พุดดิ้ง วิธีทำแสนง่าย อร่อยหวานชื่นใจ ทำได้ที่บ้าน !

วันว่างๆ หากนึกอยากทำขนมหวานไว้กินให้ชื่นใจ นอกจากเมนูมะพร้าวกะทิแสนอร่อยแล้ว เรายังมีเมนูของหวานที่น่าสนใจอย่างพุดดิ้งอีกด้วย ที่กินขณะเย็นๆ แล้วฟินสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นพุดดิ้งคัสตาร์ด ช็อคโกแลต หรือพุดดิ้งผลไม้ก็ตาม ล้วนแล้วแต่ทำได้ง่ายๆ ที่บ้านแบบโฮมเมด เรามี 5 พุดดิ้ง วิธีทำ ไม่ยาก รวมถึงวิธีทำพุดดิ้งผลไม้ หวาน อร่อย สดชื่น มาฝากกันแล้วค่ะ

พุดดิ้ง วิธีทำ 5 สูตรมีอะไรบ้าง ลองมาดูเมนูพุดดิ้งสุดอร่อยนี้กัน

1. พุดดิ้งคัสตาร์ด

พุดดิ้งคัสตาร์ดแสนอร่อยนี้ทำจากส่วนผสมง่ายๆ ไข่ น้ำตาล และนม เป็นเมนูพุดดิ้งเบสิคที่ทำง่าย อร่อยได้ทุกวัย เพียงแช่เย็นแล้วเพลิดเพลินกับรสชาติและสัมผัสนุ่มๆ ของพุดดิ้ง วิธีทำจะเป็นยังไงมาดูกันค่ะ

วัตถุดิบสำหรับทำคาราเมล :

1. น้ำตาลทรายป่น 4 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำร้อน 1 ½ ช้อนโต๊ะ

วัตถุดิบสำหรับทำพุดดิ้ง :

1. ไข่ 2 ฟอง
2. นม 250 มิลลิลิตร
3. น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
4. เนยจืดเล็กน้อย

วิธีทำ :

1. เคลือบพื้นผิวด้านในของถ้วยที่จะใส่คัสตาร์ดด้วยเนยจืด วิธีนี้จะช่วยให้นำพุดดิ้งออกจากถ้วยได้ง่าย
2. ตั้งหม้อด้วยไฟกลาง ใส่น้ำตาลและน้ำลงในหม้อ เคี่ยวจนน้ำตาลละลายจนได้คาราเมลน้ำตาล นำหม้อออกจากเตา
3. เติมน้ำร้อนอย่างรวดเร็วลงไป 2-3 ครั้ง หมุนหม้อให้คาราเมลผสมกัน จากนั้นเทลงในถ้วยคัสตาร์ด 4 ใบเท่าๆ กัน
4. ทำส่วนผสมของพุดดิ้ง วิธีทำเริ่มจากตอกไข่ลงในชาม ตีไข่เบาๆ ด้วยตะกร้อตีไข่ ระวังอย่าให้เกิดฟองมากเกินไป
5. ตั้งหม้อใส่นมและน้ำตาลลงไป เปิดเตา คนส่วนผสมด้วยไม้พายจนน้ำตาลละลายหมด
6. ค่อยๆ เติมนมลงไปในชามไข่ที่ตีไว้ คนตีส่วนผสมอีกครั้ง แล้วร่อนส่วนผสมด้วยกระชอนตาข่ายละเอียด
7. เทส่วนผสมไข่ที่กรองลงในถ้วยคัสตาร์ดที่ใส่คาราเมลไว้ จากนั้นปิดถ้วยด้วยฟอยล์อลูมิเนียม และนำไปนึ่งในกระทะที่ใส่น้ำไว้ รักษาอุณหภูมิของน้ำให้ต่ำกว่าจุดเดือดและนึ่งพุดดิ้งเป็นเวลา 18 ถึง 20 นาที
8. เมื่อสุกแล้วทิ้งไว้ให้เย็นแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น เมื่อต้องการเสิร์ฟพุดดิ้งคัสตาร์ด ให้แซะด้านข้างของถ้วยด้วยปลายมีด แล้วเสิร์ฟลงบนจาน ราดด้วยคาราเมล

2. พุดดิ้งช็อคโกแลต

พุดดิ้งช็อคโกแลตของหวานสุดคลาสสิกที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน ทั้งยังเหมาะกับเด็กๆ อีกด้วย ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน สามารถทำเตรียมไว้สำหรับงานปาร์ตี้ได้ มาอร่อยกับพุดดิ้ง วิธีทำสูตรนี้กันเลยค่ะ

วัตถุดิบ :

1. น้ำตาล 1 ⅓ ถ้วย
2. โกโก้ ⅔ ถ้วย
3. แป้งข้าวโพด ⅓ ถ้วย
4. นม 4 ½ ถ้วย
5. เนย 3-4 ช้อนโต๊ะ
6. กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
7. เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ :

1. ตั้งกระทะใส่น้ำตาล ผงโกโก้ เกลือ และแป้งข้าวโพดลงไป ผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่นมตามลงไปแล้วตีจนเข้ากัน
2. เพิ่มความร้อนเป็นไฟปานกลาง แล้วคนตลอดเวลาจนส่วนผสมเดือด
3. ปล่อยให้ส่วนผสมเดือดเป็นเวลา 1 นาทีในขณะที่คนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นนำออกจากเตา
4. เทเนยและกลิ่นวานิลลาลงไป คนให้เข้ากันแล้วเทใส่ถ้วยพุดดิ้ง จากนั้นปล่อยให้ส่วนผสมเย็นสนิท สามารถเสิร์ฟเย็นหรืออุ่นก็ได้ตามชอบ แล้วตกแต่งหน้าพุดดิ้งด้วยช็อคโกแลตขูด

3. พุดดิ้งวานิลลา

พุดดิ้ง วิธีทำแสนง่ายอีกหนึ่งเมนูกับพุดดิ้งวานิลลาโฮมเมดที่หอมกรุ่นและรสชาติสุดอร่อย สามารถเสิร์ฟพุดดิ้งวานิลลากับคุกกี้  เบอร์รี่ หรือวิปครีม ได้ตามชอบ

วัตถุดิบ :

1. น้ำตาลทรายป่น 1/3 ถ้วย
2. แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือ 1/8 ช้อนชา
4. นม 2 ¼ ถ้วย
5. ไข่แดงขนาดใหญ่ 2 ฟอง
6. เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
7. กลิ่นวานิลลา 1 ½ ช้อนชา

วิธีทำ :

1. ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำตาล แป้งข้าวโพด เกลือ นม และไข่แดง ใช้ไฟอ่อนปานกลางและคนเป็นครั้งคราว จนกระทั่งส่วนผสมเดือด
2. เมื่อเดือดแล้วให้รออีก 1-2 นาที และคนอีก 1-2 ครั้ง แต่อย่าคนแรงเกินไป
3. นำออกจากเตา จากนั้นตีเนยและวานิลลาสกัด แล้วเทส่วนผสมผสมกัน
4. กรองส่วนผสมด้วยตะแกรงกรองละเอียด แล้วเทพุดดิ้งใส่ถ้วย พอเริ่มเย็นแล้วปิดด้วยพลาสติกแรป แล้วนำไปแช่เย็นเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือจนพุดดิ้งเย็น
5. เสิร์ฟพุดดิ้งด้วยวิปครีม หรือเบอร์รี่ตามชอบ

4. พุดดิ้งบัตเตอร์สกอต

อีกหนึ่งเมนูพุดดิ้งแสนอร่อยที่ทำไม่ยาก เหมาะเป็นของว่างแสนอร่อยในวันหยุด ด้วยกลิ่นหอมและรสหวานที่เข้ากันอย่างลงตัว มาดูพุดดิ้ง วิธีทำง่ายๆ นี้กันเลย

วัตถุดิบ :

1. น้ำตาลทรายแดง 1 ½ ถ้วย
2. แป้งข้าวโพด ¼ ถ้วย
3. เกลือ ½ ช้อนชา
4. นมสด 3 ถ้วย
5. ไข่แดงขนาดใหญ่ 4 ฟอง
6. เนย 2 ช้อนโต๊ะ
7. ซอสคาราเมลเค็ม ½ ถ้วย สำหรับเสิร์ฟ
8. วิปครีมไม่หวาน สำหรับเสิร์ฟ
9. เกลือเล็กน้อย สำหรับเสิร์ฟ

วิธีทำ :

1. ใส่น้ำตาล แป้งข้าวโพด และเกลือลงในชาม จากนั้นคนเบาๆ ให้เข้ากัน
2. ใส่นมและไข่แดงลงในชาม จากนั้นตีส่วนผสมให้เข้ากัน ค่อยๆ เทส่วนผสมเปียกลงในหม้อ พร้อมกับส่วนผสมแห้งแล้วคนให้เข้ากัน
3. นำหม้อตั้งไฟปานกลางและคอยคนเบาๆ จนส่วนผสมเริ่มขึ้นฟองและข้นประมาณ 10 นาที เมื่อได้ความสม่ำเสมอของพุดดิ้งแล้ว ให้ใส่เนยลงไปแล้วคนจนละลาย
4. จากนั้นนำลงจากเตาแล้วเทใส่ถ้วยพุดดิ้ง นำไปแช่เย็นประมาณ 1 ชั่วโมงจนพุดดิ้งเย็น
5. เสิร์ฟพร้อมกับราดซอสคาราเมลเค็ม เกลือทะเล และวิปปิ้งครีมลงไป

5. พุดดิ้งผลไม้

มาอร่อยในช่วงหน้าร้อนกับวิธีทำพุดดิ้งผลไม้ ที่มีทั้งราสเบอร์รี่ เรดเคอร์แรนท์ สตรอเบอร์รี่ แบล็คเคอแรนท์ และแบล็กเบอร์รี่ ให้รสชาติหวานอร่อยสดชื่น แถมยังเป็นสูตรที่อร่อยแปลกใหม่ด้วยการใช้ขนมปัง เพราะนอกจากวิธีทำปังปิ้งหน้าต่างๆ แล้วนั้น ขนมปังยังเอามาทำพุดดิ้งได้อีกด้วย มาดูวิธีทำพุดดิ้งผลไม้กันเลย

วัตถุดิบ :

1. เบอร์รี่รวม 800 กรัม
2. น้ำตาล 150 กรัม
3. น้ำส้ม ½ ถ้วย
4. กลิ่นวานิลา ½ ช้อนชา
5. ขนมปังขาวแผ่นใหญ่ 7 แผ่น
6. แยมเรดเบอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ :

1. ใส่ผลเบอร์รี่ทั้งหมดลงในกระทะ ตามด้วยน้ำตาล น้ำส้ม และกลิ่นวานิลลา เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ เป็นเวลา 3 ถึง 5 นาที หรือจนกว่าน้ำตาลจะละลาย และพักไว้ให้เย็น
2. ตัดขอบขนมปังแล้วทาขนมปังด้วยแยมบางๆ ให้ทั่ว
3. วางขนมปังเรียงลงถ้วยใส่พุดดิ้ง โดยทับซ้อนกันเล็กน้อยเพื่อให้ไม่มีช่องว่าง และกดขนมปังกับถ้วยด้านข้าง
4. ตักผลไม้สดแช่เย็น และน้ำผลไม้ที่ทำไว้ครึ่งหนึ่งลงไป
5. คลุมพุดดิ้งด้วยขนมปังแผ่นสุดท้าย ปิดด้วยแผ่นฟิล์ม แล้วนำไปแช่เย็นค้างคืน
6. กรองเอาน้ำผลไม้ที่เหลือผ่านตะแกรงลงในกระทะขนาดเล็ก นำไปต้มแล้วเคี่ยวประมาณ 5 ถึง 10 นาทีหรือจนน้ำงวดลงเป็นน้ำเชื่อม เทลงในเหยือกและเก็บไว้ในตู้เย็น
7. แกะแผ่นฟิล์มแล้วคว่ำพุดดิ้งลงบนจาน ราดด้วยน้ำเชื่อมและผลไม้สด เสิร์ฟพร้อมครีมถ้าต้องการ

Inspire Now ! : พุดดิ้ง วิธีทำนั้นไม่ยาก และเราสามารถเพิ่มรสชาติของพุดดิ้งได้ด้วยการใส่กลิ่นวานิลลาหนึ่งช้อนชา จะสามารถเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับพุดดิ้งของคุณได้ หรือใส่ผงกาแฟลงไปเล็กน้อยก็ทำให้พุดดิ้งช็อคโกแลตมีรสโกโก้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถผสมเหล้าแก้วโปรดของคุณลงไปในพุดดิ้งผลไม้ด้วยก็ได้นะคะ ก็จะได้สูตรพุดดิ้งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง แถมอร่อยยิ่งขึ้นอีกด้วย หรือถ้าใครอยากทำขนมหวานแบบง่ายที่สุด แนะนำให้ใช้โยเกิร์ตแล้วราดด้วยซอสผลไม้กับผลไม้สด ก็จะได้เมนูโยเกิร์ตผลไม้ที่คล้ายพุดดิ้งแล้วค่ะ ส่วนกรีกโยเกิร์ตยี่ห้อไหนอร่อยนั้น ลองอ่านดูจากที่เราแนะนำไว้ได้เลยค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้ไอเดียของกินใช่ไหม ? สาวๆ ที่ชอบพุดดิ้งลองเอาวิธีทำง่ายๆ เหล่านี้ไปทำกันดูค่ะ แล้วอย่าลืมมาอวดฝีมือกับเราด้วยนะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : cookingwithdog.com, spendwithpennies.com, celebratingsweets.com, foodnetwork.com, jamieoliver.com, tasteofhome.com

Featured Image Credit : freepik.com/topntp26