขมากที่สุดในโลก และมีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก ทั้งนี้ ก็ยังมีกฎหมายที่กดขี่บุคคลข้ามเพศที่เรียกว่า “The Trans Act” ซึ่ง Marin นายกหญิงคนนี้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายนี้ และสนับสนุนสิทธิของพลเมืองอย่างเท่าเทียมกัน เธอเป็นผู้นำรัฐบาลผสมที่มีหัวหน้าพรรคการเมืองเป็นผู้หญิงทั้งหมด มีปณิธานที่จะยุติกฎหมาย “The Trans Act” และพยายามเปลี่ยนแปลงแนวคิดล้าสมัยเกี่ยวกับบรรทัดฐานทางเพศ พร้อมให้การรับรองว่า ทุกคนสามารถกำหนดได้ว่าตนเองเป็นใครและสามารถดำเนินชีวิตตามที่ตัวเองต้องการได้

Marin เริ่มต้นอาชีพการเมืองในพรรคโซเชียลเดโมแครต ก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารเมืองตัมเปเร เมืองทางภาคใต้ของประเทศด้วยอายุเพียง 27 ปี และได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 2015 ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคมนาคมและการสื่อสารของฟินแลนด์ ก่อนจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะมีข้อกังขาเกี่ยวกับอายุและความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ ซึ่งนายกหญิงคนนี้ก็ได้พูดถึงประเด็นนี้เอาไว้ว่า “ดิฉันไม่เคยคิดเกี่ยวกับอายุและเพศของตัวเอง แต่ดิฉันคิดถึงเหตุผลที่ลงเล่นการเมืองและสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากบรรดาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ไม่เป็นไร ดิฉันเคยพิสูจน์ความสามารถของตัวเองมาแล้ว”  นับว่าเป็นหญิงแกร่งแห่งยุค ทั้งยังเป็นหนึ่งในประเภทผู้นำที่มีความมุ่งมั่นอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ เพื่อนำไปสู่วิถีใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิมอีกด้วย

9. Sonia Syngal

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Cedit : bizjournals.com

Sonia Syngal เป็นประธานบริษัทและ CEO ของ Gap ธุรกิจขายเสื้อผ้าที่เป็นบริษัทระดับโลก Sonia เกิดที่ประเทศอินเดีย และได้ย้ายไปอยู่แคนาดา จากนั้นก็มาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เธอเป็นหนึ่งใน CEO หญิงของบริษัทในเครือ Forture 500 ที่มีอยู่ไม่กี่คน และยังเป็นผู้บริหารหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียที่มีตำแหน่งสูงสุดอีกด้วย ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่ง CEO ของ Gap นั้น เธอเคยเป็นประธานบริษัท Old Navy บริษัทลูกของ Gap และพาให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ โดยทำให้ Old Navy มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 33,380 ล้านบาทภายในเวลา 3 ปี เมื่อดำรงตำแห่ง CEO ของ Gap ก็ทำการขยายสาขาถึง 1,200 สาขาในอเมริกาเหนือ

เธอมีคติการทำงานโดยยึดเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มโปรแกรม PACE (Personal Advancement and Career Enhancement) ของ Gap ที่เปิดสอนชั้นเรียนทักษะชีวิตแก่พนักงานตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีอีกด้วย นอกจากจะโดดเด่นในด้านการบริหารงานโดยการนำพาบริษัทประสบความสำเร็จและมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว เธอยังให้ความสำคัญกับสวัสดิการพนักงาน รวมถึงใส่ใจการพัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักในการนำพาให้องค์กรก้าวหน้า ทำให้ Gap เป็นบริษัทขายเสื้อผ้าที่ประสบความสำเร็จทั้งในอเมริกาและทั่วโลก ท่ามกลางคู่แข่งมากมาย

10. Susan Wojcicki

ผู้บริหารหญิง, บริษัทระดับโลก
Image Credit : cnbc.com

ถ้าพูดถึงแพลตฟอร์มคลิปวิดีโอ ก็ต้องนึกถึง YouTube และผู้บริหารเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานหลักพันล้านคนนี้ เป็นผู้หญิงค่ะ เธอคือ Susan Wojcicki CEO ของ YouTube แพลตฟอร์มคลิปวิดีโอที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก นอกจากจะเป็น CEO ของยูทูปแล้ว ซูซานยังเป็นบุคคลสำคัญในการก่อตั้งบริษัทระดับโลกอย่างกูเกิลด้วย เพราะสำนักงานแห่งแรกสุดของกูเกิลก็คือบ้านของเธอนั่นเอง (ผู้ก่อตั้งกูเกิล Larry Page และ Sergey Brin เช่าโรงรถของซูซานเพื่อทำเป็นออฟฟิศ) ซูซานถูกชักชวนจากผู้ก่อตั้งกูเกิลให้มาทำงานด้วยกัน และมีบทบาทสำคัญมากในช่วงก่อตั้งกูเกิล เพราะเธอเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารไฟแรง โดยช่วงแรกๆ ทำงานด้านการตลาดให้กับกูเกิล จากนั้นก็มารับผิดชอบในฝ่ายงานด้านโฆษณา ก่อนจะถูกเลื่อนขั้นมาเป็น CEO ของยูทูป ในฐานะผู้บริหารบริษัทลูกของกูเกิลนั่นเอง

นอกจากนี้ ซูซานยังเป็นผู้ที่ผลักดันให้ยูทูปทำรายได้จากโฆษณาได้มากขึ้นด้วย ซูซานได้พัฒนายูทูปให้ตอบโจทย์กับโลกปัจจุบันมากขึ้น ทั้งการจ่ายเงินสนับสนุนให้คนที่ทำวิดิโอลงยูทูปให้สามารถผลิตรายการดีๆ ได้ต่อไป หรือการช่วยโฆษณาผ่านสื่ออื่นๆ เป็นต้น จากการที่ได้เห็นการทำงานของสองผู้ก่อตั้งกูเกิลในโรงรถของเธอ ประกอบกับเธอเชื่อว่าอินเทอร์เน็ตจะเปลี่ยนแปลงโลก ทำให้ซูซานได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก และด้วยความสามารถ ประสบการณ์การทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เธอนำพา Youtude ประสบความสำเร็จได้ในที่สุดค่ะ

[affegg id=4223]

Inspire Now ! : ไม่ว่าจะเป็นวงการธุรกิจ วงการเทคโนโลยี วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ วงการการเมือง หรือวงการไหนๆ ก็ตาม ถ้าผู้หญิงมีความสามารถและมีศักยภาพในการทำงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่นั้นๆ แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปที่ผู้หญิงจะขึ้นมาเป็นผู้บริหารในระดับสูงสุดขององค์กร แม้บางครั้งอาจจะถูกครหาได้ว่าไม่เหมาะสม หรือไม่มีความสามารถมากพอ ทั้งนี้ ผู้บริหารหญิงทั้ง 10 คนที่เราได้เอามาแนะนำให้รู้จักกัน ก็เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้หญิงสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดในองค์กรได้ หรือแม้กระทั่งบริหารประเทศก็ทำได้ ขอเพียงแค่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถของตัวเอง และทำตามความตั้งใจของตัวเองโดยไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรคใดๆ สุดท้ายก็จะประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับในที่สุดค่ะ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิง ชาย หรือเพศใดๆ ก็ตาม ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับโอกาสในการแสดงความสามารถ และแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองและผู้อื่น ขอเพียงแค่ยอมรับความแตกต่างของกันและกัน และยอมรับตัวตนของกันและกัน แล้วสังคมของเรา โลกของเราจะมีคนเก่งๆ ได้เฉิดฉายอีกมากมายเลยทีเดียวค่ะ

DIY INSPIRE NOW คือแรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? ได้อ่านเรื่องราวของผู้หญิงเก่งระดับโลกแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจหรือไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ขอให้เชื่อในความสามารถและศักยภาพของตัวเองเข้าไว้นะคะ เราทุกคนมีของอยู่ในตัว และกำลังรอโอกาสที่จะเฉิดฉายออกมา เวลานั้นจะต้องมาถึงอย่างแน่นอนค่ะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : bbc.com, nasdaq.com, citigroup.com, research.com, forbes.com, investopedia.com

Featured Image Credit : vecteezy.com/chitsanupong.chu

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW