รวม เว็บลอยกระทงออนไลน์ 2567 ลดขยะ รักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ยังสนุกได้ทั้งครอบครัว !
รวม 5 เว็บลอยกระทงออนไลน์ ประจำปี 2567 สนุกกับเทศกาลแบบรักษ์โลกได้แบบไม่ตกเทรนด์ มีเว็บไหนบ้าง ถูกใจเว็บไหน เลือกแล้วไปลอยกันเลย
ถ้าในช่วงเดือนกันยายนจะมีวันสำคัญอย่างวันไหว้พระจันทร์ ในเดือนตุลาคมของทุกปีก็จะมีเทศกาลที่คนให้ความสนใจกันทั่วโลกเช่นกันนั่นคือ เทศกาลฮาโลวีน ซึ่งมีที่มาจากทางฝั่งยุโรป แต่ได้แผ่ขยายไปยังทุกทวีปทั่วโลก เพราะเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่สร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับผู้คน เหมือนเป็นการเริ่มเทศกาลแห่งความสุขก่อนที่จะถึงเทศกาลคริสมาสต์ปลายปี ทำให้หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก และลุกขึ้นมาแต่งตัวแต่งหน้าเป็นผีต่างๆ แล้วไป Peek-a-boo! ตามบ้าน และเพื่อให้สนุกสนานกับเทศกาลนี้มากขึ้น ในบทความนี้ DIYINSPIRENOW ก็มีเรื่องราวประวัติวันฮาโลวีนมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
วันฮาโลวีนเป็นเทศกาลฉลองยอดนิยมที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเริ่มจากความเชื่อเกี่ยวกับการมองโลกใบนี้แบบคู่ขนาน ระหว่างโลกของมนุษย์และโลกของภูตผี โดยฉลองในคืนก่อนวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ได้รับการถือว่าเป็นวันที่มีการเปิดช่องทางระหว่างสองโลกให้เกิดปฏิสัมพันธ์กัน ทำให้มีการจัดกิจกรรมและประเพณีต่างๆ เพื่อรำลึกถึงเทศกาลนี้ เราลองมาดูรายละเอียด ประวัติความเป็นมาของเทศกาลนี้กันเลยค่ะ
ประวัติความเป็นมาของเทศกาลนี้มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาลเซลติกโบราณของ Samhain ชาวเคลต์ซึ่งอาศัยอยู่เมื่อ 2,000 ปีก่อน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ซึ่งปัจจุบันคือไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศสตอนเหนือ โดยจะเฉลิมฉลองปีใหม่ของพวกเขาในวันที่ 1 พฤศจิกายน และทำให้วันที่ 31 ตุลาคม เป็นที่รู้จักในนามวันฮาโลวีนอีฟ (Hallows’ Eve) ซึ่งเป็นวันที่สิ้นสุดฤดูร้อน การเก็บเกี่ยว และการเริ่มต้นของฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ
คำว่า Hallows’ Eve หมายถึง “hallowed evening” ซึ่งช่วงเวลานี้ของปีเชื่อกันว่ามักเกี่ยวข้องกับความตายของมนุษย์ และเชื่อว่าในคืนก่อนปีใหม่ เส้นแบ่งระหว่างโลกของคนเป็นและคนตายจะเริ่มเลือนลาง ทำให้ในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ที่กำหนดเป็นวันฮาโลวีน พวกเขาจะเฉลิมฉลองกันเพราะเชื่อว่าคนตายนั้นจะกลับมายังโลก ผู้คนจะจุดกองไฟและมารวมตัวกันเพื่อเผาพืชผลและสัตว์เพื่อเป็นเครื่องสังเวยเทพเจ้าเซลติก ในระหว่างการเฉลิมฉลอง ชาวเคลต์จะสวมเครื่องแต่งกายเพื่อปัดเป่าผี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะประกอบด้วยหัวของสัตว์และหนังสัตว์ต่างๆ
ตามเดิมแล้ว การเฉลิมฉลองวันฮาโลวีนยังจำกัดอยู่มากในอาณานิคมนิวอิงแลนด์ เนื่องจากมีระบบความเชื่อแบบโปรเตสแตนต์ที่เข้มงวด วันฮาโลวีนจะพบได้ทั่วไปในรัฐแมรี่แลนด์และอาณานิคมทางใต้ และเมื่อความเชื่อขนบธรรมเนียมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในยุโรปและชาวอเมริกันอินเดียนหลอมรวมกัน วันฮาโลวีนในเวอร์ชั่นอเมริกันก็เริ่มปรากฏขึ้น ในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อคราวผู้อพยพชาวยุโรปเดินทางไปยังแผ่นดินอเมริกา ก็ได้นำประเพณีฮาโลวีนติดตัวไปด้วย และได้กลายเป็นเทศกาลที่นิยมอย่างมาก การเฉลิมฉลองครั้งแรกในอเมริกาจึงเริ่มขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปมาจนถึงปัจจุบัน วันฮาโลวีนก็ได้กลายเป็นวันแห่งการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงงานสังสรรค์ งานรื่นเริง การสวมเครื่องแต่งกายผี และเฉลิมฉลองรับประทานอาหารร่วมกัน และผู้คนมักจะแกะสลักฟักทองให้เป็นหน้าผีอีกด้วย
ในช่วงปี 1920 และ 1930 วันฮาโลวีนได้กลายเป็นวันหยุด โดยมีขบวนพาเหรดและปาร์ตี้ฮาโลวีนทั่วทั้งเมือง และในช่วงปี 1950 วันฮาโลวีนก็กลายเป็นวันหยุดที่คนหนุ่มสาวให้ความสำคัญเป็นหลัก เนื่องจากได้แต่งกายแฟนซี ได้จัดงานปาร์ตี้กับเพื่อนๆ และครอบครัว และประเพณีฮาโลวีนแบบอเมริกันรูปแบบใหม่จึงถือกำเนิดขึ้น ซึ่งชาวอเมริกันใช้จ่ายประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ต่อปีในวันฮาโลวีน ทำให้เป็นวันสำคัญที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากเทศกาลคริสต์มาสเลยทีเดียว
สัญลักษณ์เหล่านี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องการเปิดช่องระหว่างโลกของมนุษย์และโลกของภูตผี ซึ่งเป็นรากฐานที่นำไปสู่การเกิดขึ้นของเทศกาลวันฮาโลวีนในปัจจุบัน ลองมาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันนะคะ
1. ฟักทอง : สัญลักษณ์หลักของวันฮาโลวีน เนื่องจากมีความเชื่อว่าในคืนวันฮาโลวีน ภูตผี และวิญญาณเร่ร่อนจะตกแต่งตัวด้วยฟักทองที่แกะสลักเป็นหน้าผี หรือ Jack-o’-lanterns เพื่อนำทางในความมืด และเพื่อขับไล่ภูตผีร้ายออกจากบ้านเรือน
2. แม่มด : อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่เด่นชัดของวันฮาโลวีน โดยแม่มดเป็นตัวละครที่มักจะเชื่อมโยงกับความชั่วร้าย ความลึกลับ และพลังเหนือธรรมชาติ ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อเกี่ยวกับการเปิดช่องระหว่างโลกของมนุษย์และโลกของภูตผี
3. ผีดิบ : เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงวิญญาณที่ออกจากโลกของผีสางมายังโลกของมนุษย์ในคืนวันฮาโลวีน ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ โดยผีดิบจะถูกแต่งกายด้วยชุดสีดำ และมักปรากฏตัวเพื่อหลอกหลอนผู้คน
วันฮาโลวีนจึงเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกสนานและน่าตื่นเต้นสำหรับทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ลองมาดูกิจกรรมกันเลยค่ะ
วันฮาโลวีน ประวัติ มีที่มาที่ไปอย่างไรก็ได้รู้กันไปแล้วใช่มั้ยคะ ทีนี้เรามารู้จักถึงประวัติของ Trick-or-Treating กันบ้าง จากการรับเอาประเพณีวันฮาโลวีนของชาวยุโรปมาเฉลิมฉลอง ชาวอเมริกันก็เริ่มแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายแฟนซีต่างๆ และไปที่บ้านในละแวกเดียวกันเพื่อขอขนมหรือเงิน ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ในที่สุดก็กลายเป็นประเพณี “Trick-or-Treat” ในปัจจุบัน และกลายเป็นความสนุกสนานในหมู่เด็กๆ ในที่สุด โดยเด็กๆ จะแต่งตัวแฟนซีไปเคาะประตูตามบ้านในละแวกนั้น ครอบครัวต่างๆ ก็จะมอบขนมหรือลูกกวาดให้ โดย “Trick” หมายถึง การขู่ว่าจะทำอะไรให้เจ้าของบ้านลำบาก หากไม่ให้ขนมหรือของขวัญ ส่วน “Treat” หมายถึง การให้ขนมหรือของขวัญแก่เด็กๆ ที่มาเคาะประตูบ้าน โดยเด็กๆ จะตะโกนว่า “Trick or treat!” เพื่อให้เจ้าของบ้านเลือกว่าจะให้ขนม (Treat) หรือไม่ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกสนานและความตื่นเต้นในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีน ซึ่งการจัดปาร์ตี้ฮาโลวีนสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก็ได้กลายเป็นวิธีที่นิยมที่สุดในการเฉลิมฉลองวันนี้ โดยเน้นไปที่การเล่นเกม กินอาหารประจำฤดูกาล และแต่งตัวเป็นผีแบบต่างๆ ทั้งน่ากลัว น่าขนลุก ตลก และสร้างสรรค์ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งช่วยสร้างสีสันให้กับเทศกาลอย่างมากมาจนถึงปัจจุบันนั่นเองค่ะ
Inspire Now ! : วันฮาโลวีน ประวัติ ความเป็นมานั้นน่าสนใจมากๆ เลยใช่ไหมคะ และก่อนที่เราจะไปเฉลิมฉลองกันนั้น นอกจากการแต่งกายเป็นผีออกไปยังสถานที่ต่างๆ นอกบ้านแล้ว ยังใช้แอปแต่งหน้าผีเพื่ออัปโหลดรูปน่ากลัวๆ ชวนขนลุกลงโซเชียลได้อีกด้วยนะคะ ซึ่งในปัจจุบันเทศกาลฮาโลวีนเป็นที่สนุกสนานของคนทุกวัย และนิยมแต่งกายแฟนซีให้ดูน่ากลัว เพื่อออกไปสนุกสนานนอกบ้าน และร่วมปาร์ตี้ฮาโลวีนแสนสนุกอีกด้วยค่ะ |
---|
DIYINSPIRENOW คือ แรงบันดาลใจของฉันใช่ไหม ? ฮาโลวีนของแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง มาคอมเมนต์คุยกันนะคะ ♡
รวม 5 เว็บลอยกระทงออนไลน์ ประจำปี 2567 สนุกกับเทศกาลแบบรักษ์โลกได้แบบไม่ตกเทรนด์ มีเว็บไหนบ้าง ถูกใจเว็บไหน เลือกแล้วไปลอยกันเลย
ชวนเช็กพลังงาน และ ดูดวง พฤศจิกายน 2567 เดือนนี้ดวงดาวบอกอะไรกับคุณบ้าง มาเช็กเป็นแนวทาง แล้วเดินหน้าใช้ชีวิตให้ดีกัน
อาโป-ณัฐวิญญ์ร่วมฉลอง ครบรอบ 77 ปี เซ็นทรัลชิดลมจัดทุกสเปซในห้างด้วยมวลดอกไม้สวยงามมีเอกลักษณ์ภายใต้คอนเซปต์ อาวองก์ การ์ดีน่า ชวนช้อปพร้อมชมดอกไม้สวย