วิธีคุยกับลูกค้า ออนไลน์ คุยยังไงให้ไม่เสียงาน ดีลงานได้ปัง ได้เงิน ไม่เสียเครดิต !

ในยุคปัจจุบัน วิธีการสื่อสารทางออนไลน์ถือได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นและทำกันอย่างเป็นปกติ ประกอบกับสถานการณ์โรคระบาดที่เคยเกิดขึ้น ทำให้การพูดคุยติดต่อกันทางออนไลน์แพร่หลายเป็นอย่างมาก รวมถึงในสังคมการทำงานหรือการทำธุรกิจที่ใช้ช่องทางการติดต่อแบบออนไลน์เป็นหลัก และแทบจะเป็นปกติในการทำงานประเภท Remote Work หรือการไม่เข้าออฟฟิศ สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีอินเทอร์เน็ตเพื่อที่จะพูดคุยกันได้ เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ หรือใครที่กำลังอยากเริ่มทำธุรกิจ ก็ต้องใช้ วิธีคุยกับลูกค้า ออนไลน์ ด้วยเช่นกัน

ในการคุยกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ บางครั้งก็มักจะมีปัญหาด้านการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน เช่น การสื่อสารผ่านทางข้อความที่ก่อให้เกิดความสับสนได้ ในกรณีที่มีการพิมพ์ประโยคไม่ชัดเจน และการใส่อารมณ์ส่วนตัวเข้าไปขณะการอ่านก็อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน นอกจากปัญหาด้านการสื่อสารหรือการคุยกับลูกค้าแล้ว คนทำธุรกิจหรือคนขายของจะต้องเจอกับปัญหา ลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงิน ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับบริษัทหรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินของธุรกิจเราได้ แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร มาดูกันว่า วิธีคุยกับลูกค้า แบบออนไลน์ และวิธี แก้ปัญหาลูกค้าไม่จ่ายเงินนั้น สามารถทำได้ยังไงบ้าง ?

วิธีคุยกับลูกค้า ออนไลน์ และออฟไลน์ คุยงานยังไง ให้ได้เงิน ?!

ในการคุยงานหรือตกลงทำธุรกิจร่วมกันนั้น มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเกิดกรณีลูกค้าผิดนัดชำระหนี้หรือไม่จ่ายเงินให้กับค่าจ้างของบริษัท รวมถึงการคุยกับลูกค้าในกรณีที่เราขายของออนไลน์ หรือทำธุรกิจออนไลน์ หรือมีช่องทางติดต่อกับลูกค้าทางออนไลน์ เมื่อเกิดการซื้อขายขึ้น ก็อาจจะเกิดปัญหาลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงินได้เหมือนกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขสิ่งที่จะเกิดขึ้น มาดูกันว่า วิธี แก้ปัญหาลูกค้าไม่จ่ายเงินนั้น จะทำอย่างไรได้บ้าง ?

[affegg id=4265]

1. ตั้งมาตรฐานของคุณเอาไว้อย่างชัดเจน

วิธีคุยกับลูกค้า ออนไลน์ อาจก่อให้เกิดความไม่ชัดเจนได้ ในกรณีที่ไม่ได้เจอหน้ากันโดยตรง การติดต่อทางอีเมล หรือทางแอปพลิเคชั่นต่างๆ ผ่านการสื่อสารทางข้อความที่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ ถ้าหากคุณทำธุรกิจแล้วลูกค้าของคุณขอให้แถมนั่นนี่นิดๆ หน่อยๆและเป็นสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในสัญญาหรือตามข้อตกลงเอาไว้ตั้งแต่แรกอาจทำให้คุณหงุดหงิดใจหรือทำกำไรลดลงได้ อีกประการหนึ่งคือ กำหนดเดดไลน์การจ่ายเงินเอาไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่การเซ็นสัญญาหรือตกลงทำธุรกิจกัน แม้ว่าบางครั้งวิธีคุยกับลูกค้า ออนไลน์ อาจทำให้บรรยากาศดูไม่เป็นทางการมากนัก แต่ความจริงแล้ว ต้องมีการพูดคุยกันอย่างให้ชัดเจนไม่ต่างจากการคุยแบบ Face to Face โดยเฉพาะเรื่องข้อกำหนดและเรื่องค่าใช้จ่าย ดังนั้น การตั้งมาตรฐานมาตรฐานเอาไว้อย่างชัดเจน จะเป็นวิธี แก้ปัญหาลูกค้าไม่จ่ายเงินได้

2. อย่ากลัวที่จะบอกปฏิเสธ

ถึงแม้ว่าวิธีคุยกับลูกค้า ออนไลน์ เช่น ทาง inbox ของเพจ จะชวนให้มีบรรยายกาศไม่เป็นทางการมากนัก และลูกค้ามักมีคำถามบ่อยๆ หากใครที่เคยขายของออนไลน์หรือเคยเป็นแอดมินมาก่อนจะต้องเจอกับคำถามเหล่านี้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคำถามเกี่ยวกับสินค้า ขอดูรีวิวสินค้า ขอดูภาพถ่ายจากสินค้าของจริง ไปจนถึงขอส่วนลด ขอ gitf voucher ต่างๆ ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะวิธีคุยกับลูกค้า ออนไลน์นั้น การถามหลายคำถามก็เป็นการสร้างความเข้าใจที่ตรงกันให้กับทั้งตัวคนขายและตัวลูกค้าเอง

แต่ถ้ามีกรณีที่ว่า ขอส่งสินค้าให้ก่อนแล้วชำระเงินภายหลัง  อันนี้อาจจะต้องระวังค่ะ ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจและคุยกับลูกค้าโดยตรงก็สามารถบอกปฏิเสธได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้ามีพนักงานที่คอยตอบคำถามลูกค้าหรือคุยกับลูกค้าอยู่แล้ว ก็อาจจะต้องชี้แจงพนักงานไว้ล่วงหน้าว่า ถ้าเป็นในกรณีนี้ให้บอกปฏิเสธเด็ดขาด ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาลูกค้าไม่จ่ายเงินในส่วนนี้คือ ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ปฏิเสธไปเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียลูกค้าหรือเสียงเครดิตร้าน ปัจจุบันการขายของออนไลน์ ส่วนใหญ่แล้วก็จะให้ชำระเงินก่อน ซึ่งลูกค้าหลายๆ ท่านก็จะเข้าใจในส่วนนี้ หรืออาจจะใช้วิธีการชำระเงินปลายทางก็ได้ เพื่อให้ดูแฟร์ๆ ทั้งสองฝ่าย นอกจากจะต้องเรียนรู้เทคนิคขายของออนไลน์ แล้ว ยังต้องมีเทคนิคในการสื่อสารกับลูกค้าด้วยค่ะ

3. สื่อสารให้เข้าใจตรงกันตั้งแต่แรก

การสื่อสารให้เข้าใจตรงกันตั้งแต่ต้น หรือตั้งแต่ก่อนที่จะทำธุรกิจร่วมกัน จะทำให้แต่ละฝ่ายเข้าใจถึงเงื่อนไข – ข้อกำหนดต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันแม้ไม่จำเป็นที่จะต้องเจอหน้ากันเวลาคุยธุรกิจ เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาด หรือด้วยวิทยาการเทคโนโลยีต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้ความสำคัญกับวิธีคุยกับลูกค้า ทางออนไลน์ ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน อาจนำไปสู่ปัญหาด้านการชำระหนี้ได้ เนื่องจากทำงานได้ไม่ตรงตามกำหนด เช่นหากเราเป็นผู้ให้บริการ รับทำโปรเจกต์โฆษณาให้กับสินค้าชนิดหนึ่ง ซึ่งมีรายละเอียดยิบย่อยมากมายในโปรดักส์ชั่น รวมไปถึงต้องแก้งานให้ถูกใจลูกค้ามากที่สุด ซึ่งถ้าหากไม่สื่อสารกันตั้งแต่แรกว่า สามารถแก้งานได้กี่ครั้ง ก็อาจจะทำให้เราต้องแก้งานเรื่อยๆ แถมยังเสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน เนื่องจากลูกค้าไม่ยอมจ่ายให้เพราะงานไม่เสร็จ อีกทั้งการทวงเงินด้วยวิธีคุยกับลูกค้า แบบออนไลน์นั้นดูจะเป็นไปได้ยากเหลือเกิน

เพราะฉะนั้น วิธีแก้ปัญหาลูกค้าไม่จ่ายเงิน อันเนื่องมาจากการที่ต้องทำงานจนกว่าจะถูกใจลูกค้า คือการพูดคุยสื่อสารให้เข้าใจตรงกันอย่างชัดเจนก่อนที่จะรับงาน พูดคุยถึงเงื่อนไข กระบวนการทำงาน รายละเอียดงานในส่วนต่างๆ ให้เข้าใจตรงกัน ก่อนที่จะลงมือทำโปรเจกต์นั้นๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องมานั่งปวดหัวกลุ้มใจทีหลังได้

[affegg id=4266]

4. เมินการเหวี่ยง พูดคุยด้วยเหตุผล

จะมีลูกค้าบางประเภทที่แสดงความไม่พอใจอยู่เสมอหรือพูดคุยด้วยอารมณ์ และมักจะโวยวายหรือบอกว่า ไม่พอใจกับข้อเสนอของบริษัทหรือไม่พอใจกับการทำงานของคุณ และมักจะหาข้อตำหนิในจุดต่างๆ อยู่เสมอ ซึ่งอาจทำให้มีการเลื่อนกำหนดเวลาจ่ายเงินออกไป ตรงนี้ต้องมาดูกันว่า เราทำงานผิดพลาดจริงหรือเปล่า ? สิ่งที่ลูกค้าร้องขอมาอยู่ในสัญญาหรือข้อตกลงกันหรือไม่ ไม่ควรจะตอบโต้ลูกค้าด้วยอารมณ์กลับไป พยายามทำใจเย็นๆ และใช้วิธีแก้ปัญหาลูกค้าไม่จ่ายเงินในลักษณะนี้คือ อ้างอิงจากหลักฐานที่มี ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ข้อตกลง ประวัติการสนทนา หรืออะไรต่างๆ ที่นำมาเป็นหลักฐานแสดงได้ว่า ข้อเรียกร้องของลูกค้าอยู่ในสัญญาหรือไม่ และมีความสมเหตุสมผลที่จะเลื่อนการจ่ายเงินออกไปจริงๆ ไหม

ซึ่งหากใช้วิธีคุยกับลูกค้า ออนไลน์ ก็อาจจะเจอลูกค้ามาเหวี่ยงวีนใส่ใน inbox ของเพจ หรือในช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น ขอคืนเงินเนื่องจากสินค้าชำรุด หรือใช้สินค้าแล้วแพ้ ได้สินค้าไม่ตรงตามที่สั่ง ไม่ได้สินค้า ฯลฯ ในกรณีนี้อาจจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมดูค่ะว่า เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ เป็นความผิดพลาดจากทางเราจริงๆ หรือไม่ แม้จะต้องใช้เวลาในการหาหลักฐานหรือตรวจสอบข้อมูลดูสักครู่ แต่ก็ยังดีกว่าการโอนเงินคือแบบไม่ตรวจสอบให้ดี ซึ่งถ้ามีหลายๆ เคสก็อาจจะทำให้เราขาดทุนหรือต้องเลิกทำธุรกิจไปเลย

5. เลิกทำธุรกิจด้วยไปเลย

มาถึงวิธีสุดท้าย ซึ่งเป็นวิธีที่ที่เรียกว่า “เจ็บแต่จบ” ถ้าหากมีการสื่อสารกับลูกค้าทั้งวิธีการแบบเจอหน้า Face to Face ใช้วิธีคุยกับลูกค้า ทางออนไลน์ อย่างประณีประนอมแล้ว ลูกค้าก็ยังคงทำตัวไม่น่ารัก ทั้งยังมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเงินของบริษัท คือ ผิดนัดการชำระหนี้ หรือผ่อนผันไปเรื่อยๆ หรือขอส่วนลดในแบบที่เราไม่เต็มใจ หรือหนักถึงขั้นเพิกเฉยต่อใบแจ้งหนี้ที่เราส่งไปและจงใจไม่จ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าดำเนินการต่างๆ ให้เรา วิธีแก้ไขปัญหาลูกค้าไม่จ่ายเงินในลักษณะนี้คือ ตัดลูกค้าประเภทนี้ออกจากวงจรธุรกิจของเราไปเลยค่ะ

หากลูกค้าสร้างความลำบากใจในการทำธุรกิจร่วมกัน หรือมีแนวโน้มว่าจะทำให้เกิดอุปสรรคในการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง คงจะต้องพิจารณาว่า การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบนี้จะยังเป็นประโยชน์ต่อบริษัทอยู่หรือไม่ แต่ถ้ายังติดตรงที่ลูกค้ายังจ่ายเงินให้เราไม่ครบ ก็อาจจะต้องจำใจรอให้ชำระหนี้ครบตามจำนวนเสียก่อน แล้วค่อยมาตัดสินใจว่า จะเลิกทำธุรกิจไปด้วยเลยดีไหม

[affegg id=4267]

Inspire Now ! : การทำธุรกิจ แน่นอนว่าย่อมต้องเจอกับปัญหาอุปสรรคหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคภายในบริษัทเอง หรือปัญหาจากภายนอกอย่างการติดต่อลูกค้า ซึ่งลูกค้าก็มีหลายแบบ มีทั้งลูกค้าที่ดี และลูกค้าที่ไม่ดี ลูกค้าที่ดีที่น่ารักกับเราอยู่เสมอ ก็ควรจะรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ให้ดี จะได้เป็นคู่ค้าทางธุรกิจกันไปยาวๆ แต่ถ้าลูกค้ากลุ่มไหนสร้างความวุ่นวาย หรือสร้างความลำบากใจให้เรา และมีแนวโน้มว่าจะทำให้ธุรกิจเราเสียหาย ก็ถือซะว่าเป็นบทเรียนทางธุรกิจ เรียนรู้ถึงวิธีการจัดการกับลูกค้าประเภทนี้ และพยายามหลีกเลี่ยงในอนาคต และอาจหาประสบการณ์ความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่าน หนังสือธุรกิจ เพื่อการทำธุรกิจได้อย่างราบรื่น มีความสุขมากขึ้นค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? หวังว่าวิธีที่นำมาฝากกันจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านบ้างนะคะ ใครมีวิธีคุยกับลูกค้ายังไงให้ปัง บอกเราหน่อยสิคะ หรือใครมีวิธีแก้ไขปัญหาลูกค้าไม่จ่ายเงินยังไงบ้าง มาคอมเมนต์เล่าให้เราฟังได้เลยค่ะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : americanexpress.com, moneycrashers.com, medium.com

Featured Image Credit : freepik.com/our-team