ชวนมาดู ภาคเหนืออาหาร ต้องลอง 5 เมนู ที่คุณอาจไม่เคยรู้จัก พร้อมวิธีทำ

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนที่ชื่นชอบในการกินนะคะ มีใครในที่นี้ชื่นชอบการกินอาหารท้องถิ่นกันบ้างมั้ยเอ่ย? หลายคนอาจเคยไปเที่ยวจังหวัดพะเยาหรือเชียงใหม่ และอาจจะได้ลองแค่น้ำพริกหนุ่มหรือแคปหมู แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูว่า ภาคเหนืออาหาร นั้นยังมีอาหารที่น่าสนใจอีกเยอะ ที่สำคัญคืออร่อยและเป็นอาหารเหนือแปลกๆ ที่ชวนลิ้มรสอย่างแน่นอน อย่างนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปทำความรู้จักกันเลยค่ะ

เที่ยว ภาคเหนืออาหาร หลากหลายต้องลองชิมกับ 5 เมนูแนะนำ

• แกงผักเซียงดาปลาย่าง

Image Credit: th.tripadvisor.com

 มาภาคเหนืออาหารเมนูแรกที่แนะนำ คือ แกงผักเซียงดาปลาย่าง นั่นเอง ชื่อผักอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักแต่รับรองว่าให้คุณประโยชน์แน่นอน เพราะผักเซียงดาเป็นผักพื้นบ้านที่มีมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด 

แกงผักเซียงดาหรือแกงผักเซง มีวิธีการแกงเช่นเดียวกับแกงผักหวานบ้านและแกงผักหวานป่า แต่ไม่ได้ใส่วุ้นเส้น ส่วนใหญ่จะนิยมใส่ปลาย่างหรือปลาแห้ง  บางสูตรแกงร่วมกับผักเสี้ยว ผักชะอมและผักฮวนหมู ด้วย

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

1. ผักเซียงดา 100 กรัม
2. ปลาแห้ง/ย่าง (แกะเอาแต่เนื้อ) 50 กรัม
3. มะเขือเทศ (ลูกเล็ก) 5 ลูก
4. เครื่องแกง
5. พริกแห้ง 5 เม็ด
6. กระเทียม 1 หัว
7. หอมแดง 5 หัว
8. กะปิ ¼ ช้อนชา
9. เกลือป่น ¼ ช้อนชา

วิธีทำ

1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ต้มน้ำ พอเดือด ละลายเครื่องแกงในน้ำเดือด
3. ใส่ปลาแห้ง ต้มจนปลานุ่ม
4. ใส่ผักเซียงดา ตามด้วยมะเขือเทศ พอผักสุก ปิดไฟ

เคล็ดไม่ลับ : ไม่ควรแกงนาน เพราะเป็นผักใบอ่อน และควรกินในขณะที่แกงร้อน จะอร่อยมากขึ้น

• ตำมะโอ

Image Credit: www.thaifoodheritage.com

เที่ยวภาคเหนืออาหารแนะนำนอกจาก น้ำพริกหนุ่ม ยังมี ตำส้มโอ ตำมะโอหรือตำบ่าโอ ในภาษาเหนือ เป็นตำรับอาหาร ที่มีวิธีการปรุง ที่เรียกว่า ตำ คือการนำเอาส่วนผสม คือส้มโอมาโขลกรวมกับเครื่องปรุง คลุกเคล้าให้เข้ากัน ถ้าชอบน้ำปู ใส่น้ำปูลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ บางสูตรจะนิยมใส่ผักชีด้วย

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

1. พริกขี้หนู 5 เม็ด
2. กระเทียม 1 หัว
3. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
4. ส้มโอ 260 กรัม
5. น้ำตาลปี๊ป ½ ช้อนชา
6. น้ำปู ½ ช้อนชา
7. มะเขือเปราะซอย 2 ช้อนโต๊ะ
8. ผักชีฝรั่งซอย  1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.  โขลกกระเทียม พริกขี้หนู พอแตก
2.  ใส่น้ำตาลปี๊ป น้ำปู โขลกให้เข้ากัน
3.  ใส่ส้มโอลงโขลกเบาๆ และคลุกเคล้าให้เข้ากัน
4.  ใส่ตะไคร้ซอย
5.  ใส่มะเขือเปราะซอย
6.  ผักชีฝรั่งโรยบางๆ โรยหน้า

เคล็ดไม่ลับ : โขลกเครื่องปรุงให้เข้ากันก่อน จึงใส่ส้มโอลงไป เน้นโขลกๆ เบา เพราะถ้าโขลกแรงน้ำส้มโอจะออกมามาก และควรเลือกผลส้มโอที่แก่จัด จะได้ไม่มีรสขมนะ

[affegg id=3943]

• คั่วเห็ดเผาะ

Image Credit: www.archives.mju.ac.th

อาหารเหนือแปลกๆ เมนูที่สามที่แนะนำ คือ คั่วเห็ดเผาะ หรือเห็ดถอบ เป็นเห็ดที่ชาวเหนือมักนิยมรับประทาน และมีราคาค่อนข้างสูงเพราะหากินได้แค่ฤดูฝนเท่านั้น มีหลายตำราอาหารที่ใช้เห็ดเผาะเป็นส่วนผสม เช่น คั่วเห็ดเผาะ ต้มเห็ดเผาะกับน้ำพริกข่า แกงเห็ดเผาะ ห่อนึ่งเห็ดเผาะ

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

1. เห็ดเผาะ 140 กรัม
2. เนื้อหมูบด 80 กรัม
3. ยอดมะขาม 10 กรัม
4. น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
5. เครื่องแกง
6. พริกแห้ง 3-5 เม็ด
7. กระเทียม 3-5 กลีบ
8. หอมแดง 2 หัว
9. กะปิ ½ ช้อนชา
10. น้ำปลา ½ ช้อนชา

วิธีทำ

1. ล้างเห็ดเผาะให้สะอาด หั่นบางๆ
2. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด 
3. ผัดเครื่องแกงกับน้ำมัน จนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูบด
4. ใส่เห็ดเผาะผัดลงให้สุก
5. ใส่ยอดมะขาม แล้วผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ

เคล็ดไม่ลับ : ถ้าเกิดใครไม่ชอบเปรี้ยว ใส่ใบมะกรูดซอย แทนยอดมะขามอ่อนได้นะ นอกจากนี้ยังทำให้มีกลิ่นหอมด้วย ส่วนการเลือกเห็ดเผาะ ควรเลือกเห็ดอ่อน เมื่อผ่าดูด้านในจะเห็นเป็นสีขาว

[affegg id=3944]

• น้ำพริกอีเก๋

Image Credit: www.youtube.com/อร่อยแบบบ้านๆ channel

ทางภาคเหนืออาหาร มีมากมาย ชื่อแปลกๆ ก็เยอะ อย่างเช่นเมนูที่สี่อย่าง น้ำพริกอีเก๋ นี้ เป็นอีกเมนูที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงใช้ชื่อนี้ บ้างก็ว่าเป็นชื่อคนตำคนแรก แต่เราก็ไม่แน่ใจถึงความเป็นมาจริงๆ ของชื่อน้ำพริกอีเก๋

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

1. พริกขี้หนูสวน 5 เม็ด
2. กระเทียม 3-4 กลีบ
3. มะเขือขื่น 2 ลูก
4. กะปิ ¼ ช้อนชา
5. แคบหมู 50 กรัม
6. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
8. น้ำปลาร้าต้มสุก ¼ ช้อนชา
9. ตะไคร้หั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. โขลกพริกขี้หนู กระเทียมและกะปิ รวมกันให้ละเอียด
2. ใส่แคบหมู โขลกรวมกัน
3. ใส่น้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำปลาร้า คนให้เข้ากัน
4. ใส่มะเขือขื่น ตะไคร้หั่นฝอย ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดไม่ลับ : ควรเลือกมะเขือขื่นที่มีสีเหลือง จะได้เพิ่มสีสันให้กับน้ำพริก และควรใช้พริกขี้หนูสวน ในการปรุง จะทำให้น้ำพริกมีกลิ่นหอมมากขึ้น

[affegg id=3945]

• ส้าปลี

Image Credit: www.maeban.co.th

มาถึงภาคเหนืออาหารที่ต้องลองอีกเมนู คือ ส้าปลี ชื่ออาจไม่คุ้นหูแต่มีคุณประโยชน์ในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดแถมรสชาติยังมีเอกลักษณ์แน่นอน ซึ่ง ส้าปลี คือการนำเอาหัวปลีเนื้ออ่อนมาหั่นแช่เกลือ บีบน้ำให้แห้ง แล้วน้ำมาคลุกเคล้ากับเครื่องแกงผัดกับหมูสับ

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

1. หัวปลี 140 กรัม
2. เนื้อหมูบด 80 กรัม
3. หอมแดง (ซอย) 1 ช้อนโต๊ะ
4. กระเทียม (สับ) 1 ช้อนชา
5. น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
6. ถั่วลิสงคั่ว 10 เม็ด
7. เครื่องแกง
8. พริกขี้หนู (แห้ง) 15 เม็ด
9. กระเทียม 3 หัว
10. หอมแดง 5 หัว
11. ข่า (หั่น) 3 หัว
12. ตะไคร้ (ซอย) 1 ช้อนโต๊ะ
13. กะปิ ¼ ช้อนชา
14. ปลาร้าต้มสุก ¼ ช้อนชา
15. เกลือ ¼ ช้อนชา

วิธีทำ

1. แกะเปลือกหัวปลีออกให้เหลือแต่เนื้ออ่อน แล้วหั่นฝอยแช่น้ำเกลือ และหั่นมะนาวครึ่งลูก แช่พักไว้
2. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
3. เจียวกระเทียมพอเหลือง ใส่เครื่องแกงผัดให้หอม
4. ใส่หมูสับ ผัดให้หมูสุก ตักใส่ชาม พักให้เย็น
5. ล้างหัวปลี บีบให้สะเด็ดน้ำ นำมาคลุกเคล้ากับส่วนผสมให้เข้ากัน
6. ใส่หอมแดงซอย ถั่วลิสงคั่วป่น โรยด้วยผักชีต้นหอมซอย

เคล็ดไม่ลับ : เมื่อผัดเครื่องแกงเสร็จแล้ว ต้องพักไว้ให้เย็น แล้วค่อยใส่หัวปลี จะทำให้ส้าปลีมีสีสวยมากขึ้น

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้ไอเดียของกินใช่หรือเปล่า? เชื่อว่านอกจากสุขภาพจิตที่ดีแล้วนั้น สุขภาพกายก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อนๆ มีเมนูอาหารเหนือแปลกๆ สามารถแชร์กันได้นะคะ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : หนังสือ 99 เมนูสุขภาพ ผักพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา