รวมศัพท์สี ภาษาอังกฤษ ทุกสี ทั้งพื้นฐาน และแอดวานซ์ มาเพิ่มสีสันให้กับภาษาของเรากัน !

สีมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ส่งผลต่ออารมณ์ การรับรู้ และการสื่อสาร หลายคนอาจคุ้นเคยกับการอัปเดตสีมงคล แต่ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักสีในภาษาอังกฤษ ที่มีคำศัพท์อยู่อย่างหลากหลาย ซึ่งการที่เรารู้จักที่ใช้คำอธิบายสีสันต่างๆ ตั้งแต่สีพื้นฐานไปจนถึงชื่อสีที่ซับซ้อนและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ก็จะช่วยให้เรามีคลังคำศัพท์ในการใช้ต่อยอดอธิบายสิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น ดังนั้นในบทความนี้ DIYINSPIRENOW จะชวนผู้อ่านไปสนุก ไปรู้จักกับสี ภาษาอังกฤษ ทุกสีทั้ง 12 สีพื้นฐาน และเพิ่มเติมสีอื่นๆ ตามมาอ่าน มาท่อง แล้วเอาไปปรับใช้กับการพูดในชีวิตประจำวันกันนะคะ

ชวนรู้จัก สี ภาษาอังกฤษ ทุกสี แล้วนำไปเพิ่มสีสันการใช้ภาษาของเรากัน !

สีพื้นฐานนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 12 สีหลัก ใช่มั้ยหล่ะคะ ? เมื่อเรารู้จักสีสันต่างๆ มากขึ้นแล้ว ก็จะช่วยให้เรามีคลังคำศัพท์ที่หลากหลายในการใช้ต่อยอดภาษาของเราใช้ชีวิตประจำวันได้ เช่น ใช้ในการเขียนอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้นในรายงาน ใช้ในการอธิบายคุณลักษณะเพื่อสั่งของ ซื้อของผ่านอีเมล หรือใช้ในการพูดก็จะช่วยเพิ่มประสิทธภาพในการอธิบายรายละเอียด ทำให้การสื่อสารของเราตรงกับวัตถุประสงค์ที่เราต้องการจะสื่อสารได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง (สำหรับใครที่สนใจเรื่องวิธีเขียนอีเมลอังกฤษ เพิ่มเติม อ่านต่อได้อีกนะคะ)

สี ภาษาอังกฤษ คำอ่าน 12 สีพื้นฐาน มีอะไรบ้าง ?

การเลือก 12 สีพื้นฐานนี้มีเหตุผลหลายอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการครอบคลุมสเปกตรัมสีหลักที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ เป็นการรวมสีปฐมภูมิ และทุติยภูมิ ซึ่งประกอบด้วยสีปฐมภูมิ (แดง เหลือง น้ำเงิน) และสีทุติยภูมิ (ส้ม เขียว ม่วง) ซึ่งเป็นพื้นฐานของทฤษฎีสี ทั้งยังง่ายต่อการจดจำ เพราะจำนวน 12 เป็นตัวเลขที่จดจำได้ง่าย และแบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้สะดวก ดังนั้นชุดสีทั้ง 12 สีนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำความเข้าใจและอธิบายเรื่องสี โดยให้พื้นฐานที่ครอบคลุมแต่ไม่ซับซ้อนเกินไปนั่นเองค่ะ เอาหล่ะ เรามาเริ่มจากการเรียนรู้พื้นฐาน 12 สีในภาษาอังกฤษ พร้อมสีมากมายที่แตกออกมาจากสีหลักกันเลยค่ะ

1. Blue อ่านว่า บลู = สีน้ำเงิน, สีฟ้า

สีของท้องฟ้า และทะเล สื่อถึงความสงบและความไว้วางใจ ตัวอย่างของสีในตระกูลนี้ ได้แก่

• Navy Blue อ่านว่า เนวี่บลู = สีน้ำเงินกรมท่า
• Ocean Blue อ่านว่า โอเชียนบลู = สีฟ้าน้ำทะเล

2. Red อ่านว่า เรด = สีแดง

สีแดงเป็นสีของเลือด และไฟ แสดงถึงพลัง ความรัก และอันตราย โดยในสีแดง แบ่งออกเป็นสีต่างๆ ได้ดังนี้

• Maroon อ่านว่า มารูน = สีน้ำตาลแดง หรือสีแดงเลือดหมู
• Burgundy อ่านว่า เบอร์กันดี = สีแดงเบอร์กันดี
• Rust อ่านว่า รัสท = สีแดงสนิม

3. Yellow อ่านว่า เยลโล = สีเหลือง

สีเหลืองเป็นสีแห่งดวงอาทิตย์ สื่อถึงความสุขและการมองโลกในแง่ดี มาลองดูสีในตระกูลนี้เพิ่มเติมกันค่ะ

• Mustard อ่านว่า มัสตาร์ด = สีเหลืองมัสตาร์ด
• Beige อ่านว่า เบจ = สีเนื้อ

4. Orange อ่านว่า ออริน = สีส้ม

เป็นสีของพระอาทิตย์ตก แสดงถึงความกระตือรือร้น และความคิดสร้างสรรค์ ตัวอย่างสีในกลุ่มสีส้ม มีดังนี้ค่ะ

• Coral อ่านว่า โครอล = สีส้มปะการัง
• Burnt Orange อ่านว่า เบิร์นออริน = สีส้มอิฐ

5. Green อ่านว่า กรีน = สีเขียว

สีของธรรมชาติ แสดงถึงการเติบโต และความสมดุล ลองมาดูสีในกลุ่มสีเขียวเพิ่มเติมกันค่ะ

• Olive Green อ่านว่า โอลีฟกรีน = สีเขียวมะกอก
• Sea Green อ่านว่า ซีกรีน = สีเขียวน้ำทะเล
• Lime Green อ่านว่า ไลม์กรีน = สีเขียวมะนาว
• Teal Green อ่านว่า ทีลกรีน = สีเขียวหัวเป็ด
• Turquoise Green อ่านว่า เทอร์ควอยซ์กรีน = สีเขียวเทอร์ควอยซ์

6. Purple อ่านว่า เพอเพิล = สีม่วง

สีม่วงเป็นสีแห่งความหรูหรา นอกจากนี้ยังสื่อถึงความลึกลับ และอำนาจอีกด้วย ลองดูตัวอย่างสีในกลุ่มสีม่วงกันค่ะ

• Violet อ่านว่า ไวโอเล็ต = สีม่วง
• Orchid อ่านว่า ออร์คิด = สีม่วงกล้วยไม้

7. White อ่านว่า ไวท์ = สีขาว

สีขาวเป็นสีของความบริสุทธิ์ สื่อถึงความสะอาด และสันติภาพ ตัวอย่างสีในกลุ่มนี้ได้แก่

• Pearl อ่านว่า เพิร์ล = สีไขมุก
• Ivory อ่านว่า ไอวอรี = สีขาวงาช้าง
• Cream อ่านว่า ครีม = สีขาวครีม

8. Brown อ่านว่า บราว = สีน้ำตาล

สีน้ำตาลเป็นสีของดิน และไม้ สื่อถึงความมั่นคง และความอบอุ่น

• Khaki อ่านว่า คากี = สีน้ำตาลกากี
• Tan อ่านว่า แทน = สีน้ำตาลอ่อน

9. Pink อ่านว่า พิงค์ = สีชมพู

สีชมพูเป็นสีโปรดของใครหลายๆ คน เป็นสีของดอกไม้ แสดงถึงความรักและความอ่อนโยน ลองดูสีในกลุ่มสีชมพูกันค่ะ

• Fuchsia อ่านว่า ฟิวเซีย = สีชมพูบานเย็น
• Old Rose Pink อ่านว่า โอลด์โรสพิงค์ = สีชมพูโอล์ดโรส
• Magenta อ่านว่า มาเจนต้า = สีบานเย็น

10. Black อ่านว่า แบล็ค = สีดำ

หากอยากได้อารมณ์ลึกลับ หรูหรา ต้องสีดำเลยค่ะ ลองดูสีในกระกูลสีดำกันนะคะ

• Charcoal อ่านว่า ชาร์โคล = สีดำถ่าน
• Midnight อ่านว่า มิดไนท์ = สีดำเข้ม
• Onyx อ่านว่า โอนิกซ์ = สีนิล

11. Gold อ่านว่า โกลด์ = สีทอง

สีทอง เป็นสีของโลหะมีค่า แสดงถึงความมั่งคั่ง และความสำเร็จ

• Golden Yellow อ่านว่า โกลด์เด้นเยลโล = สีเหลืองทอง
• Rose Gold อ่านว่า โรสโกลด์ = สีทองอมชมพู
• Honey Gold อ่านว่า ฮันนี่โกลด์ = สีทองที่มีโทนส้มอ่อน

12. Gray อ่านว่า เกรย์ = สีเทา

• Silver อ่านว่า ซิลเวอร์ = สีเงิน
• Smoke อ่านว่า สโมค = สีเทาควันบุหรี่
• Ash อ่านว่า แอช = สีขี้เถ้า

ที่มาของสีต่างๆ รวมกันยังไงให้เกิดสีที่ต่างกัน

สีต่างๆ นั้นมาจากการผสมสีเข้ากับสีพื้นฐานที่เป็น 3 สีหลักคือ สีฟ้า สีแดง และสีเหลือง และได้ออกมาเป็นสีอื่นๆ ข้างต้น เช่น สีส้มได้มาจากการผสมแม่สีระหว่างสีแดงและสีเหลือง สีเขียวเป็นการผสมสีระหว่างสีน้ำเงินและสีเหลือง และสีม่วงเป็นการผสมสีระหว่างสีน้ำเงินและสีแดง เป็นต้น ส่วนสีอื่นๆ นั้นก็มาจากการนำสีที่ผสมได้ ไปผสมเข้ากับสีอื่นๆ อีกทีจนได้เป็นมากมายอย่างที่เราเห็นนั่นเองค่ะ

สีกับบริบทต่างๆ ในการนำไปใช้

เราได้รู้กันไปแล้วว่า สี ภาษาอังกฤษ ทุกสี ทั้งพื้นฐาน และแอดวานซ์ อ่านยังไง และอย่างที่เรารู้กัน สีมีมากมายเลยค่ะ แล้วเวลานำสีไปใช้ จะใช้กับบริบทไหนได้บ้าง มาดูรายละเอียดกันค่ะ

1. ใช้ในศิลปะ และการออกแบบ

• สีแดง น้ำเงิน และเหลือง เป็นสีปฐมภูมิที่ใช้ผสมเพื่อสร้างสีอื่นๆ
• สีขาวและดำใช้เพิ่มความสว่างหรือความมืดให้กับสีอื่น
• สีคู่ตรงข้าม เช่น แดงกับเขียว หรือน้ำเงินกับส้ม ใช้สร้างความตัดกันที่น่าสนใจ

2. ใช้ในแฟชั่น

• สีดำ ขาว และเทา เป็นสีพื้นฐานที่ใช้ได้ทุกฤดูกาล
• สีสดใส เช่น แดง เหลือง และส้ม มักใช้ในฤดูร้อน
• สีเข้ม เช่น น้ำเงินเข้ม น้ำตาล และเขียวเข้ม นิยมใช้ในฤดูหนาว

3. ใช้ในการตลาด และโฆษณา

• สีแดงใช้ดึงดูดความสนใจและกระตุ้นการตัดสินใจ
• สีน้ำเงินสื่อถึงความน่าเชื่อถือ มักใช้ในธุรกิจการเงิน
• สีเขียวใช้ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

4. ใช้ในวัฒนธรรม

• สีแดงหมายถึงโชคดีในจีน แต่อาจหมายถึงอันตรายในวัฒนธรรมตะวันตก
• สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ในตะวันตก แต่เป็นสีแห่งความโศกเศร้าในบางประเทศเอเชีย
• สีม่วงมักเชื่อมโยงกับความเป็นราชวงศ์ในหลายวัฒนธรรม

5. ใช้ในจิตวิทยา

• สีฟ้าและเขียวมักให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
• สีเหลืองและส้มกระตุ้นความรู้สึกมีความสุขและมีพลัง
• สีม่วงอาจกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ

6. ใช้ในสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายใน

• สีอ่อน เช่น เบจ ขาว และเทาอ่อน ใช้สร้างความรู้สึกกว้างขวาง
• สีเข้ม เช่น น้ำตาลเข้มหรือเขียวเข้ม ใช้สร้างความอบอุ่นและความสบาย
• สีสดใช้เป็นจุดเด่นเพื่อสร้างความน่าสนใจ

ตัวอย่างรูปประโยคของสีในภาษาอังกฤษ และการนำไปใช้

• They came dressed in their navy blues with their hats on. อ่านว่า เดย์ เคม เดรสท์ อิน แดร์ เนวี่ บลูส์ วิท แดร์ แฮทส์ ออน

แปลว่า พวกเขามาในชุดสีน้ำเงินกรมท่าพร้อมหมวก

• He has blonde hair and ocean blue eyes. อ่านว่า ฮี แฮส บลอนด์ แฮร์ แอนด์ โอเชี่ยน บลู อายส์

แปลว่า เขามีผมสีบลอนด์และตาสีฟ้าน้ำทะเล

• I prefer white, but I also love pink and burgundy. อ่านว่า ไอ พรีเฟอ ไวท์ บัท ไอ ออโซ เลิฟ พิงก์ แอนด์ เบอร์กันดี

แปลว่า ฉันชอบสีขาว แต่ฉันก็ชอบสีชมพูและสีแดงเบอร์กันดีด้วย

• Dozens of armed soldiers in olive green fatigues patrol the nearby streets. อ่านว่า โดเซนส์ ออฟ อาร์มด์ โซลเจอร์ส อิน โอลีฟ กรีน ฟาทีกส์ พาโทรล เดอร์ เนียร์บาย สตรีทส์

แปลว่า ทหารติดอาวุธหลายสิบนายในชุดสีเขียวมะกอกตระเวนไปตามถนนที่อยู่ใกล้เคียง

• She wears a dress of fuchsia satin. อ่านว่า ชี แวร์ส อะ เดรส ออฟ ฟัชเชีย ซาติน

แปลว่า เธอสวมชุดผ้าซาตินสีชมพูบานเย็น

• The sky is blue today. อ่านว่า เดอะ สกาย อีส บลู ทูเดย์

แปลว่า ท้องฟ้าวันนี้สีน้ำเงิน

• The leaves turn yellow and orange in autumn. อ่านว่า เดอะ ลิฟส์ เทิร์น เยลโล่ว แอนด์ ออเรนจ์ อิน ออทั่ม

แปลว่า ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง และส้ม ในฤดูใบไม้ร่วง

• His face turned green when he felt sick. อ่านว่า ฮีส เฟส เทิร์น กรีน เวน ฮี เฟลท์ ซิก

แปลว่า ใบหน้าของเขาเขียวซีดเมื่อรู้สึกไม่สบาย

ในบรรดาสี ภาษาอังกฤษ ทุกสีนั้น หากมีการใส่คำว่า “dark” ลงไปข้างหน้าชื่อสี จะแปลว่าสีเข้ม เช่น dark green แปลว่า สีเขียวเข้ม หรือหากใส่คำว่า “light” หรือ “pale” นำหน้าชื่อสี จะแปลว่าสีอ่อน เช่น light yellow แปลว่า สีเหลืองอ่อน หรือ pale violet แปลว่า สีม่วงอ่อน เป็นต้น

Inspire Now ! : การนำชื่อสี ภาษาอังกฤษ ทุกสีไปใช้ในการอธิบายคุณลักษณะต่างๆ นั้น สามารถใช้พูดถึงได้ตั้งแต่สีผม สีตา สีของเสื้อผ้า สีของรถยนต์ สีของสิ่งของเครื่องใช้ ไปจนถึงสีของผลไม้ และสีของขนมหวานน่ากินด้วยค่ะ ซึ่งการพูดถึงชื่อสีในบทสนทนานั้น จะทำให้เราเจาะจงสิ่งของนั้นๆ ได้มากขึ้น และทำให้ผู้ฟังนึกภาพตามแล้วเข้าใจตรงกันด้วยค่ะ

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้ไอเดียในการค้นหาตัวเองใช่ไหม ? ได้รู้จักชื่อสี ภาษาอังกฤษ ทุกสีกันไปแล้ว อย่าลืมนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเพิ่มสกิลทางภาษากันนะคะ ♡