จัดสรรเวลา อย่างไร ? ให้มี Work Life Balance สมดุลชีวิตสร้างได้จริง แค่เริ่มทำ !
ชวนรู้จักความสำคัญ และวิธีการ จัดสรรเวลา เพื่อให้มี Work Life Balance ความสมดุลในชีวิตทำให้เกิดความสุข และประสิทธิภาพในระยะยาวยังไง ต้องอ่าน
เวลามีคนมาขอความช่วยเหลือจากเรา หรือขอให้เราช่วยทำบางสิ่งบางอย่างให้ บางครั้งเราก็เต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือ แต่ก็มีหลายครั้งที่เรารู้สึกลำบากใจ ไม่สะดวกที่จะทำตามคำขอเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกเกรงใจที่จะปฏิเสธ หรือไม่กล้าพูดว่าไม่ ซึ่งการตกลงยอมรับปากทำตามคำขอไป ก็ทำให้เรารู้สึกอึดอัดและเป็นกังวลไม่น้อย ถ้าใครที่มักจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ละก็ ในบทความนี้ DIYINSPIRENOW เรามีวิธีปฏิเสธคนอย่างนุ่มนวลมาฝากกัน รับรองว่าทำตามได้ และไม่สร้างความลำบากใจให้กับทั้งเขาและเราด้วยค่ะ
การปฏิเสธคน ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะเวลาที่เราไม่อยากทำร้ายความรู้สึกใคร หรือกลัวว่าจะเสียความสัมพันธ์ไป แต่จริงๆ แล้วการปฏิเสธเป็นทักษะที่ทุกคนฝึกได้ ถ้าเราเข้าใจจังหวะ น้ำเสียง และเลือกใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม เราจะสามารถปฏิเสธได้อย่างนุ่มนวล โดยไม่ทำร้ายใจตัวเอง และไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ มาเรียนรู้วิธีเซย์โนอย่างเป็นธรรมชาติและจริงใจไปด้วยกัน เพราะบางครั้งการ “ปฏิเสธ” อย่างอ่อนโยน ก็คืออีกทางหนึ่งของการเคารพทั้งตัวเองและคนที่เรารักนั่นเอง
ก่อนจะไปดูวิธีปฏิเสธอย่างนุ่มนวล มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมหลายคนถึงรู้สึกติดขัด เวลาต้องพูดคำว่า “ไม่” ไม่ว่าจะเป็นการขอความช่วยเหลือ ขอให้ทำบางอย่างแทน หรือแม้กระทั่งการขอยืมเงิน หลายครั้งเราก็พยายามหาวิธีเลี่ยงหรือปฏิเสธแบบอ้อมๆ จนวุ่นวายไปหมด ลองมาดูกันว่าต้นเหตุของความไม่กล้าปฏิเสธมีอะไรบ้าง
สาเหตุเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้ แต่การไม่กล้าปฏิเสธตลอดเวลา ก็อาจทำให้เราเหนื่อยล้าและละเลยตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น มาลองเรียนรู้วิธีปฏิเสธอย่างนุ่มนวลและจริงใจกัน เพื่อดูแลทั้งตัวเองและความสัมพันธ์ไปพร้อมๆ กัน
ก่อนจะไปถึงวิธีการปฏิเสธอย่างนุ่มนวล สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจให้ได้ก่อน คือ “ตัวเราเอง” เพราะถ้าเรายังไม่ชัดเจนว่าความต้องการของตัวเองคืออะไร หรือยังลังเลในใจทุกครั้งที่มีคนร้องขอ เราก็จะยิ่งรู้สึกยากเวลาต้องพูดคำว่า “ไม่” ลองมาทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันนะคะ
เมื่อเราเริ่มทำความเข้าใจตัวเองได้ชัดเจนมากขึ้น การปฏิเสธก็จะไม่ใช่เรื่องน่าอึดอัดอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลใจตัวเองอย่างนุ่มนวลและมั่นคง
นี่คือหนึ่งใน Soft Skill คือ มีวิธีการสื่อสารที่ดีและมีทักษะด้านอารมณ์ที่ไม่ว่าใครก็ควรฝึก การปฏิเสธไม่จำเป็นต้องทำให้ใครรู้สึกแย่ ถ้าเรารู้วิธีสื่อสารอย่างเหมาะสม ทั้งน้ำเสียง ท่าที และการเลือกใช้คำพูดที่จริงใจ มาลองฝึกวิธีปฏิเสธอย่างนุ่มนวลไปด้วยกัน
เลือกใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมาแต่ยังนุ่มนวล เช่น “ขอบคุณที่คิดถึงเรานะ แต่ครั้งนี้ขออนุญาตปฏิเสธ” หรือ “ตอนนี้ยังไม่สะดวกจริงๆ ต้องขอผ่านก่อน” การพูดชัดเจนจะลดความสับสนและไม่สร้างความคาดหวังผิดๆ
น้ำเสียงนุ่มๆ รอยยิ้มบางๆ และการสบตาอย่างมั่นใจ สามารถทำให้การปฏิเสธดูอบอุ่น ไม่แข็งกระด้าง และไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกปฏิเสธอย่างเย็นชา ลองอ่านเรื่องภาษากายที่ทำให้เราเข้าใจฝ่ายตรงข้ามมากขึ้นได้อีกนะคะ
ก่อนปฏิเสธ ควรแสดงความขอบคุณ เช่น “ขอบคุณที่นึกถึงกันนะ” หรือ “ขอบคุณที่ไว้วางใจ” เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี และทำให้อีกฝ่ายรู้สึกได้รับการยอมรับ แม้เราจะไม่ได้ตอบตกลงก็ตาม
ถ้าจำเป็นต้องให้เหตุผล ควรอธิบายสั้นๆ กระชับ เช่น “ช่วงนี้มีงานที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่างเลยขออนุญาตไม่รับเพิ่มนะ” เพราะการขยายความเยอะเกินไป อาจทำให้อีกฝ่ายหาช่องทางตื๊อได้ง่ายขึ้น
หากสามารถช่วยในรูปแบบอื่นได้ เช่น แนะนำคนที่เหมาะสม หรือให้ข้อมูลเบื้องต้น ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดแรงกระแทกของการปฏิเสธ และยังทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราไม่ได้ปัดเขาออกไปเฉยๆ
เริ่มจากสถานการณ์เล็กๆ เช่น ปฏิเสธการซื้อของจากเซลส์ หรือปฏิเสธการนัดหมายที่ไม่สะดวก เพื่อสร้างความคุ้นเคย และค่อยๆ เพิ่มความมั่นใจในสถานการณ์ที่ยากขึ้นเรื่อยๆ
รู้ว่าตัวเองโอเคกับอะไร และไม่โอเคกับอะไร เช่น ถ้ามีเวลาว่างแค่ช่วงวันเสาร์ การรับงานเพิ่มวันธรรมดาควรปฏิเสธชัดเจน การมีขอบเขตที่ชัดเจนจะทำให้เรากล้าปฏิเสธโดยไม่รู้สึกผิด
การฝึกปฏิเสธอย่างนุ่มนวลและจริงใจ นอกจากจะไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์แล้ว ยังช่วยให้เรารักษาความสัมพันธ์แบบที่ทั้งสองฝ่ายสบายใจ และเคารพกันและกันมากขึ้นด้วย เห็นด้วยมั้ยคะ ?
การมีประโยคในใจที่พร้อมใช้งาน จะช่วยให้การปฏิเสธเป็นเรื่องง่ายขึ้น และทำให้เราสื่อสารได้อย่างนุ่มนวลโดยไม่รู้สึกผิด ลองเลือกประโยคที่เหมาะกับสถานการณ์แล้วปรับใช้ดูได้เลย
เลือกประโยคที่ฟังดูเป็นตัวเรา และปรับโทนน้ำเสียงให้จริงใจ นุ่มนวล จะทำให้การปฏิเสธฟังดูไม่แข็งกร้าว และยังรักษาความสัมพันธ์ได้อย่างสวยงามด้วย
บางครั้งแม้เราจะปฏิเสธอย่างสุภาพไปแล้ว แต่บางคนก็ยังพยายามกดดันให้เราตอบตกลงให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยการตื๊อ เกลี้ยกล่อม หรือทำให้รู้สึกผิด เพื่อไม่ให้เราหลุดกลับไปตอบตกลงเพราะเกรงใจ ถ้าใครเจอแบบนั้นลองใช้วิธีเหล่านี้ดูนะคะ
อย่าโทษตัวเองเมื่อจำเป็นต้องปฏิเสธ และอย่ากลัวว่าการพูด “ไม่” จะทำให้เราเสียคุณค่าในสายตาใคร เพราะคนที่เข้าใจเราอย่างแท้จริง จะเคารพการตัดสินใจของเรา และนั่นคือความสัมพันธ์ที่ควรค่าแก่การรักษาไว้ที่สุด
Inspire Now ! : การปฏิเสธไม่ได้ทำให้เราเป็นคนไม่ดี และไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์เสมอไป ตรงกันข้าม การกล้าพูด “ไม่” อย่างจริงใจและนุ่มนวล เป็นการแสดงออกถึงการเคารพตัวเอง และให้เกียรติคนอื่นในเวลาเดียวกัน ในชีวิตจริง เราไม่สามารถตอบรับทุกคำขอได้ตลอดเวลา เพราะเราก็มีขอบเขตของพลังใจ พลังงาน และเวลาที่ต้องดูแลเหมือนกัน การปฏิเสธในสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับตัวเอง จึงเป็นการปกป้องพื้นที่สำคัญในชีวิต และทำให้เรามีพลังสำหรับสิ่งที่มีคุณค่ากับเราจริงๆ นั่นเอง |
---|
DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? แต่ละคนมีวิธีปฏิเสธคนยังไงบ้าง ? ปกติใช้วิธีแบบไหน มาคอมเมนต์บอกกันบ้างนะคะ ♡
ชวนรู้จักความสำคัญ และวิธีการ จัดสรรเวลา เพื่อให้มี Work Life Balance ความสมดุลในชีวิตทำให้เกิดความสุข และประสิทธิภาพในระยะยาวยังไง ต้องอ่าน
พัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยPDCA ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่ช่วยให้ลงมือทำได้จริง พร้อมตัวอย่างการใช้ในองค์กร และเคล็ดลับปรับปรุงงานแบบเห็นผล
ชวนดูคำแนะนำการ ปฏิเสธสัมภาษณ์งาน เมื่อเจองานที่ยังไม่ใช่ พร้อมตัวอย่างเข้าใจง่าย และทิปส์สำหรับคนอยากสัมภาษณ์งานแล้วได้งาน