น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์

รวม 7 เมนู น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ อร่อย เฮลท์ตี้ ดูดีแบบคนรุ่นใหม่

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้หลายคนคงรู้จักน้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลกันมากขึ้น และเริ่มมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับทุกอย่างตั้งแต่การลดน้ำหนักไปจนถึงการรักษาการติดเชื้อ น้ำส้มสายชูหมักชนิดนี้เรียกอีกอย่างสั้นๆ ว่า ACV ส่วนใหญ่นิยมเอามาใช้ปรุงอาหาร ผสมลงในเครื่องดื่มต่างๆ และบริโภคเพื่อสุขภาพ จึงได้รับความนิยมมากในหมู่คนกินอาหารสุขภาพ และในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการนำ น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ มาประกอบอาหารต่างๆ ว่าสามารถนำมาทำเมนูอาหารและเครื่องดื่มอะไรได้บ้างค่ะ

7 เมนู น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ เมนูรักสุขภาพของคนรุ่นใหม่

น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์, น้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล

น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือ ACV เป็นน้ำส้มสายชูรสหวานอ่อนๆ ที่ทำจากแอปเปิ้ล มีรสเปรี้ยวมาก สามารถชงดื่มได้เลย หรือจะผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เพื่อลดความเปรี้ยวและให้ดื่มง่ายขึ้นได้ รวมถึงยังนำมาปรุงในอาหารต่างๆ ได้อีกด้วย เรามาดู 7 เมนูแนะนำที่ทำจากน้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลกันดีกว่าค่ะ

1. Honey Garlic Chicken

น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์, น้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล

Image Credit : thekitchn.com

อาหารเย็นแบบง่ายๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว อกไก่ย่างกระทะอบด้วยซอสรสเปรี้ยวหวานที่ปรุงจากน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ เสิร์ฟพร้อมข้าวหรือสลัดผักตามต้องการ สำหรับเมนูนี้สามารถอบไก่ในหม้อทอดไร้น้ำมันได้เช่นกันค่ะ

วัตถุดิบ :

  1. กระเทียม 4 กลีบ สับละเอียด
  2. น้ำผึ้ง ¼ ถ้วย
  3. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  5. อกไก่หรือสะโพกไก่ 2 ชิ้น
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. พริกไทยดำสด ¼ ช้อนชา
  8. ต้นหอมหั่นซอยเล็กน้อย

วิธีทำ :

  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส
  2. ใส่กระเทียมลงในชาม เติมน้ำผึ้งและน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ ตามด้วยซีอิ๊วขาวแล้วคนให้เข้ากัน
  3. หมักไก่กับเกลือและพริกไทยดำ
  4. วางไก่ด้านหนังลงในถาดของเตาอบที่รองฟลอยด์ จากนั้นอบประมาณ 6-8 นาที หรือจนหนังเป็นสีน้ำตาลทองและกรอบ
  5. พลิกไก่อีกด้านขึ้น เทซอสกระเทียมน้ำผึ้งให้ทั่วไก่ วางในเตาอบและอบต่ออีกเป็นเวลา 5 นาที หรือจนกว่าไก่จะสุก
  6. เสิร์ฟคู่กับข้าว และโรยหน้าด้วยต้นหอม

2. Fire Cider

น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์, น้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล

Image Credit : thekitchn.com

เครื่องดื่มยอดนิยมของกลุ่มคนรักสุขภาพชาวตะวันตก ที่ผสมผัก ผลไม้ และสมุนไพรต่างๆ ลงในน้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์แล้วดื่ม จัดว่าเป็นยาบำรุงสุขภาพและยาชีวจิตด้วยค่ะ

วัตถุดิบ :

  1. มะรุมปอกเปลือก หั่นเต๋า ½ ถ้วย
  2. กระเทียมปอกเปลือก หั่นเต๋า ½ ถ้วย
  3. หัวหอมปอกเปลือก หั่นเต๋า ½ ถ้วย
  4. ขิงปอกเปลือก หั่นเต๋า ¼ ถ้วย
  5. ขมิ้นปอกเปลือก หั่นเต๋า ¼ ถ้วย
  6. พริกฮาบาเนโร่หั่นครึ่ง
  7. ส้ม 1 ลูก หั่นบางๆ ตามขวาง
  8. มะนาว ½ ลูก หั่นบางๆ ตามขวาง
  9. ผักชีฝรั่งสับ ½ ถ้วย
  10. โรสแมรี่สับ 2 ช้อนโต๊ะ
  11. โหระพาสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  12. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
  13. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2-3 ถ้วย
  14. น้ำผึ้ง ¼ ถ้วย

วิธีทำ :

  1. ใส่ผัก ผลไม้ สมุนไพร และเครื่องเทศทั้งหมดลงในโถขนาดใหญ่หรือขวดแก้ว จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูลงไป ปิดฝาขวดให้แน่นและเขย่าให้ส่วนผสมเข้ากัน
  2. จากนั้นหมักทิ้งไว้ในโถหรือในขวดเป็นเวลา 3-6 สัปดาห์ และคอยเขย่าทุกวันหรือบ่อยเท่าที่นึกได้
  3. กรองน้ำส้มสายชูที่ผสมแล้วลงในเหยือก เติมน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสชาติ จากนั้นนำไปแช่เย็นและนำมาดื่มได้เมื่อต้องการ ควรดื่มให้หมดภายในหนึ่งปี

3. Ginger Switchel

น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์, น้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล

Image Credit : thekitchn.com

เครื่องดื่มสวิตช์เชลที่เป็นที่นิยมในอเมริกา เป็นทางเลือกของคนรักสุขภาพที่ต้องการลาขาดจากเครื่องดื่มปัจจุบันที่มีรสหวานต่างๆ ด้วยส่วนผสมของน้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลและขิง เป็นเครื่องดื่มเพื่อดับกระหาย

วัตถุดิบ :

  1. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ
  2. สารให้ความหวาน 4 ช้อนชา
  3. ขิงสดขูด 1 ช้อนชา
  4. น้ำเปล่า 1 ถ้วย

วิธีทำ :

  1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในโถหรือแก้ว ปิดฝาและแช่เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป ถึงหนึ่งวัน
  2. เขย่าหรือคนก่อนเสิร์ฟ ชิมและปรับรสชาติตามต้องการ สามารถใส่สารให้ความหวานเพิ่มได้
  3. เทใส่แก้ว ด้วยการกรองด้วยตะแกรงหรือผ้าขาวบาง
  4. เติมน้ำแข็ง หรือผสมกับน้ำโซดาก็ได้หากต้องการ

4. Sweet and Spicy Braised Cabbage

น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์, น้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล

Image Credit : thekitchn.com

กะหล่ำปลีนึ่งราดซอสเผ็ดหวาน เมนูง่ายๆ แต่อร่อยได้สุขภาพ เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนักรวมไปถึงคนกินมังสวิรัติด้วยค่ะ นอกจากทำง่ายยังใช้เวลาไม่นานอีกด้วย

วัตถุดิบ :

  1. น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
  2. กะหล่ำปลีขนาดกลาง 1 หัว ตัดแบ่งเป็น 8 ชิ้น
  3. แครอทขนาดกลางขูด 1 ลูก
  4. น้ำเปล่า 1 ¼ ถ้วย + น้ำเปล่า 2 ช้อนชา
  5. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ ¼ ถ้วย
  6. น้ำตาล 1 ช้อนชา
  7. ผงพริกป่น ½ ช้อนชา
  8. พริกแดงป่น ½ ช้อนชา
  9. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา

วิธีทำ :

  1. ใส่กะหล่ำปลีลงในหม้อนึ่ง ตามด้วยใส่น้ำมันงาลงไป จากนั้นนึ่งประมาณ 3 นาที
  2. ใส่น้ำเปล่าลงในถ้วย ตามด้วยน้ำส้มสายชู น้ำตาล ผงพริกป่น และพริกแดงป่น คนให้เข้ากัน พักไว้
  3. กลับด้านกะหล่ำปลี เอาด้านที่เป็นสีน้ำตาลขึ้น โรยแครอทด้านบน แล้วนึ่งต่อ 5 นาที
  4. จากนั้นตั้งเตาแล้วนำซอสที่ผสมไว้ใส่ลงในหม้อ ตามด้วยแป้งข้าวโพดและน้ำ 2 ช้อนชา เพื่อให้แป้งละลาย เคี่ยวจนข้นขึ้น
  5.  เมื่อกะหล่ำปลีสุกยกขึ้นใส่จาน แล้วราดด้วยซอสเผ็ดหวาน พร้อมเสิร์ฟ ซึ่งหากใครอยากพลิกแพลงเป็นซอสรสแซ่บ ลองใช้วิธีทําน้ําจิ้มซีฟู้ดกินคู่กันแทนก็ได้ค่ะ

5. Mustard Green Pesto Sandwiches

น้ําส้มสายชู แอปเปิ้ลไซเดอร์, น้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล

Image Credit : cookinglight.com

เมนูอาหารเช้าง่ายๆ แซนด์วิชไข่กับซอสเพสโต้ ที่ใช้ผักใบเขียวแสนอร่อยกับน้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ สามารถทำแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 4 วัน และแช่แข็งได้นานถึงหนึ่งเดือน

วัตถุดิบ :

  1. ผักกาดเขียวปลี หรือ ผัก mustard greens สับ 2 ถ้วย
  2. น้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย + 1 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ
  4. พริกไทยดำสด ¾ ช้อนชา
  5. เกลือ ¼ ช้อนชา
  6. ถั่วเขียวแช่แข็งละลาย 170 กรัม
  7. ชีสพาร์มีซานขูด 1/3 ถ้วย
  8. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  9. ขนมปังมัลติเกรนปิ้ง 4 แผ่น

วิธีทำ :

  1. ผสมผักกาดเขียวปลี น้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย น้ำส้มสายชู พริกไทย ½ ช้อนชา เกลือ ถั่วเขียว และชีส ลงในเครื่องปั่น แล้วปั่นจนเนื้อเนียนละเอียด
  2. ตั้งกระทะ nonstick ด้วยความร้อนสูงปานกลาง ใส่น้ำมันมะกอกที่เหลือลงไปแล้วกลิ้งให้เคลือบทั่วกระทะ
  3. จากนั้นตอกไข่ใส่ลงไป ลดความร้อนเป็นปานกลาง ทอดไข่ดาวจนสุก และโรยพริกไทยที่เหลือลงไป
  4. ทาขนมปังปิ้งแต่ละชิ้นด้วยซอสเพสโต้ และวางท็อปด้านบนด้วยไข่ดาว 1 ฟอง พร้อมเสิร์ฟ

6. Pork Chops with Apple Cider Glaze

น้ําส้มสายชู แอปเปิ้ลไซเดอร์, น้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล

Image Credit : allrecipes.com

 พอร์คชอปเคลือบซอสแอปเปิ้ลไซเดอร์ เมนูอาหารเย็นสุดอร่อย ที่ได้ทั้งความอร่อยและได้ประโยชน์จากน้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ด้วยค่ะ กินคู่กับมันฝรั่งบดหรือริซอตโต้เพื่อปิดท้ายมื้อค่ำแสนสบาย หรือกินคู่กับสลัดโรลก็ได้ สามารถดูวิธีทำน้ำสลัดโรลเพื่อเป็นตัวเลือกมื้ออร่อยได้เลยค่ะ

วัตถุดิบ :

  1. หมูพอร์คช้อปแบบไม่มีกระดูก 6 ชิ้น
  2. เกลือและพริกไทยดำบด เล็กน้อย
  3. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เนย 1 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียมสับ 3 กลีบ
  6. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ ¼ ถ้วย
  7. แอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ถ้วย
  8. มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
  9. โรสแมรี่สับ 1 ช้อนชา
  10. พริกแดง 1 ช้อนชา

วิธีทำ :

  1. ผงปรุงรสหมูด้วยเกลือและพริกไทยดำ
  2. ตั้งน้ำมันและเนยให้ร้อนในกระทะที่มีความร้อนสูงปานกลาง นำหมูลงกระทะและย่างจนเป็นสีน้ำตาลทั้งสองด้าน ประมาณด้านละ 5-7 นาที จากนั้นตักใส่จานพักไว้
  3. ตั้งกระทะไฟแรงปานกลาง ใส่กระเทียมลงไป ตามด้วยน้ำส้มสายชู เพิ่มแอปเปิ้ลไซเดอร์และมัสตาร์ดตามลงไป
  4. จากนั้นเคี่ยวส่วนผสมจนกลายเป็นซอสข้นประมาณ 3-4 นาที ใส่โรสแมรี่และพริกแดงลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำ
  5. ตักซอสราดลงบนเนื้อหมูพร้อมเสิร์ฟ

7. คอมบูฉะ

น้ําส้มสายชู แอปเปิ้ลไซเดอร์, น้ําส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล

Image Credit : allrecipes.com

มาทำเครื่องดื่มที่ทันสมัยที่สุดในตอนนี้อย่างคอมบูฉะ ด้วยการใช้โซดา ขิงบด น้ำมะนาว น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ และบลูเบอร์รี่กันค่ะ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดื่มได้ทุกวันดีทุกวัน

วัตถุดิบ :

  1. บลูเบอร์รี่แช่แข็งปริมาณตามชอบ
  2. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ½ ช้อนชา
  3. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  4. ขิงบด ½ ช้อนชา
  5. โซดา 1 กระป๋อง
  6. น้ำแข็งก้อน

วิธีทำ :

  1. วางบลูเบอร์รี่ลงในแก้ว จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำมะนาว และขิงลงไป
  2. ใส่โซดาลงไปผสม คนให้เข้ากัน
  3. เติมน้ำแข็งลงไปตามต้องการ พร้อมดื่มเพิ่มความสดชื่น
Inspire Now ! : นอกจากเราจะใช้น้ําส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ในการปรุงอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ แล้วนั้น เรายังสามารถนำมาหมักเนื้อได้อีกด้วย เพราะนิยมในการหมักสเต็กเนื่องจากทำให้เนื้อมีรสหวานอมเปรี้ยว และมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น และหากต้องการนำมาปรุงอาหารให้ได้ประโยชน์มากขึ้น แนะนำให้เลือกใช้ที่เขียนข้างขวดด้วยว่า “the mother” เพราะจะมีโปรตีนธรรมชาติที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพแบคทีเรียที่ดีและกรดอะซิติกอีกด้วยค่ะ

DIY INSPIRE NOW  ให้ฉันตามเทรนด์อาหารสุขภาพได้ไม่ยากใช่ไหม ? มาทำเมนูสุดอร่อยเพื่อสุขภาพเหล่านี้กันดีกว่า และอย่าลืมเอามาแชร์กันบ้างนะคะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : thekitchn.com, cookinglight.com, allrecipes.com, foodiewithfamily.com, integrisok.com

Featured Image Credit : freepik.com/rawpixel.com

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW