ล้มแล้วลุก, resilience mindset คือ

ล้มแล้วลุก ให้ไว ต้องทำยังไง ? รู้จัก Resilience Mindset วิธีคิดที่ฝึกให้คุณเป็นคนที่ยืดหยุ่น และใช้ชีวิตได้แบบมีความสุข !

ถ้าใครรู้จัก Thomas Alva Edison หรือ โทมัส อัลวา เอดิสัน จะรู้ว่า เป็นนักประดิษฐ์ที่สามารถประดิษฐ์หลอดไฟได้สำเร็จเป็นคนแรกของโลก แม้จะไม่ใช่ผู้ที่คิดค้นประดิษฐ์หลอดไฟเป็นคนแรก แต่เอดิสันเป็นคนที่ปรับปรุงและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์หลอดไฟให้ใช้งานได้สำเร็จในที่สุด ซึ่งเอดิสันบอกว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้ล้มเหลว ข้าพเจ้าแค่ค้นพบหนึ่งหมื่นวิธีที่ไม่ได้ผล” อาจกล่าวได้ว่า เอดิสันเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ และสามารถเริ่มต้นได้ใหม่ทุกครั้ง แม้จะล้มเหลวเป็นหมื่นๆ ครั้งก็ตาม ซึ่งการมีวิธีคิดแบบนี้ เรียกว่า Resilience Mindset หรือวิธีคิดแบบ ล้มแล้วลุก ขึ้นได้เสมอ แม้จะต้องเจอกับความผิดหวัง หรือจะต้องผิดพลาดอีกกี่ครั้งก็ตาม วิธีคิดแบบนี้ จำเป็นมากในยุคปัจจุบัน ที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้งและความไมแน่นอนสามารถเกิดขึ้นอยู่เสมอ มาทำความรู้จักกับ  Resilience  Mindset กันให้มากขึ้น ผ่านบทความนี้กับ DIYINSPIRENOW กันค่ะ

Resilience Mindset คืออะไร ? ชวนเข้าใจ Mindset ของคนล้มแล้วลุกไว ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคกัน !

ล้มแล้วลุก, resilience คือ
Image Credit : Unsplash

หากจะแปลอย่างตรงตัว Resilience แปลว่า ความยืดหยุ่น ความสามารถในการกลับสู่สภาพเดิม หรือความสามารถในการฟื้นตัว หากจะพูดให้เห็นภาพ ก็เปรียบเหมือนกับตุ๊กตาล้มลุกที่โดนผลักให้ล้มลงแล้วก็สามารถลุกขึ้นได้ คนที่มีทักษะ Resilience คือ คนที่มีความยืดหยุ่นในตัวเองสูง ไม่ยึดติดกับความผิดพลาดหรือความล้มเหลวของตนเอง และเป็นคนที่สามารถปรับตัวและฟื้นตัวหลังจากการเผชิญกับความผิดหวัง หรือหลังผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากมาได้ หรือเรียกว่าล้มแล้วลุกได้นั่นเอง

ความยืดหยุ่น เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคและดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข ซึ่งคนที่ล้มแล้วสามารถลุกขึ้นได้และไม่จมอยู่กับความทุกข์นาน มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่ยึดติดกับความผิดพลาด แม้แต่คนดังระดับโลกอย่าง Nelson Mandela รัฐบุรุษหนึ่งผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ก็ได้กล่าวไว้ว่า “อย่าตัดสินผมจากความสำเร็จ แต่ให้ดูจากจำนวนครั้งที่ผมล้มเหลวและลุกขึ้นมาอีกครั้ง” แสดงให้เห็นว่า ความสามารถในการฟื้นตัวหรือลุกขึ้นได้ใหม่นั้น จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตจริงๆ มาดูกันว่า คนที่มีความยืดหยุ่นจะมีลักษณะอย่างไร และสามารถฝึกทักษะนี้ได้อย่างไรบ้าง

หนังสือ วิธีฝึกใจให้แกร่ง รับมือได้ทุกปัญหา

ลักษณะของคนที่มี Resilience Mindset มีอะไรบ้าง ?

ล้มแล้วลุก, resilience คือ
Image Credit : Unsplash

คนที่มี Resilience Mindset หรือมีวิธีคิดแบบล้มแล้วลุกได้ จะมีลักษณะดังต่อไปนี้

  • มีทัศนคติเชิงบวกต่อสิ่งต่างๆ มองโลกในแง่ดี 
  • มีทักษะเชิงอารมณ์หรือมี Emotional Intelligence คือความฉลาดทางอารมณ์
  • มีทัศนคติต่อความล้มเหลวว่า เป็นสิ่งที่ให้บทเรียน
  • เป็นคนที่ยืดหยุ่น ไม่ยึดติดกับความสำเร็จหรือความผิดพลาดต่างๆ 
  • มีความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
  • มองหาการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเสมอ 
  • รู้จักขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น 
  • วิเคราะห์ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น และลงมือแก้ไขไปทีละส่วน ไม่ฟูมฟาย ไม่วิตกกังวล 
  • มองหาวิธีแก้ไขปัญหาที่ได้ผล และลงมือทำทันที
  •  ยืนหยัดและเผชิญหน้ากับความท้าทาย ไม่เกรงกลัวต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
  • คิดถึงความสำเร็จที่ผ่านมา และไม่มองว่าตัวเองเป็นคนที่ล้มเหลว
  • โฟกัสในสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้ และควบคุมในสิ่งที่สามารถควบคุมได้

อย่างไรก็ตาม ทักษะความยืดหยุ่นหรือทัศนคติล้มแล้วลุกได้ เป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับทัศนคติและการมองโลกโดยรวมของคนนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร คนที่มองโลกในแง่บวกและสามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ก็จะมี Resilience Mindset มากกว่าคนที่มองโลกในแง่ลบและมีแนวโน้มว่าจะเครียดง่ายหรือวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งนี้ ความยืดหยุ่นในตัวบุคคลสามารถเรียนรู้และปรับกันได้ ขึ้นอยู่กับมุมมองที่มีต่อเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสำคัญ

การมี Resilience Mindset ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นได้อย่างไร ?

ล้มแล้วลุก, resilience คือ
Image Credit : Unsplash

ต้องบอกก่อนว่า การมี Resilience คือความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองหรือการมีความยืดหยุ่นในตัวเองนั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เราไม่รู้สึกผิดหวังหรือไม่รู้สึกทุกข์ แต่การมีแนวคิดแบบล้มแล้วลุกขึ้นได้ จะทำให้เรากล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone และเผชิญหน้ากับความท้าทายหรือปัญหาใหม่ๆ โดยที่ไม่กลัวว่าจะผิดหวังหรือทำผิดพลาด แต่เป็นความเชื่อในตัวเองว่า เมื่อเราผิดหวังหรือล้มลง เราจะสามารถยืนหยัดลุกขึ้นสู้ใหม่ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้เรามีการเติบโตมากขึ้น และมีการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

การวิจัยพบว่า คนที่มีวิธีคิดแบบยืดหยุ่น จะทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี เช่น เป็นคนมองโลกในแง่ดี มีความนับถือตนเอง มีความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่ยึดติดกับความทุกข์ที่เกิดขึ้น และรับรู้ว่าตนเองมีความสามารถและมีศักยภาพ สามารถปรับตัวและฟื้นตัวหลังจากการเผชิญกับความผิดหวัง หรือหลังจากผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากมาได้ และยังเป็นการพัฒนาทักษะในด้านการเผชิญหน้ากับความเครียดหรือความท้าทายในชีวิตอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การมี Resilience คือวิธีคิดที่จะต้องค่อยๆ ฝึกฝนตลอดชีวิต ไม่สามารถทำได้ในทันที เพราะเงื่อนไขในชีวิตของแต่ละคนนั้นต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่เจอ ลักษณะนิสัย การมองโลก หรือทัศนคติที่มีต่อสิ่งต่างๆ แม้จะฟังดูไม่ค่อยดีนัก แต่ก็พูดได้ว่า ยิ่งล้มเหลวมากเท่าไหร่ หรือยิ่งผิดหวังมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีจิตใจที่เข้มแข็ง และแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะมีวิธีคิดที่ยืดหยุ่นและสามารถล้มแล้วลุกขึ้นได้ไวขนาดไหน ซึ่งความสามารถในการฟื้นตัวหรือฟื้นฟูจิตใจนั้นสามารถเรียนรู้และฝึกฝนกันได้ ผ่านการใช้ชีวิตและมีประสบการณ์ชีวิตนั่นเองค่ะ

หนังสือ สู่จุดสูงสุดของชีวิตด้วย “พีระมิดสามสุข”

วิธีที่ส่งเสริมการมี Resilience  Mindset มีอะไรบ้าง ?

ล้มแล้วลุก, resilience คือ
Image Credit : Unsplash

การมี Resilience Mindset เป็นความสามารถในการปรับตัว และฟื้นคืนจากความท้าทายต่างๆ ในชีวิต ลองมาดูกันค่ะว่ามีวิธีคิดอะไรบ้างที่จะช่วยส่งเสริมให้เรามี mindset ที่ล้มแล้วลุกได้ไวกันบ้าง

  1. การยอมรับการเปลี่ยนแปลง : เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความยืดหยุ่นทางจิตใจ เราต้องเรียนรู้ที่จะมองการเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาสในการเติบโตและพัฒนาตนเอง แทนที่จะรู้สึกวิตกกังวลหรือต่อต้าน การเปิดใจรับความไม่แน่นอนจะช่วยให้เราสามารถปรับตัวและก้าวผ่านอุปสรรคไปได้อย่างมีพลัง
  2. การคิดเชิงบวก : เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งทางอารมณ์ การมองปัญหาในแง่ของโอกาสและการเรียนรู้ จะช่วยให้เราสามารถเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่จะจมอยู่กับความรู้สึกทุกข์หรือล้มเหลว เราควรมองหาบทเรียนและโอกาสในการพัฒนาตนเองจากทุกสถานการณ์
  3. การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง : เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นทางจิตใจ การพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสามารถในการรับมือกับความท้าทายที่แตกต่างกันไป การกล้าที่จะก้าวออกจากพื้นที่สบายและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะช่วยขยายขีดความสามารถของเราอย่างต่อเนื่อง ใครสนใจเรื่อง Lifelong Learning เพิ่มเติม ลองอ่านดูได้อีกนะคะ
  4. การจัดการอารมณ์ : เป็นทักษะที่สำคัญในการสร้าง Resilience Mindset การตระหนักรู้และควบคุมอารมณ์ของตนเองอย่างมีสติ จะช่วยให้เราสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสมและมีเหตุผล การฝึกสมาธิและมีวิธีจัดการความเครียดที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เรามีความสงบและมั่นคงทางอารมณ์มากยิ่งขึ้น
  5. การสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก : เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ การมีเครือข่ายที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อน จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ การเปิดใจรับคำแนะนำและความช่วยเหลือ จะทำให้เรารู้สึกไม่โดดเดี่ยวและมีพลังในการก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ
  6. การตั้งเป้าหมายและวางแผนอย่างมียุทธศาสตร์ : จะช่วยให้เรามีทิศทางและแรงขับเคลื่อนในชีวิต การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล พร้อมกับแบ่งออกเป็นเป้าหมายเล็กๆ ที่สามารถปฏิบัติได้ จะช่วยสร้างความรู้สึกประสบความสำเร็จและมีพลังในการมุ่งไปข้างหน้า ความยืดหยุ่นในการปรับแผนตามสถานการณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
  7. การดูแลตนเองแบบองค์รวม : ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เป็นรากฐานของการมี Resilience Mindset การออกกำลังกาย พักผ่อนอย่างเพียงพอ และมีกิจกรรมที่สร้างความสุข จะช่วยเสริมสร้างพลังและความเข้มแข็งให้กับตัวเรา

การพัฒนา Resilience Mindset เป็นเส้นทางที่ต้องอาศัยความตั้งใจ ความอดทน และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเราสามารถพัฒนาแนวคิดเหล่านี้ได้ เราจะกลายเป็นบุคคลที่มีความเข้มแข็ง ปรับตัวได้ และพร้อมเผชิญกับทุกความท้าทายในชีวิตได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ

หนังสือ ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา

Inspire Now ! : การที่เราล้มแล้วสามารถลุกขึ้นยืนได้ไว ก็จะทำให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนคือ สามารถมูฟออนและก้าวต่อไปข้างหน้าได้ โดยที่ไม่จมอยู่กับเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้น แต่ถ้าในวันใดวันหนึ่ง ล้มแล้วยังลุกขึ้นไม่ไหว ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องฝืนตัวเองเลย เพราะการที่เก็บกดความรู้สึกผิดหวังเสียใจเอาไว้ ไม่แสดงออกมา และแสร้งทำเป็นว่าเราเข้มแข็ง สามารถลุกขึ้นยืนได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร การทำแบบนี้ จะทำให้เราเจ็บปวดและแหลกสลายอยู่ข้างใน และไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นเลย อย่างที่บอกว่า Resilience ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เราไม่รู้สึกทุกข์หรือไม่ผิดหวัง แต่เป็นวิธีคิดที่ว่า แม้จะผิดหวังหรือเจอเรื่องราวร้ายๆ ท้ายที่สุดแล้ว เราก็จะลุกขึ้นสู้ได้ในสักวันหนึ่งค่ะ

DIYINSPIRENOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมใช่ไหม ? มาเริ่มฝึกให้ตัวเองมี Resilience Mindset จะได้ใช้ชีวิตแบบมีความสุขให้มากขึ้นกันเถอะ! ถึงแม้จะล้มก็ไม่เป็นไร ขอแค่ลุกขึ้นได้ก็พอ แต่ละคนมีวิธีคิดให้ตัวเองลุกขึ้นสู้ยังไง มาคอมเมนต์บอกกันบ้างนะคะ ♡

Facebook Comments

หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW