เช็ก ! เทคนิคการเจรจาต่อรอง กับกฎ 7-38-55 ที่ช่วยให้ “พูดแล้วอีกฝ่ายอยากฟัง”
รู้จักกฎ 7-38-55 เทคนิคการเจรจาต่อรองพร้อมตัวอย่างสถานการณ์จริง และเครื่องมือเสริมที่ช่วยให้การต่อรองได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยไม่เสียความสัมพันธ์ที่ใช้ได้จริงกัน
ทักษะในด้านการคำนวณนั้น เป็นทักษะที่เราจะต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการบวกลบคูณหาร หรือการคิดหาเปอร์เซ็นต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดค่าอาหาร ร้านค้า หรือเวลาไปช้อปปิ้ง หรือแม้แต่วิธีการคิดเปอร์เซ็นต์ยอดขาย ค่าคอมมิชชั่นต่างๆ เปอร์เซ็นต์เงินเดือน ภาษี ฯลฯ ซึ่งบางคนก็อาจจะงง คำนวณไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องคิดยังไง ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ลองหาวิธีคิดดูแล้วก็ยังไม่เข้าใจ อย่าเพิ่งปวดหัวกันไปค่ะ มาดูวิธีคิดแบบง่ายๆ กับ สูตรการคิดเปอร์เซ็นต์ ที่เราเอามาฝากกันก่อน รับรองว่าต่อให้ไม่ถนัดคำนวณก็สามารถเข้าใจได้ง่ายและคิดตามได้แน่นอนค่ะ
ในวิชาคณิตศาสตร์ เปอร์เซ็นต์ (Percent or Percentage) คือ ตัวเลขหรืออัตราส่วนที่แทนเศษส่วนของ 100 ซึ่งมักจะแสดงด้วยสัญลักษณ์ “%” หรืออาจใช้ตัวย่อ “pct” ตัวอย่างเช่น 35% เทียบเท่ากับทศนิยม 0.35 หรือเศษส่วน 35/100 ซึ่งสูตรการคิดเปอร์เซ็นต์ นั้นมีประโยชน์ในหลายๆ ทาง ได้แก่
สำหรับคนวัยทำงาน จะต้องทำการยื่นภาษีเป็นประจำทุกปี ซึ่งถ้าเราสามารถคำนวณเงินภาษีในแต่ละปีคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ เราก็จะได้เห็นสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มากขึ้น และวางแผนภาษีรวมถึงวางแผนค่าใช้จ่ายในแต่ละปีโดยใช้สามเหลี่ยมการเงินเป็นตัวช่วยได้ หากเสียภาษีต่อปีปีละ 90,000 บาท และมีรายได้รวมทั้งหมด 600,000 บาทต่อปี สามารถคิดภาษีเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ดังนี้
รายได้ต่อปี 600,000 บาท เสียภาษีปีละ 90,000 บาท
เปอร์เซ็นต์ภาษี = (ภาษีที่ต้องเสีย x 100) หารด้วยรายได้สุทธิ
เปอร์เซ็นต์ภาษี = (90,000 x 100) หารด้วยรายได้สุทธิ
เปอร์เซ็นต์ภาษี = (90,000 x 100) / 600,000
เปอร์เซ็นต์ภาษี = 9,000,000/600,000
เปอร์เซ็นต์ภาษี = 15%
สรุปได้ว่า หากเรามีรายได้ต่อปี 600,000 บาท และเสียภาษี 90,000 บาท เราจะต้องเสียภาษีคิดเป็น 15% หรือคิดเเปอร์เซ็นต์ ร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งหมดต่อปีนั่นเองค่ะ
สูตรการคิดเปอร์เซ็นต์เงินเดือน สำหรับผู้ที่อยากทราบว่า เงินเดือนขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อที่จะได้วางแผนการใช้จ่ายในแต่ละส่วนโดยใช้หลักการออมเงินเป็นตัวช่วย เพราะถ้าทราบว่ามีรายรับเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้แบ่งสัดส่วนของเงินออมได้มากขึ้นด้วยเช่น เคยได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 25,000 บาท และเงินเดือนถูกปรับขึ้นเป็น 27,000 บาท คิดเปอร์เซ็นต์ยังไง ? ไปดูกันเลย
เงินเดือนเดิมอยู่ที่ 25,000 บาท ถูกปรับขึ้นเป็น 27,500 บาท เท่ากับว่าเพิ่มมา 2,500 บาท
เปอร์เซ็นต์เงินเดือนเพิ่ม = (ส่วนต่างเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น x 100)/เงินเดือนเดิม
เปอร์เซ็นต์เงินเดือนเพิ่ม = (2500 x 100)/เงินเดือนเดิม
เปอร์เซ็นต์เงินเดือนเพิ่ม = 250,000 / 25,000
เปอร์เซ็นต์เงินเดือนเพิ่ม = 10%
สรุปได้ว่า หากเราได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น 2,500 บาท จากเงินเดือนเดิม 25,000 บาท แสดงว่าเราได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น 10% ค่ะ
การคิดเปอร์เซ็นต์โบนัส ก็ทำได้เช่นเดียวกัน หากสามารถคิดเปอร์เซ็นต์ ร้อยละของโบนัสที่ได้รับ ก็จะทำให้เราสามารถเปรียบเทียบรายรับในแต่ละปีได้ เพื่อที่จะวางแผนการเงินส่วนบุคคลได้ในสัดส่วนที่เหมาะสม และมีความมั่นคงทางการเงินในอนาคต สมมติว่าได้เงินเดือนเดือนละ 30,000 บาท ทำงานมาได้ 1 ปี ได้รับโบนัส เป็นเงิน 90,000 บาท สามารถคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ดังนี้
เงินเดือน 30,000 บาท ในหนึ่งปีจะมีรายรับ 30,000x 12 = 360,000 บาท ได้รับโบนัสในปีนั้นเป็นจำนวนเงิน 90,000 บาท
เปอร์เซ็นต์โบนัสที่ได้ = (โบนัสที่ได้ x 100)/เงินเดือนใน 1 ปี
เปอร์เซ็นต์โบนัสที่ได้ = (90,000 x 100)/ 360,000
เปอร์เซ็นต์โบนัสที่ได้ = 9,000,000 /360,000
เปอร์เซ็นต์โบนัสที่ได้ = 25%
สรุปได้ว่า หากเราได้รับเงินโบนัส 90,000 บาทในปีนั้น และมีเงินเดือนรวมต่อปี 360,000 บาท หมายความว่า เราได้โบนัสคิดเป็น 25% ของเงินเดือนในปีนั้นค่ะ
สำหรับสูตรคิดเปอร์เซ็นต์คะแนน จะใช้เมื่อเราต้องไปสอบ ไม่ว่าจะสอบในชั้นเรียนหรือสอบในวิชาชีพ หากมีเกณฑ์กำหนดไว้ว่า เราจะทำข้อสอบให้ได้อย่างน้อย 120 คะแนน จาก 150 คะแนนเต็ม ถึงจะสอบผ่าน จะคิดเปอร์เซ็นต์ยังไง มาดูกันเลยค่ะ
ต้องได้คะแนน 120 คะแนนขึ้นไป จากคะแนนเต็ม 150 คะแนน
เปอร์เซ็นต์คะแนน = (คะแนนที่ต้องทำได้อย่างน้อยx100) / คะแนนเต็ม
เปอร์เซ็นต์คะแนน = (120×100) / คะแนนเต็ม
เปอร์เซ็นต์คะแนน = 12,000/150
เปอร์เซ็นต์คะแนน = 80%
สรุปได้ว่า เราต้องทำคะแนนให้ได้อย่างน้อย 80% ขึ้นไป ซึ่งก็คือ ต้องทำให้ได้อย่างน้อย 120 คะแนน และโดนหักคะแนนได้ไม่เกิน 20% หรือไม่เกิน 30 คะแนนเท่านั้น ถึงจะสอบผ่านได้
สูตรการคิดเปอร์เซ็นต์ส่วนลดนั้น สามารถคิดได้ง่ายๆ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการหาส่วนลดร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ที่เราต้องการใช้บริการ ก็สามารถนำวิธีคิดนี้ไปใช้ได้ เช่น สินค้าราคาเต็ม 1,500 บาท ติดป้ายลดราคาเหลือ 1,050 บาท เท่ากับว่าสินค้าชิ้นนี้ลดราคากี่เปอร์เซ็นต์ ?
สินค้าราคาเต็ม 1,500 บาท ลดเหลือ 1,050 บาท เท่ากับว่าลดราคาไป 450 บาท
เปอร์เซ็นต์ส่วนลด = (ส่วนลด x 100) หารราคาเต็ม
เปอร์เซ็นต์ส่วนลด = (450 x 100) /1,500
เปอร์เซ็นต์ส่วนลด = 45,000 /1,500
เปอร์เซ็นต์ส่วนลด = 30%
สรุปได้ว่า สินค้าราคาเต็ม 1,500 บาท ลดราคา 450 บาท เหลือ 1,050 บาทนั้น เท่ากับว่าสินค้านี้ลดไป 30% ค่ะ
สูตรการคิดเปอร์เซ็นต์ยอดขายนั้น สำหรับคนทำธุรกิจด้วยการคิดเปอร์เซ็นต์ตามเป้าหมาย เพื่อดูผลประกอบการว่าทำยอดได้มากหรือน้อยกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เช่น ผลประกอบการที่ทำได้จริงคือ 1,500,000 บาท ส่วนเป้าหมายยอดขายที่วางไว้คือ 1,000,000 บาท เท่ากับเราทำยอดขายได้กี่เปอร์เซ็นต์ของยอดขายตามเป้าที่กำหนด ?
เปอร์เซ็นต์ยอดขายตามเป้า = ผลประกอบการที่ทำได้จริง หารตัวเลขเป้าหมาย คูณด้วย 100
เปอร์เซ็นต์ยอดขายตามเป้า = (1,500,000 /1,000,000) x 100
เปอร์เซ็นต์ยอดขายตามเป้า = 1.5 x 100
เปอร์เซ็นต์ยอดขายตามเป้า = 150%
สรุปได้ว่า หากเป้าหมายของยอดขายตั้งไว้ที่ 1,000,000 บาท แต่เราทำธุรกิจขายสินค้าได้ 1,500,000 บาท เท่ากับว่า เราทำยอดขายได้ 150%
วิธีการคิดเปอร์เซ็นต์แบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ทำธุรกิจหรือค้าขายต่างๆ รวมถึงขายของออนไลน์ ที่ต้องการรู้ว่าสินค้าที่เราขายออกไปนั้น ได้กำไร หรือขาดทุนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ ? โดยคำนวณจากราคาขาย ยอดขาย และต้นทุน เช่น หากเราทำยอดขายรวมได้ 60,000 บาท โดยมีต้นทุนอยู่ที่ 25,000 บาท และกำไรเท่ากับ 35,000 บาท จะคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ?
เปอร์เซ็นต์กําไร = กำไร หารยอดขาย คูณด้วย 100
เปอร์เซ็นต์กําไร = (35,000/60,000) x 100
เปอร์เซ็นต์กําไร = 58.33%
สรุปได้ว่า หากทำกำไรจากยอดขายได้ 35,000 บาท เท่ากับคิดเป็นเราทำกำไรได้ 58.33% ค่ะ
สำหรับคนทำงานที่ได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่น และต้องการรู้ว่าค่าคอมมิชชั่นที่เราได้รับนั้นทางบริษัทคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถคำนวณได้ง่ายๆ เช่น ยอดขายทั้งเดือนที่เราทำได้คือ 380,000 บาท และเราได้เงินตอบแทนมาเป็นค่าคอมมิชชั่นจำนวน 11,400 บาท เท่ากับว่าบริษัทให้ค่าคอมมิชชั่นเรากี่เปอร์เซ็นต์ ?
เปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่น = (ค่าคอมมิชชั่น x 100) หารยอดขายที่ทำได้จริง
เปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่น = (11,400 x 100) /380,000
เปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่น = 1,140,000 /380,000
เปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่น = 3%
สรุปได้ว่า หากเราทำยอดขายทั้งเดือนได้ 380,000 บาท และได้ค่าคอมมิชชั่นของเดือนนี้คือ 11,400 บาท ก็จะเท่ากับบริษัทให้ค่าคอมมิชชั่นเรา 3% นั่นเองค่ะ
ปัจจุบันการคิดเปอร์เซ็นต์สามารถทำได้ในโปรแกรมพื้นฐานอย่าง Excel ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคำนวณเปอร์เซ็นต์ ร้อยละอย่างรวดเร็ว และต้องคำนวนหลายๆ ข้อมูล หากกดเครื่องคิดเลขหรือนั่งคำนวณด้วยตัวเองก็อาจจะใช้เวลานาน เรามีตัวอย่างคิดเปอร์เซ็นต์ Excel มาฝากกันด้วยค่ะ
ในกรณีที่มีรายได้ไม่ประจำ อาทิ มีอาชีพฟรีแลนซ์ และอยากจะทราบว่า รายได้ของเดือนนี้ ต่างจากรายได้ของเดือนที่ผ่านมากี่เปอร์เซ็นต์ สมมติว่าในเดือนกุมภาพันธ์มีรายได้อยู่ที่ 25,000 บาท และเดือนมีนาคมมีรายได้อยู่ที่ 28,000 บาท สามารถคำนวณส่วนต่างเป็นเปอร์เซ็นต์ใน Excel ได้ตามนี้ค่ะ
สมมติว่าทำข้อสอบได้ถูกต้อง 55 ข้อ จากทั้งหมด 60 ข้อ จะสามารถคิดเปอร์เซ็นต์ได้อย่างไร มีวิธีการดังนี้
Inspire Now ! : สำหรับสูตรการคิดเปอร์เซ็นต์ต่างๆ ที่ได้นำมาให้ดูเป็นตัวอย่างในวันนี้ เป็นพื้นฐานการคิดเปอร์เซ็นต์อย่างง่ายๆ ที่สามารถนำไปใช้ทั้งในชีวิตประจำวันและในการทำงานนะคะ โดยเฉพาะวิธีการคิดเปอร์เซ็นต์ยอดขายที่เหมาะมากทั้งสำหรับคนทำธุรกิจหรือแม้แต่พนักงานขายที่ต้องทำยอดขายให้ตรงตามเป้าที่บริษัทกำหนด การคิดเปอร์เซ็นต์จะช่วยให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าเราทำยอดขายได้มากน้อยแค่ไหนและคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์นั่นเองค่ะ นอกจากนี้ การคิดเปอร์เซ็นต์ยังสามารถใช้เพื่อวางแผนการเงินของเราได้อีกด้วย จะได้รู้ว่าควรเก็บออมเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์และใช้จ่ายกี่เปอร์เซ็นต์ ทำให้เรามีวินัยทางการเงินมากขึ้น ทั้งยังสามารถเอาไปประยุกต์นำเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียวค่ะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าใช่ไหม ? รู้วิธีคิดเปอร์เซ็นต์แบบต่างๆ แล้ว ทำให้คำนวณเปอร์เซ็นต์ร้อยละในชีวิตประจำวันได้ง่ายมากขึ้นเลยใช่ไหมคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : semihblogs.com, thaiwinner.com, support.microsoft.com
Featured Image Credit : vecteezy.com/Thanakorn Lapp
รู้จักกฎ 7-38-55 เทคนิคการเจรจาต่อรองพร้อมตัวอย่างสถานการณ์จริง และเครื่องมือเสริมที่ช่วยให้การต่อรองได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยไม่เสียความสัมพันธ์ที่ใช้ได้จริงกัน
รู้จัก Self-Hatred คืออะไร สาเหตุของความรู้สึกเกลียดตัวเองเกี่ยวข้องกับ self-esteem อย่างไร เริ่มต้นเยียวยาใจอย่างอ่อนโยนได้ยังไงบ้าง พร้อมตัวอย่างที่นำไปใช้ได้จริง
บริหารเวลา ยังไงดี ชวนมาดูเทคนิค คำแนะนำ วิธีคิดที่ช่วยส่งเสริม พร้อมเครื่องมือที่นำไปปรับใช้ได้จริงให้มีประสิทธิภาพภาพสูงสุดกัน