ชวนเที่ยว เทศกาลในญี่ปุ่น 8 ภูมิภาค สายโลคอล สนใจวัฒนธรรมต้องไม่พลาด !
ชวนเที่ยว เทศกาลในญี่ปุ่น 8 ภูมิภาค สายโลคอล สนใจวัฒนธรรมต้องไม่พลาด !
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่รุ่มรวยไปด้วยวัฒนธรรมและปรัชญาการใช้ชีวิตที่มีความเฉพาะพิเศษของตัวเอง ทั้งยังมีประเพณีสำคัญต่างๆ ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และบางประเพณีวัฒนธรรมนั้น ถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบของเทศกาลสำคัญต่างๆ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสถึงวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตของชาวดินแดนอาทิตย์อุทัย ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลชมซากุระอันโด่งดังในช่วงเดือนเมษายน หรือเทศกาลหิมะซัปโปโรที่ฮอกไกโด มาสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นให้มากขึ้นผ่านการเที่ยวชม เทศกาลในญี่ปุ่น ทั้ง 8 ภูมิภาคกันเลยค่ะ
สำรวจ เทศกาลในญี่ปุ่น ทั้ง 8 ภูมิภาค ชวนสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นให้มากกว่าที่เคย !
เหตุผลของการไปญี่ปุ่นของใครหลายๆ คนอาจจะแตกต่างกันไป บางคนอยากไปเพราะตั้งใจจะไปกินอาหารญี่ปุ่นแบบโลคอลต้นตำรับแท้ๆ บางคนอยากไปให้ครบทั้ง 47 จังหวัดในญี่ปุ่น บางคนอยากไปเพราะจะไปตามรอยหนัง – การ์ตูนแอนิแมะที่เคยดูตั้งแต่เด็กๆ บางคนอยากไปเพราะหลงใหลในความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ บางคนอยากไปสัมผัสกับวัฒนธรรมประเพณีให้ลึกซึ้งมากขึ้น โดยเฉพาะการไปเที่ยวในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่จะทำให้ได้สัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และหลายๆ เทศกาลนั้นก็จัดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น ในแต่ละภูมิภาคก็มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย ความพิเศษจึงอยู่ตรงที่ว่า เราสามารถไปเที่ยวตามเทศกาลต่างๆ อย่างไม่ซ้ำกันได้ทั้ง 8 ภูมิภาคเลยทีเดียว เทศกาลญี่ปุ่น ในแต่ละภูมิภาคจะมีอะไรบ้าง ไปสำรวจกันเลยค่ะ
ภูมิภาค Hokkaido
1. เทศกาลหิมะซัปโปโร
ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวละก็ จะพลาดเทศกาลหิมะที่ซัปโปโรไปได้อย่างไร เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลสุดฮิตที่ทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องมาเยือนยังซัปโปโรเพื่อชมประติมากรรมน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่แกะสลักจากหิมะและก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมา ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรมน้ำแข็งรูปสถานที่สำคัญต่างๆ ในโลก หรือแกะสลักเป็นรูปต่างๆ จากการ์ตูนมังงะ โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่จะสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษจากไฟหลากสีสัน ทำให้ประติมากรรมน้ำแข็งดูสวยงามอลังการมากขึ้นอีกหลายเท่า
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดิน Sapporo มาลงที่สถานี Odori ก็จะถึงที่จัดงาน
แผนที่ :
THE NORTH FACE M SNOW DOWN TRI JACKET-AP เสื้อกันหนาวสองชั้น ตัวด้านในเป็นขนห่าน
2. เทศกาลฮาโกดาเตะโค
ชื่อของเทศกาลฮาโกดาเตะโค อาจไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่นัก แต่เป็น เทศกาลในญี่ปุ่น ที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ โดยจะจัดขึ้นที่เมืองฮาโกดาเตะ ภูมิภาคฮอกไกโด ช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี โดยจะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟกว่าหมื่นลูกบริเวณท่าเรือ รับประกันความอลังการตระการตา ใครที่ชอบการดูดอกไม้ไฟจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน ตามด้วยการชมขบวนพาเหรดและการแสดงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากของกินขึ้นชื่อของเมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งก็คือปลาหมึกนั่นเอง เรียกกันว่า การแสดงรำวงปลาหมึก และนักท่องเที่ยวเองก็สามารถร่วมสนุกไปกับคนในท้องถิ่นได้ด้วยการร่วมรำวงปลาหมึกในขบวนพาเรด เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลสุดครึกครื้นเลยล่ะค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : วันที่ 1 – 5 สิงหาคมของทุกปี
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานีฮาโกดาเตะ และเดินเท้าอีก 5 นาที
แผนที่ :
LocknLock แก้วเก็บความร้อน-เย็น รุ่น Lip tumbler LHC4164
ภูมิภาค Tohoku
1. เทศกาลเนบูตะ
เทศกาลญี่ปุ่นเนบูตะในเมืองอาโอโมริ เป็นเทศกาลแห่โคมไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุเลยทีเดียว โดยจะมีขบวนพาเหรดที่แห่ตุ๊กตาคาบูกิไซส์ยักษ์ พร้อมกับการแสดงของนักเต้นรำ ซึ่งเป็นเทศกาลที่จัดช่วงฤดูร้อน แสดงถึงความมีชีวิตชีวาในยามค่ำคืนของญี่ปุ่น ภายในงานจะมีโชว์โคมไฟรูปซามูไรขนาดใหญ่ มีการแสดงกลองไทโกะ พร้อมด้วยการเต้นรำอย่างสนุกสนาน โดยขบวนพาเรดนี้จะแห่ไปรอบใจกลางเมืองเป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตรทุกๆ คืน อันเป็นการเฉลิมฉลองการได้รับชัยชนะในสงครามสมัยก่อน และในวันสุดท้ายจะมีการแสดงดอกไม้ไฟอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเป็นการปิดเทศกาลอย่างสมบูรณ์ ใครไปญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อนก็สามารถไปเยี่ยมชมขบวนพาเรดกันได้นะคะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : วันที่ 2 – 7 สิงหาคมของทุกปี
การเดินทาง : สถานที่จัดงานเทศกาลเนบุตะจะอยู่บริเวณถนนชินมาจิ ฝั่งทิศตะวันออก จากสถานีรถไฟอาโอโมริ ของ JR หากขึ้นจากสถานีโตเกียว ให้ขึ้นชินคันเซ็นขบวนฮายุบุซะ ที่มุ่งหน้าไปยังชินฮาโกดาเตะโฮคุโตะ ลงที่สถานีชินอาโอโมริ และเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายโออุ ขบวนที่มุ่งหน้าไปอาโอโมริ ลงที่สถานีปลายทางอาโอโมริ
แผนที่ :
AMERICAN TOURISTER กระเป๋าเดินทางล้อลาก ขนาด(28นิ้ว) รุ่น LINEX SPINNER 77/28 TSA
4. เทศกาลทานาบาตะ
ความจริงแล้ว เทศกาลทานาบาตะมักจะจัดขึ้นทั่วประเทศในญี่ปุ่น แต่เราขอแนะนำเทศกาลเซนไดทานาบาตะ ที่จัดขึ้นในเมืองมิยางิ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดองภูมิภาคโทโฮคุเลยทีเดียว โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมความงดงามตระการตาของการจัดร้านรวงอาคารสถานที่ ทั้งโคมไฟและไฟประดับประดาอย่างสวยงาม มีกิจกรรมให้ทำของตกแต่งวันทานาบาตะ หรือเที่ยวชิมของอร่อยตามซุ้มอาหารที่เป็นอาหารท้องถิ่นขนานแท้ ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ การชมพลุดอกไม้ไฟซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของเทศกาล
เทศกาลทานาบาตะขึ้นชื่อว่าเป็นเทศกาลโรแมนติกของคนญี่ปุ่น เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเทศกาลดวงดาว มาจากตำนานเรื่องเล่าหญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัว นิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น ในช่วงเทศกาลจะมีการเขียนคำอธิษฐานต่างๆ บนกระดาษหลากสีสัน และนำไปแขวนประดับกิ่งไม้ไผ่เพื่ออธิษฐานขอพรจากดวงดาวโอริฮิเมะ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้คำอธิษฐานเป็นจริง เป็นอีกหนึ่งเทศกาลในญี่ปุ่นที่ต้องไปให้ได้สักครั้งค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : เดือนกรกฎาคม – สิงหาคมของทุกปี
การเดินทาง : หากเดินทางโดยรถไฟ ให้นั่งรถไฟโทโฮคุชินคังเซ็นไปยังสถานีเซนไดจากโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
แผนที่ :
หัวแปลงปลั๊กไฟ ใช้ได้ทั่วโลก International Travel Adapter 2 USB Ports อะแดปเตอร์การเดินทาง
ภูมิภาค Kanto
1. เทศกาลซันจะ
เทศกาลในญี่ปุ่น ที่ยิ่งใหญ่อีกเทศกาลหนึ่งก็คือ เทศกาลซันจะ หรือเทศกาลเฉลิมฉลองศาลเจ้าอาซากุสะ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่ศาลเจ้าอาซากุสะ กรุงโตเกียว เป็นประเพณีที่มีมานานกว่า 700 ปีแล้ว ซึ่งเทศกาลนี้ จัดขึ้นเพื่อบูชาดวงวิญญาณของบุรุษสามรายที่ได้พบพระพุทธรูป และนำเอาพระพุทธรูปองค์นั้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดเซ็นโซจิ อันเป็นการส่งเสริมพุทธศาสนาในญี่ปุ่น ส่วนงานเทศกาลที่จัดขึ้นในปัจจุบันนั้น มีต้นกำเนิดในสมัยเอโดะ โดยโชกุนโทคุงาวะ อิเอมิตสึ ได้สั่งให้สร้างศาลเจ้าอาซากุสะรอบๆ วัดเซ็นโซจิเพื่อถวายบูชาแก่ดวงวิญญาณของผู้ก่อตั้งวัดเซ็นโซจิทั้ง 3 ท่าน
ในช่วงเทศกาลจะมีการแห่ขบวนแสดงศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างมากมาย มีการแสดงระบำบินซาซาระที่ศาลเจ้าอาซากุสะเพื่อขอพรให้มีความเจริญรุ่งเรืองและเก็บเกี่ยวพืชพรรณได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ ขบวนหาบเกี้ยวขนาดใหญ่ 3 เกี้ยวจากศาลเจ้าอาซากุสะในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเช้า ซึ่งเกี้ยวทั้ง 3 จะถูกหาบเดินขบวนรอบแขวงอาซะกุสะ ก่อนจะนำกลับมาที่ศาลเจ้าดังเดิม เป็นอีกหนึ่งเทศกาลในญี่ปุ่นที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมประเพณีแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงสถานี Asakusa โดยใช้รถไฟใต้ดินสาย Ginza หรือสาย Tsukuba Express มายังศาลเจ้าอาซากุสะ
แผนที่ :
Skechers สเก็ตเชอร์ส กระเป๋าสะพายยูนิเซ็กส์ Unisex Sling Bag – SKCH7782-BLK
6. เทศกาลดอกไม้ไฟ โตเกียว
อีกหนึ่งเทศกาลในญี่ปุ่นที่ต้องไปเห็นให้ได้สักครั้งก็คือ เทศกาลดอกไม้ไฟในโตเกียว ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเองจะพากันมาชมดอกไม้ไฟที่สวนริมทะเลโอไดบะ ซึ่งเป็นดอกไม้ไฟสไตล์ยุคเอโดะ ผสมผสานไปด้วยความทันสมัยและกลิ่นอายดั้งเดิมของประเพณีในสมัยก่อน รับรองว่าโชว์ดอกไม้ไฟนี้จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก นอกจากความงดงามของดอกไม้ไฟนับหมื่นลูกแล้ว ยังได้สัมผัสความตื่นตาตื่นใจจากดนตรีประกอบที่เพิ่มความอลังการให้กับโชว์ดอกไม้ไฟสุดพิเศษนี้ด้วย ใครที่รักการดูดอกไม้ไฟจะต้องห้ามพลาดค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : ในเดือนสิงหาคมของทุกปี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟ JR Yamanote Line หรือ Ueno – Tokyo Line แล้วลงสถานี Shimbashi ต่อด้วยรถไฟ Yurikamome Shimbashi Station ลงสถานี Odaiba – kaihinkoen เพื่อไปยังสวนริมทะเลโอไดบะ
แผนที่ :
[ลิขสิทธิ์แท้] KEEN Uneek shoes รองเท้าผ้าใบ แฟชั่น ญรองเท้าผู้หญิง
ภูมิภาค Chubu
1. เทศกาลโครังเคโมมิจิ
ภูมิภาคชูบุนั้น ก็มีเทศกาลที่น่าสนใจหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีในหุบเขาโครังเค เมืองโตโยต้า จังหวัดไอจิ เรียกกันว่า Korankei Momiji Festival เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนั้น ให้ความสำคัญกับฤดูกาลและธรรมชาติมากๆ เมื่อถึงคราวที่มีใบไม้เปลี่ยนสี ก็จัดเป็นเทศกาลอย่างยิ่งใหญ่ ภายในหุบเขาแห่งนี้มีต้นเมเปิ้ลมากกว่า 11 ชนิด และมีมากกว่า 4,000 ต้น เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ใบเมเปิ้ลจะมีสีส้มไปทั่วทั้งหุบเขา แซมด้วยสีเหลืองและสีทอง จุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือ สะพานสีแดงข้ามแม่น้ำ ซึ่งจะได้เห็นทัศนียภาพอันสวยงาม เห็นใบเมเปิ้ลสีส้มสีทองไปทั่วทั้งหุบเขา ถ้าใครชอบช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นพิเศษ หวังจะได้เห็นภาพทิวทัศน์อันงดงามตระการตาในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้องมาเที่ยวที่เทศกาลโครังเคโมมิจิให้ได้ค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : ช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Nagoya แล้วนั่งรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama ไปลงที่สถานี Fushimi จากนั้นเปลี่ยนไปขี้นรถไฟใต้ดินสาย Tsurumai ไปลงที่สถานี Toyota – shi และนั่งรถ Meitetsu Bus Yamani Line ไปลงที่ป้าย Korankei ก็จะถึงที่หมาย
แผนที่ :
Fujifilm instax mini Evo (Film Camera) [กล้องฟิล์ม] – ประกันศูนย์
2. เทศกาลไฟประดับนาบานาโนะซาโตะ
เทศกาลไฟประดับในฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่อลังการแห่งเมืองมิเอะ จัดในสวนดอกไม้ที่มีชื่อว่า Nabata no sato ใครเป็นสายถ่ายรูปไฟสวยๆ ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ ไฮไลท์อยู่ที่อุโมงค์ประดับไฟสีทองทอดยาวกว่า 200 เมตร เป็นจุดที่ทุกคนต้องมาถ่ายภาพให้ได้ อีกจุดหนึ่งก็คือ การประดับประดาไฟเป็นรูปภูเขาไฟฟูจิ เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ภายในเทศกาลยังมีดอกไม้ให้ชมอีกด้วย ทั้งดอกทิวลิป ดอกบ๊วย ดอกกุหลาบ ดอกซากุระ ไฮเดรนเยีย ฯลฯ ซึ่งในบริเวณสวนดอกไม้นั้นก็ประดับประดาด้วยไฟหลากสีสัน ส่องแสงในค่ำคืนอย่างดงาม ดูระยิบระยับคล้ายกับดวงดาวบนท้องฟ้าเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเองตั้งตารอในทุกๆ ปีค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : ช่วงตุลาคม – พฤษภาคม
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี Nagoya จากนั้นขึ้นรถบัสที่ Meitetsu Bus Center มาลงที่สวนจัดแสดงงาน
แผนที่ :
Skechers สเก็ตเชอร์ส รองเท้าผู้หญิง Women Online Exclusive On-The-GO Flex Shoes
ภูมิภาค Kansai
1. เทศกาลโยอิมิยะ และโมโตมิยะ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ
ภาพอุโมงค์เสาโทริอิสีแดง เป็นภาพจำของศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริในเกียวโตของใครหลายคน ทั้งยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้สักครั้ง ซึ่งในช่วงฤดูร้อน ที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีการจัดเทศกาลญี่ปุ่นโยอิมิยะและโมโตยะขึ้น อันเป็นเทศกาลแห่งการบูชาเทพเจ้าอินาริ เทพเจ้าแห่งการเพาะปลูกและการค้า และในตลอดช่วงเทศกาลนั้นจะมีการประดับตกแต่งศาลเจ้าไปจนถึงอุโมงค์เสาโทริอิด้วยโคมไฟอย่างงดงาม ทั้งยังมีลานเต้นรำวงบงโอโดริบริเวณหน้าศาลเจ้า ซึ่งผู้ที่มาเยี่ยมชมเทศกาลแห่งนี้จะได้เห็นการแสดงพื้นเมืองโดยเฉพาะ ทั้งยังมีการออกร้านรวงขายของและขายอาหารท้องถิ่นมากมาย เป็นเทศกาลที่สามารถร่วมสนุกได้ทุกเพศทุกวัย พร้อมได้สัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟ JR สายนาราแล้วไปลงที่สถานี Inari ซึ่งศาลเจ้าจะตั้งอยู่หน้าสถานี Inari หรือขึ้นรถไฟสายเคฮันไปลงที่สถานี Fushimi Inari แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที ก็จะถึงที่หมาย
แผนที่ :
พัดลมพกพา พัดลมมือถือ พัดลมพกพาของแท้ พัดลมแบบแขวนคอกีฬากลางแจ้ง
2. เทศกาลเท็นจิน
เทศกาลเท็นจิน จัดขึ้นที่เมืองโอซาก้า ซึ่งเทศกาลนี้ ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเลยทีเดียว อันเป็นเทศกาลประจำศาลเจ้าเท็นมังกู ศาลเจ้าสำคัญประจำเมืองโอซาก้า จัดขึ้นเพื่อบูชาและเฉลิมฉลองให้กับเทพเจ้าสุงาวาระ มิจิซาเนะ ซึ่งชาวดินแดนอาทิตย์อุทัยให้ความเคารพบูชาในฐานะเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ (หรือเทพเจ้าแห่งปัญญา) ภายในเทศกาลเต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ ใครอยากมาสัมผัสกับวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นจะต้องมาเทศกาลนี้ให้ได้ มีทั้งการจัดพิธีบวงสรวงเทพเจ้า ทั้งยังมีขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ที่มีคนมาร่วมขบวนมากถึง 3 พันคน มีการอัญเชิญดวงวิญญาณเทพเจ้าไปตามท้องถนนในเมืองโอซาก้า และไปสิ้นสุดที่แม่น้ำโอกะวะ หลังจากนั้นจะมีการจุดดอกไม้ไฟหลายพันดวงเพื่อปิดเทศกาล ใครอยากชมความยิ่งใหญ่ของเทศกาลนี้ ก็ไปเที่ยวที่โอซาก้ากันได้นะคะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : ทุกวันที่ 24 – 25 กรกฎาคมของทุกปี
การเดินทาง : สามารถเดินทางไปบริเวณที่จัดงานด้วยรถไฟและแท็กซี่ หากเป็นรถไฟ JR ให้ลงที่สถานีโอซาก้าเท็นมังกู และสถานีมินามิ – โมริมาจิบนเส้นทางรถไฟใต้ดินสายทานิมาจิและซาไคสึจิ
แผนที่ :
รองเท้าสกอลล์-เมโลเดีย Melodia รองเท้ารัดส้น ผู้หญิง รองเท้าสุขภาพ นุ่มสบาย กระจายน้ำหนัก
ภูมิภาค Chugoku
1. เทศกาลมิฮะระ ยัสสะ
เทศกาลมิฮะระ ยัสสะ ในฮิโรชิมา เป็นเทศกาลโบราณที่มีมานานกว่า 400 ปี เป็นเทศกาลเต้นรำช่วงฤดูร้อนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยเทศกาลนี้ จะจัดขึ้นที่หน้าสถานนีมิฮะระในช่วงวันหยุดโอะบง โดยจะมีนักเต้นมากกว่า 6,000 คนมาเต้นรำแบบโบราณที่เรียกกันว่า การเต้นรำยัสสะ ซึ่งเป็นการเต้นรำที่มีมาแต่ดั้งเดิม โดยขบวนเต้นรำจะจัดขึ้นในวันศุกร์แล้วก็วันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์จะเป็นการแสดงดอกไม้ไฟ และในช่วงเทศกาลยังมีการจำหน่ายอาหารท้องถิ่นมากมาย โดยการเบิดร้านเรียงรายไปตามถนน เป็นเทศกาลที่สนุกสนานแล้วก็มีเอกลักษณ์มากๆ ค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : กลางเดือนสิงหาคม
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปลงที่สถานี Mihara โดยใช้สาย Sanyo Main Line/Kure Line/Sanyo Shinkansen
แผนที่ :
มหานคร x สมใจ หมวกทรงบักเก็ต Pencil Loop ขนาด 59 ซ.ม.
2. เทศกาลดอกไม้แห่งฮิโรชิมา
เทศกาลดอกไม้ เป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮิโรชิม่า รู้จักกันในชื่อ Hiroshima Flower Festival จัดขึ้นที่สวนสันติภาพในเมืองฮิโรชิมา เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยความงดงามของดอกไม้นานาชนิด มาพร้อมกับความสนุกสนานที่เต็มไปด้วยเสียงเพลง มีขบวนพาเรดดอกไม้และมีการแสดงกว่า 30 เวที ทั้งการเต้นรำประเภทต่างๆ เช่น การเต้นรำพื้นบ้านคากุระ การเต้นโยซาโกย แล้วก็มีการแสดงคอนเสิร์ตภายในงานอีกด้วย ทั้งนี้ จุดประสงค์หลักของการจัดเทศกาลนี้ขึ้นมา ก็เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูช่วงสงครามโลกทั้งที่ 2 และเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้มนุษย์เราเห็นถึงความสำคัญของสันติภาพอีกด้วย
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : 3 – 5 พฤษภาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟฮิโรชิม่า ให้ต่อรถรางสาย 2 หรือสาย 6 ไปลงที่สถานี Gengaku – Domu mae ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
แผนที่ :
Fujifilm Instax Mini Link 2 Smartphone Printer – ประกันศูนย์
ภูมิภาค Shikoku
1. เทศกาลร่ายรำแห่งฤดูร้อน อาวะโอโดริ
เทศกาลร่ายรำแห่งฤดูร้อน อาวะโอโดริ ในจังหวัดโทคุชิมะ เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในจังหวัดโทคุชิมะ ทั้งยังเป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นด้วย มีผู้คนกว่า 1 ล้านคนหลั่งไหลมายังท้องถนนของเมืองโทคุชิมะเพื่อเข้าร่วมงานเต้นรำพื้นบ้านดั้งเดิมนี้ สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้ก็คือ การชมการแสดงของนักเต้นรำกลุ่มเร็น ตื่นตาตื่นใจไปกับฮัปปิ และยูคาตะ เครื่องแต่งกายดั้งเดิมของเหล่านักเต้นที่ได้รับมรดกตกทอดกันมายาวนาน และยังมีเวทีการแสดงอื่นๆ อีกหลายเวที ใครที่ชอบดูการแสดงพื้นบ้านท้องถิ่นของญี่ปุ่น นี่เป็นเทศกาลที่จะทำให้เราได้สัมผัสกับวัฒนธรรมประเพณีแบบดั้งเดิมขนานแท้เลยค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : วันที่ 12 – 15 สิงหาคมของทุกปี
การเดินทาง : หากเดินทางโดยรถไฟ ให้ขึ้นชินคันเซนสายโทไคโดะซันโยมายังสถานีโอคะยะมะ และต่อรถไฟ JR สายเซโตะโอฮาชิโคโตกุมายังสถานีโทคุชิมะ และมีรสบัสด่วนที่ให้บริการจากสถานีโอซาก้าไปยังสถานีโทคุชิมะได้เช่นกัน
แผนที่ :
Skechers สเก็ตเชอร์ส รองเท้าแตะผู้หญิง Women Foamies Cali Breeze 2.0 Royal Texture
2. เทศกาลนิอิฮามะไทโกะ
ตื่นตาตื่นใจไปกับเทศกาลกลองไทโกะแห่งนีฮะมะ หรือ Niihama Taiko Festival เป็นเทศกาลที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ จัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีราวๆ เดือนตุลาคมที่เมืองนีฮะมะ จังหวัดเอะฮิเมะ ในงานจะมีการแห่กลองซึ่งตกแต่งอย่างสวยงามตระการตาเคลื่อนที่ไปรอบเมือง เทศกาลนี้ เรียกกันอีกชื่อว่า โอะโตะโกะมัตสึริ หรือ “เทศกาลของผู้ชาย” เนื่องจากในงานมีไฮไลท์คือ การแข่งขันแบกแท่นกลองซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 3 ตันโดยผู้ชายจำนวนกว่า 150 คน สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก ใครชอบงานเทศกาลที่มีความครึกครื้น เต็มไปด้วงพลังความยิ่งใหญ่อลังการ เทศกาลนี้ก็เป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : ช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี
การเดินทาง : หากเดินทางจากสถานีรถไฟโอคะยะมะ จะต้องขึ้นรถไฟด่วนพิเศษไปลงที่สถานีนีฮะมะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นขึ้นรถหรือต่อรถแท็กซี่ไปยัง Yamane Park สถานที่จัดงาน
แผนที่ :
ชุดลองจอนหญิงกันหนาวบุขน ลองจอนฮีทเทค เสื้อและกางเกงกันหนาว ใส่ติดลบ ลุยหิมะ ผู้หญิง
ภูมิภาค Kyushu
1. เทศกาลชมดอกบ๊วยประจำปีที่ศาลเจ้าดะไซฟุเทมมังกู
มากันที่เทศกาลในญี่ปุ่นของภูมิภาคคิวชู เทศกาลแรกที่อยากจะแนะนำคือ เทศกาลชมดอกบ๊วยนั่นเองค่ะ ในช่วงเดือนมีนาคมนั้น ต้นบ๊วยกว่า 6,000 ต้นในศาลเจ้าจะออกดอกกันอย่างพร้อมเพรียง นับว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของศาลเจ้าแห่งนี้เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยร้านขายของฝากและร้านขนมเรียงรายหน้าทางเข้าดะไซฟุเทมมังกู เช่น ขนมอูเมกาเอะโมจิซึ่งเป็นขนมท้องถิ่นที่ทำจากเค้กข้าวสอดไส้ถั่วแดงหวาน และยังมีการจำหน่ายไอศกรีมหลากรสชาติที่มีขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น อาทิ รสชาเขียว รสงาดำ รสคินาโกะ นอกจากจะได้มาเที่ยวเทศกาลชมดอกบ๊วยแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันยังมีเทศกาลอูเมชู หรือเทศกาลเหล้าบ๊วยที่จัดขึ้นช่วงฤดูดอกบ๊วยบานพอดี ใครที่ตั้งใจจะมาเที่ยวฟุกุโอกะช่วงมีนาคมอยู่แล้ว ก็อย่าลืมมาเที่ยวชมความงดงามของเทศกาลชมดอกบ๊วยกันด้วยนะคะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : ช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี
การเดินทาง : สามารถเดินทางไปดะไซฟุเทมมังกูด้วยบริการขนส่งสาธารณะจากเมืองฟุกุโอกะ ด้วยการขึ้นรถไฟสายนิชิเท็ตสึ – ฟุกุโอกะเท็นจินไปสถานีดะไซฟุ โดยเปลี่ยนสายที่ฟุทสึไคจิ ใช้เวลาเดินจากสถานีดะไซฟุไปดะไซฟุเทมมังกูประมาณ 5 นาที
แผนที่ :
ทรูซิมท่องเที่ยว ทั่วเอเชีย TRUE TRAVEL SIM ASIA Truemove-H
2. เทศกาลโอมุตะไดจะยามะ
ชมขบวนแห่เทพเจ้ามังกรสุดอลังการที่เทศกาลโอมุตะไดจะยามะ ในเขตโอมุตะ ฟุกุโอกะ ไฮท์ไลท์สำคัญของเทศกาลนี้คือ ขบวนแห่เทพเจ้ามังกร “ไดจะยามะ” ที่จัดขึ้นอย่างอลังการ ซึ่งขบวนแห่นั้นมีความยาวมากกว่า 10 เมตร และมีอยู่หลายขบวนจากแต่ละเขต โดยแต่ละขบวนจะมาเดินอวดโฉมความยิ่งใหญ่อลังการพร้อมโชว์พ่นไฟ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ ซึ่งโครงสร้างของขบวนมังกรนั้น ทำจากวัสดุท้องถิ่นธรรมชาติอย่างไม้ไผ่ กระดาษวะชิ หรือฟาง ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ในขบวนยังมีการแสดงเต้นรำประกอบเพลงประจำเทศกาล ที่ผู้เข้าร่วมเทศกาลจะมาต่อแถวและร่วมเต้นรำไปด้วยกัน ซึ่งแถวนั้นมีความยาวถึง 2 กิโลเมตรเลยทีเดียว เรียกว่าเทศกาลแห่เทพเจ้ามังกรนี้ สร้างความครึกครื้นและความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ระยะเวลาในการจัดเทศกาล : ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม โดยจัดขึ้น 2 วัน วันที่ขึ้นอยู่กับแต่ละปี
การเดินทาง : หากเดินทางโดยรถไฟ ให้นั่งรถไฟสาย Kagoshima Main Line มาลงที่สถานี JR Omuta หรือนั่งรถไฟสาย Tenjin – Omuta มาลงที่สถานี Nishitetsu เดินจากสถานีประมาณ 5 นาที ก็จะถึงที่จัดงาน
แผนที่ :
AIS SIM2Fly 5G เอเชียและออสเตรเลีย 6GB 10 วัน ฟรี! เน็ตใช้ในไทย 500MB
Inspire Now ! : นอกจากจะเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ แล้ว หากอยากทำความรู้จักกับประเทศนั้นๆ อย่างถ่องแท้มากขึ้น การมาเที่ยวชมเทศกาลวันสำคัญต่างๆ ก็จะทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมที่มีมาแต่เนิ่นนาน ทำให้ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและความเชื่อของชนชาตินั้นๆ ได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ถ้าใครชอบการท่องเที่ยวแบบเรียนรู้ศึกษาวัฒนธรรมของชนชาติต่างๆ การไปเที่ยวเทศกาลวันสำคัญ ก็ดป็นอะไรที่ห้ามพลาดเลยค่ะ |
---|
DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากออกเดินทางใช่ไหม ? เที่ยวญี่ปุ่นครั้งต่อไป ลองเปลี่ยนเป็นการไปเที่ยวเทศกาลต่างๆ ดูบ้างนะคะ แล้วเราจะทั้งรู้จัก ทั้งหลงรักความเป็นญี่ปุ่นมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน ♡
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : jw-webmagazine.com, timeout.com, japan-guide.com, japan.travel
Featured Image Credit : freepik.com/tawatchai07
Facebook Comments