ปฏิเสธสัมภาษณ์งาน อย่างไร ? ให้ยังดูเป็นมืออาชีพ และเปิดโอกาสไว้สำหรับงานที่ใช่กว่าในอนาคต !
ชวนดูคำแนะนำการ ปฏิเสธสัมภาษณ์งาน เมื่อเจองานที่ยังไม่ใช่ พร้อมตัวอย่างเข้าใจง่าย และทิปส์สำหรับคนอยากสัมภาษณ์งานแล้วได้งาน
ใครๆ ก็ติดซีรีย์เกาหลี เพราะดูแล้วทั้งสนุก ทั้งได้ความรู้ต่างๆ ตั้งแต่วัฒนธรรม สังคม และชีวิตความเป็นอยู่ ทำให้หลายๆ คนอาจจะนึกอยากเรียนภาษาเกาหลีกันบ้าง และเพื่อเป็นพื้นฐานในการเริ่มต้นเรียนรู้ภาษาเกาหลี เราจะชวนสาวๆ ทุกคนมารู้จักถึงวิธี การนับเลขภาษาเกาหลี ว่านับอย่างไร ออกเสียงแบบไหน เพื่อให้ทุกคนได้เริ่มรู้จักภาษาเกาหลีง่ายๆ กันค่ะ
การเรียนรู้ตัวเลขภาษาเกาหลี และนับเลขภาษาเกาหลีใต้ให้ถูกต้องนั้น เป็นสิ่งจำเป็นในการอ่าน เขียน และพูดภาษาเกาหลี ซึ่งระบบการนับเลขภาษาเกาหลีนั้นค่อนข้างซับซ้อน เพราะตัวเลขในภาษาเกาหลีแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ตัวเลขเกาหลี และตัวเลขจีน-เกาหลี ทำให้มีการนับเลขภาษาเกาหลีสองแบบด้วยกัน และแต่ละแบบจะใช้ในโอกาสและสถานการณ์ที่แตกต่างกันอีกด้วย ทำให้อาจเกิดความสับสนในคนที่เพิ่งเรียนรู้ อย่างเวลาที่เราดู netflix หนังเกาหลี เราจะได้ยินการนับตัวเลขเกาหลีที่แตกต่างกัน ดังนั้น เรามาดูความแตกต่างระหว่างตัวเลขทั้งสองแบบนี้กันเลย เพื่อที่สาวๆ จะได้เรียนรู้วิธีการนับเลขในภาษาเกาหลีตั้งแต่ 1-10 ได้อย่างถูกต้องกันค่ะ
[affegg id=282]
Image Credit : chinadaily.com.cn
คือ คำภาษาเกาหลีที่มาจากจีน คำศัพท์ภาษาจีน-เกาหลีประกอบด้วยคำที่ยืมมาจากภาษาจีนโดยตรง เช่นเดียวกับคำภาษาเกาหลีใหม่ที่สร้างขึ้นจากตัวอักษรจีน และหลายคำมักถูกตัดทอนหรือแก้ไขแต่ถือว่าเป็นภาษาเกาหลี ซึ่งคำจีน-เกาหลีนั้นได้รับอิทธิพลมาจากคำภาษาจีน โดยคำศัพท์ภาษาเกาหลีประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์เป็นภาษาจีน-เกาหลีทั้งสิ้น และยังรวมถึงตัวเลขภาษาเกาหลีที่ใช้สำหรับเรียกวันที่ เงิน เวลา ที่อยู่ และตัวเลขที่สูงกว่า 100 ด้วยค่ะ
ตัวเลข 1 ถึง 10 ในภาษาจีน-เกาหลี
หากจะนับตัวเลขตั้งแต่เลข 11 ขึ้นไป ตามหลักการนับเลขของเกาหลีจะนับเป็นตัวเลข 10+1 นั่นคือ 십 (ชิบ) + 일 (อิล)
= 십일 (ชิบอิล) ในภาษาเกาหลี คือ สิบเอ็ด หรือ 십이 (ชิบอี) คือ สิบสอง นั่นเองค่ะ
นอกจากนี้เรายังใช้ตัวเลขจีน-เกาหลี กับการนับเลขภาษาเกาหลีใต้อื่นๆ อีก ได้แก่
[affegg id=3668]
Image Credit : quora.com
Native Korean หรือ Hangul (ฮันกึล)
คือ คำภาษาเกาหลีพื้นเมือง ที่รวมถึงการนับเลขภาษาเกาหลีแบบเกาหลีดั้งเดิมด้วย ที่จะแตกต่างจากการนับเลขแบบจีน-เกาหลี ระบบตัวเลขเกาหลีพื้นเมืองมีความทันสมัยกว่าระบบตัวเลขจีน-เกาหลีเล็กน้อย โดยมีวิธีการนับพร้อมการออกเสียง ดังนี้
ตัวเลข 1 ถึง 10 ในภาษาเกาหลี
หากจะนับตัวเลขตั้งแต่เลข 11 ขึ้นไป จะใช้กฎการนับเดียวกันกับตัวเลขจีน-เกาหลี แต่จะนับเป็นตัวเลข 1+10 นั่นคือ 열 (ยอล) + 하나 (ฮานา) = 열 하나 (ยอลฮานา) คือ สิบเอ็ด หรือ 열아홉 (ยอลอาฮบ) คือ สิบเก้า
ตัวเลขเกาหลีพื้นเมือง จะใช้ในการนับเลขภาษาเกาหลีใต้อื่นๆ อีก ได้แก่
[affegg id=3669]
ถ้ามีคนถามเราว่าเริ่มเรียนภาษาเกาหลีมานานแค่ไหนแล้ว หากเราจะตอบว่า “สาม” วัน เราสามารถตอบได้ ดังนี้
“나는 한국어 공부 시작한지 ‘삼’ 일” (อ่านออกเสียงว่า นานึน ฮันกุกออ คงบู ชีจักฮันจี ‘ซัม’ อิล)
แปลว่า ฉันเริ่มเรียนภาษาเกาหลีได้เพียง ‘สาม’ วันเท่านั้น
ในตัวอย่างนี้เราจะใช้คำว่า 삼 (ซัม) ที่เป็นระบบนับเลขจีน-เกาหลี แทนจำนวนนับ สาม ในกรณีที่เป็นวันที่ หรือจำนวนวัน นั่นเองค่ะ
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะใช้ระบบการนับเลขอย่างไร ? ทั้งสองระบบใช้ในเวลาต่างกันและเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการสื่อสาร ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวที่การนับเลขภาษาเกาหลีทั้งสองระบบผสมกันคือการบอกเวลา เราจะใช้การพูดชั่วโมงโดยใช้ตัวเลขภาษาเกาหลีพื้นเมือง และพูดบอกนาทีโดยใช้ตัวเลขจีน-เกาหลี
Inspire Now ! : แม้ว่าตัวเลขในภาษาเกาหลีอาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่เมื่อเราเข้าใจหลักการพื้นฐานและตรรกะที่อยู่เบื้องหลังของทั้งสองระบบแล้ว เราจะเริ่มใช้การนับเลขภาษาเกาหลีได้อย่างเชี่ยวชาญขึ้นค่ะ ซึ่งเราสามารถฝึกฟังและพูดภาษาเกาหลีได้ง่ายๆ จากการดูหนังและซีรีย์เกาหลี เพื่อเป็นการฝึกทักษะในการฟัง แถมยังได้ความสนุกเพลิดเพลินอีกด้วยนะคะ แต่ถ้าใครต้องการเรียนรู้ภาษาเกาหลีอย่างจริงจัง หรือมากกว่าแค่พื้นฐานง่ายๆ ก็แนะนำให้หาที่เรียนภาษาเกาหลีเพิ่มเติมค่ะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้ไอเดียในการค้นหาตัวเองใช่ไหม ? ใครชอบเรียนภาษาเกาหลีกันบ้าง มาแชร์ข้อมูลกับเราได้นะคะ ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : takelessons.com, fluentin3months.com, 90daykorean.com
ชวนดูคำแนะนำการ ปฏิเสธสัมภาษณ์งาน เมื่อเจองานที่ยังไม่ใช่ พร้อมตัวอย่างเข้าใจง่าย และทิปส์สำหรับคนอยากสัมภาษณ์งานแล้วได้งาน
ชวนมารู้จัก self reflection คือ การทบทวนตัวเอง เพื่อการเปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีการใช้ชีวิต ในทิศทางที่ดีกว่าเดิม อยากสะท้อนตัวเองต้องทำยังไง ทำแล้วดีกับชีวิตแค่ไหน ต้องลอง
พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ได้ง่ายๆ แค่ทำตามนี้ แชร์ทิปส์ step by step ทั้งวิธีการ และคำแนะนำเมื่อเกิดอาการท้อแท้ระหว่างการพัฒนาตัวเองที่ทำได้จริง